‘แอคเคานต์นี้ถูกตั้งค่าเป็นส่วนตัว’
‘ผู้ใช้ปิดการใช้งานชั่วคราว’
เสียงแจ้งเตือนสั้นๆ ดังขึ้นต่อเนื่องเป็นจังหวะในห้องนอนที่เงียบสงัด ราวกับบทสวดของการอำลาโลกเก่า
เฟยนั่งไขว่ห้างอยู่ปลายเตียง ผ้าม่านยังเปิดกว้างปล่อยให้แสงแดดยามสายส่องกระทบแก้มที่ซีดแต่เฉียบคม ดวงตาเรียบนิ่งแต่ไม่ไร้แวว ในนั้นมีทั้งเศษซากของความเจ็บและประกายของบางสิ่งใหม่ที่กำลังก่อตัว
มือเรียวถือไอแพดแน่น ปลายนิ้วกดหน้าจออย่างมั่นคง ไม่มีความลังเลเหมือนคนที่รู้ดีว่าตัวเองกำลังเผาทิ้งทั้งอาณาจักร เพื่อจะได้เดินออกจากเถ้าถ่านอย่างเป็นอิสระ แพลตฟอร์มที่เคยเต็มไปด้วยยอดผู้ติดตามเป็นล้าน แฟนคลับ คอมเมนต์ แบรนด์ดัง ข่าวบันเทิง กระแสชื่นชมและด่าทอถูกตัดขาดไปทีละช่อง
ติ๊ก! ติ๊ก! ติ๊ก!
ทุกครั้งที่หน้าจอขึ้นข้อความยืนยันการปิดใช้งาน เหมือนเสียงนาฬิกานับถอยหลังของชีวิตเดิม ไอจีเป็นช่องสุดท้าย เธอมองชื่อ “เฟยเยว่” ที่ด้านบนของหน้าโปรไฟล์ ดูเหมือนเป็นแค่คำหรูหราที่ไม่มีใครกล้าแตะ แต่ตอนนี้มันกลายเป็นเพียงเปลือกหนึ่งที่ไม่มีตัวตนจริงเหลืออยู่
นิ้วเรียวกดปุ่ม Deactivate Account อย่างแม่นยำ ปล่อยลมหายใจออกมาเบาๆ คล้ายปล่อยวิญญาณของตัวตนที่เคยถูกจองจำ
“นี่คือวิธีเดียว...ที่จะหายตัวในยุคที่ใครก็เสิร์ชชื่อได้ในสามวินาที” เสียงพึมพำกับตัวเองเบาแค่พอให้ได้ยิน ก่อนจะโยนมือถือเครื่องนั้นใส่กล่องโลหะสีเงินทรงสี่เหลี่ยมข้างเตียง กล่องล็อกสัญญาณ สำหรับดาราระดับท็อปที่ไม่อยากถูกแอบถ่ายหรือติดตามตำแหน่ง
กึ่ก!
