บทที่ 3
พี่คุณ…
“ชา ดาวขอโทษ ดีกันนะ”
ดาวเอ่ยเสียงอ่อนหลังจากพยายามตามง้อเพื่อนรักอยู่นานสองนาน แต่น้ำชาก็ยังไม่มีท่าทีจะหายงอน ดาวเดินตามหลังน้ำชาต้อย ๆ ไปทั่วห้องชมรมวาดภาพ ในขณะที่น้ำชาก็แกล้งทำเป็นไม่สนใจพลางทำนู่นทำนี่ไปเรื่อย
“ดาวซื้อขนมที่น้ำชาคนสวยชอบมาด้วยนะ”
ดาวไม่ลดละยังพยายามตามง้องอนเพื่อนรักสุดฤทธิ์
“ดาว ฟังนะ เมื่อคืนแกเรื้อนมาก แล้วไอ้พี่คุณอะไรนั่น” พอพูดถึงลุงรหัสของดาว น้ำชาก็ชะงักเพราะคิดถึงภาพตอนไอ้พี่บ้านั่นกำลังปลดเข็มขัดกางเกง
“ทำไมเหรอชา พี่คุณทำไม”
“ก็เป็นภาระให้พี่เขาไง พี่เขาต้องมาส่งแกถึงห้อง”
“อือ รู้สึกผิดแล้ว ไม่ทำอีกแล้ว ขอโทษน้า”
“ดาว แกฟังนะ”
“สายรหัสแกโคตรงี่เง่า แกอย่าไปบ้าตามพวกพี่ๆ นั่นให้มันมาก”
“รู้แล้วจ้า น้ำชาคนเก่ง ดีกันนะ” ดาวทำหน้าสำนึกผิดส่งไปให้
น้ำชาถอนหายใจใส่เพื่อนรักก่อนที่ทั้งสองจะกลับมาคืนดีกันในที่สุดจากนั้นดาวนั่งเป็นเพื่อนน้ำชาจนกระทั่งเพื่อนสนิทต่างคณะของทั้งสองคนมาถึง
“พวกกูเพิ่งมา มึงจะไปแล้วเหรอ” หญิง เด็กสาวจากคณะแพทยศาสตร์เอ่ยถามดาว
“กูมานานแล้วเหอะ ไปละ ไปนะฟ้า น้ำชา แล้วก็มึงอีหญิง”
“ไปไกล ๆ กูเถอะ” สองสาวคู่กัดเถียงกันจนทำให้เพื่อนๆ เอือมไปตามระเบียบ
หลังจากดาวกลับไปแล้ว ทั้งสามก็นั่งวาดรูปกันต่อจนถึงเที่ยง
“ไปหาอะไรกินกัน” ปรายฟ้าสาวสวยจากคณะอักษรศาสตร์เอ่ยชวนเพื่อนๆ
วันนี้ทั้งสามไปกินข้าวเที่ยวที่โรงอาหารกลางของมหาลัยเพราะวิวดี อาหารมีหลากหลาย ตั้งแต่ข้าวไข่เจียวไปจนถึงอาหารญี่ปุ่นเกรดพรีเมียม
สามเพื่อนรักเลือกที่นั่งริมทะเลสาป มุมประจำที่ถ้ามาไม่ถูกจังหวะจะไม่มีทางได้นั่งเพราะคนเต็มตลอด พวกเธอรีบเข้าไปจองโต๊ะโดยไม่ทันสังเกตว่าถัดไปสองโต๊ะที่มีนักศึกษากลุ่มใหญ่นั่งอยู่นั้นมีใครบางคนนั่งอยู่
ทั้งสามแยกย้ายกันไปซื้อข้าวก่อนจะกลับมานั่งที่ น้ำชานั่งตรงข้ามกับเพื่อนทั้งสองหันหลังให้นักศึกษากลุ่มใหญ่ที่คุยกันเสียงดังอย่างไม่เกรงใจคนอื่น
“ฟ้า มึงทำตัวปกตินะ”
“ฉันก็ทำปกติ”
“แกเห็นนั่นไหม ต่อหน้ามึงเลย นั่นพี่คุณ”
“ไหนวะ”
“กูบอกให้เนียนๆ อย่ากระโตกกระตาก”
ปรายฟ้าก้มหน้ากินข้าวต่อทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่คุยอะไรกับเพื่อนก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองผู้ชายตามที่เพื่อนบอก แล้วเธอก็ก้มหน้ากินข้าวต่อทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“อื้อหือ หล่อมาก หล่อวัวตายควายล้ม”