ฝาเหล็กปิดลงเหมือนเสียงประตูที่เธอเพิ่งปิดแผ่วๆจากทั้งโลกภายนอก ร่างบางนั่งนิ่ง มองกล่องอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดกับตัวเองด้วยน้ำเสียงนิ่งเย็นเยียบ “ต่อไปนี้...ไม่มีเฟยเยว่ในโลกออนไลน์อีกพักใหญ่”
หนึ่งสัปดาห์หลังจากมาอยู่ในร่างของเฟยเยว่
คอนโด Lowline Suites
แต่สำหรับเธอ มันคือ “สุสานชั่วคราว” ที่เธอฝังตัวเองไว้ไม่ใช่เพื่อหลบหนี แต่เพื่อฟื้นคืนตัวอย่างเงียบงัน
เฟยเยว่นั่งอยู่บนโซฟาผ้าหยาบสีเทา หมอนข้างหลุดตะเข็บเล็กน้อย มีกลิ่นอับจางๆจากผ้าม่านที่ไม่เคยถูกเปลี่ยน แต่เธอกลับไม่รู้สึกแปลกแยก ตรงกันข้าม มันโล่งและไม่มีอะไรเชื่อมโยงไปยังตัวตนเดิม
ห้องนี้ไม่มีชื่อเธอในทะเบียน ไม่มีเอกสารที่เชื่อมโยงกับต้นสังกัด ไม่มีแม้แต่บิลน้ำค่าไฟที่ระบุชื่อคนเป็นเจ้าของ ทุกสิ่งที่นี่…คือเงา
เหมือนตัวเธอในตอนนี้ และคือ “หลุมลับ” ที่แพรพลอยเป็นคนจัดการให้ ห้องของรุ่นพี่ในวงการคนหนึ่งที่เพิ่งย้ายไปอยู่อเมริกาและปล่อยกุญแจไว้ให้ ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครหาเจอ แม้แต่ข่าวลือยังไม่มี
ในมือของเธอ…คือมือถือเครื่องใหม่ ชื่อเจ้าของไลน์คือ “ซาลาเปา” เบอร์ใหม่ ไอดีใหม่ ไม่มีรูป ไม่มีประวัติ ไม่แม้แต่ชื่อเล่น
เธอไม่เปิดไฟในห้องหลังหกโมงเย็น มีเพียงแสงสลัวจากหน้าต่างที่ลอดผ้าม่านบางๆ เข้ามาโลกของเธอตอนนี้…คือเงาและเธอกำลังกลืนมันเข้าไปจนหมด
“หลบไม่ได้…ก็ต้องกลืนเงา” เสียงของเธอราบเรียบไม่สั่น กระซิบกับตัวเองเบาๆ ขณะนั่งนิ่งจนแทบไม่หายใจ เพราะนี่ไม่ใช่เสียงของผู้หญิงที่กำลังจะร้องไห้ แต่มันคือเสียงของผู้หญิงที่ พร้อมจะอยู่ในเงา จนกว่าจะกลับมาในแสง
ติ๊ง
เสียงแจ้งเตือนข้อความเพียงครั้งเดียว หน้าจอสว่างขึ้นในห้องมืดสลัว
แพรพลอย : “เรียบร้อย ไม่มีใครรู้ว่าแกอยู่ที่ไหน ยกเว้นฉันกับพนักงานที่ไม่รู้จักชื่อแก”
เฟยมองข้อความนิ่งๆถอนหายใจยาว ปลายนิ้วแนบจอแต่ไม่กดตอบ เธอควรจะโล่งใจ แต่มันกลับรู้สึกเหมือนโลกเงียบผิดปกติเกินไป ในหัวมีแต่คำถามเดิมๆที่วนซ้ำจนปวดขมับ
“เขาเป็นใคร?” เสียงของเขาที่ฝังอยู่ในความทรงจำแบบไม่ต้องพยายามจำ
“ทำไมร่างนี้ถึงไปลงเอยกับเขาในคืนนั้น?” เฟยเยว่ในนิยายคือผู้หญิงที่วางยาพระเอก แต่ชายที่เธอเสียตัวให้…ไม่ใช่พระเอก
“แล้ว...ถ้าเขาตามเจอ?” คำถามสุดท้ายพ่นออกมาจากหัวใจราวกับลมหายใจสุดท้ายก่อนจมน้ำ เพราะไม่ใช่แค่เธอไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร
แต่กลับรู้สึกได้ว่า…เขาอาจจะรู้อยู่ตลอดว่าเธออยู่ที่ไหน
เธอก้มมองร่างตัวเองในแสงสลัวของห้อง ถึงจะอยู่ในเสื้อยืดธรรมดากับกางเกงผ้าขาสั้น แต่ผิวเนื้อใต้ร่มผ้า ยังมีร่องรอยที่หลงเหลือจากคืนนั้น รอยบางจุดจางลงแล้ว แต่บางจุดโดยเฉพาะที่ต้นขาด้านในยังคงมีจ้ำแดงจางๆให้เห็นชัดเจนเมื่อเธอขยับ...ร่องรอยจากมือใครคนหนึ่งและที่หนักกว่านั้น คือหัวใจของเธอที่ยังจำ “สัมผัสนั้น” ได้ทุกวินาที
ร่างบางขยับนั่ง กอดเข่าขึ้นมาช้าๆบนโซฟาแผ่นหลังพิงพนัก ดวงตาเหม่อมองความมืดหลังม่านโปร่งที่ปิดหน้าต่างไว้ ข้างนอกนั้น...เงียบเหมือนโลกทั้งใบกำลังกลืนเธออยู่ช้าๆ
โลกนี้ไม่ใช่ของเธอ
ร่างนี้ก็ไม่ใช่ของเธอ
และแม้แต่ความรู้สึกตอนนี้...ก็ไม่แน่ใจว่าเป็นของใครกันแน่
ติ๊ง!
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าสวยหันไปมองหน้าจอที่สว่างวาบในความมืดของห้อง
แพรพลอย : “ต้นสังกัดบอกว่าไม่มีปัญหา ขอแค่ ‘ไม่มีเรื่องซ้ำ’ เหมือนปีที่แล้ว”
“แล้ว...แกจะกลับมาเริ่มงานเมื่อไร ฉันจะได้จัดคิวให้ถูก?”
เฟยวางโทรศัพท์ลงข้างตัว ยังไม่ได้ตอบในทันที แสงหน้าจอยังสว่างอยู่ข้างเธอ ขณะที่เธอจมอยู่ในความคิดเงียบๆ
นัยน์ตาหวานหลุบต่ำอย่างเหนื่อยล้า เสียงกดของแป้นพิมพ์เบาๆดังในห้องว่างเปล่า
“ยังไม่ใช่ตอนนี้”
ข้อความสั้นๆเพียงห้าคำแต่หนักเท่าภูเขาทั้งลูก เธอกดส่ง แล้ววางโทรศัพท์คว่ำลง สายตากลับไปจ้องมองความมืดนอกหน้าต่างอีกครั้ง
เพราะบางครั้ง...การไม่กลับไปอาจไม่ใช่เพราะไม่กล้า แต่เพราะเธอกำลัง สร้างตัวเองใหม่
และเมื่อวันนั้นมาถึง...คนทั้งวงการจะได้เห็นว่า เฟยเยว่ จะไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นช้าๆ ลมหายใจอุ่นร้อนปะทะริมฝีปากที่ยังแสบชื้น ผิวสัมผัสนั้น แม้เวลาจะผ่านไปหลายวัน ยังคงหลงเหลือร่องรอยที่ ความทรงจำของร่างกายไม่ยอมลบ
ดวงตาคู่นั้น...ที่เคยจ้องลงมาจากด้านบนในเงามืดยังคงกะพริบซ้ำในหัวเธอเหมือนฉากวนลูปและในความเงียบ...
เสียงของเขาแผ่วต่ำ ทุ้มลึกและแทรกผ่านเข้ามาในสมองอย่างไม่ตั้งใจ
“ร่างกายของเธอ…ตอบฉันทุกจังหวะ อย่าหนี”
ประโยคนั้นไม่ได้ดังจากโทรศัพท์ ไม่ได้ดังจากหู แต่มาจากข้างในจากจิตใต้สำนึกที่ยังหลอนความรู้สึกคืนนั้น
เธอกัดฟันแน่นขากรรไกรเกร็งจนสั่น มือกำแน่นกับชายเสื้อ
“ขอโทษนะ…แต่ฉันจะหนีให้ได้” เธอพึมพำเสียงสั่นเล็กน้อย แต่แฝงด้วยแรงดื้อดึงที่แทบระเบิดออกมาเป็นไฟ
“ไม่ว่าแกจะเป็นใคร…ถ้าแกเห็นฉันเป็นแค่ของเล่น ฉันจะหายไปให้ดู”