“จริง”
“ชา มึงหันไปดูนะ แล้วมาเม้าท์ต่อ”
“ไม่เอา ฉันไม่อยากดู”
“ดูเถอะน่า นิดเดียว กูอยากฟังความเห็นมึง”
น้ำชาที่ทนเพื่อนรบเร้าไม่ไหวจึงทำแกล้งทำเป็นหันไปมองหาเพื่อน ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แต่แล้วก็เจอเข้าอย่างจัง...สายตาคมกริบของชายหนุ่มนั้นกำลังจับจ้องมาที่เธอ เขาน่าจะมองเธอมาสักพักแล้ว
น้ำชารีบหันกลับมาหาเพื่อน เพราะภาพตอนที่ทั้งสองจูบกันมันยังลอยเข้ามาในหัวบ่อย
“เป็นไงชา กี่คะแนน”
“ฉันปวดท้องอ่ะ โอ้ยไม่ไหวแล้ว กลับแล้วนะ ไม่ไหว”
“เอ้าเหรอ ไหวไหม มึง”
“ไหวๆ จะรีบไปนะ เจอกัน”
“เคๆ กลับดี ๆ ล่ะ”
น้ำชาพยักหน้าให้เพื่อนๆ ก่อนจะคว้ากระเป๋ากับจานข้าวออกมาจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด
เด็กสาวเอาจานข้าวไปเก็บก่อนจะรีบเดินไปขึ้นรถไฟฟ้าซึ่งค่อนข้างอยู่ไกลพอสมควร
น้ำชาเดินไปตามทางเรื่อย ๆ แต่ทว่าเธอก็รู้สึกว่ารถคันหลังนั้นขับช้าแปลกๆ เมื่อหันกลับไปมองก็จำได้ในทันทีว่าเป็นของรถไอ้พี่คุณนั่นเอง น้ำชารีบเดินหนีพร้อมทั้งคอยหันหลังกลับไปมองว่ารถคันนั้นยังตามมาไหม ด้วยความกังวลผสมกับความเร่งรีบในจังหวะที่เธอหันหลังไปมองรถก็ไม่ทันเห็นว่ามีรถจักรยานยนต์วิ่งออกมาจากซอยทำให้รถเฉี่ยวจนเธอล้มลง ดีที่รถคันหลังนั้นเบรกได้ทันไม่เหยียบซ้ำ
“น้องเป็นอะไรมากไหม เดี๋ยวพี่พาไปหาหมอ”
คนขับรถจักรยานยนต์รีบเข้ามาดูอาการเด็กสาว
“ไม่ต้อง!”
น้ำชางุนงง เพราะเธอไม่ได้เป็นคนตอบ เด็กสาวเลิกลักหันไปหาเสียงนั่นก็พบว่าไอ้พี่คุณยืนอยู่ข้างหลังของเธอแล้ว
“ฉันพาไปเอง นายไปได้แล้ว”
“ครับๆ ไปนะครับ”
คู่กรณีของชาที่เห็นชายหนุ่มตัวสูงใหญ่ท่าทางรวยเอ่ยเสียงเย็นก็รีบไปขี่รถออกไป
น้ำชาที่เห็นแบบนั้นก็กลั้นใจลุกขึ้น ก่อนจะเดินกะเผลกหนีชายหนุ่มไป แต่แล้วเธอก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อไอ้พี่คุณนั้นเข้ามาอุ้มเธอไว้
“ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ”
“ปล่อย!!!”
“อยู่นิ่งๆ ถ้าตกลงไปก้นกระแทกพื้นกระดูกหักไม่รู้ด้วยนะ”
ชายหนุ่มอุ้มเธอไปนั่งที่เบาะข้างคนขับก่อนที่เขาจะคาดเข็มขัดให้เธอพร้อมทั้งกระซิบไปด้วย
“อย่าคิดหนี เพราะฉันเอาจริง”
ชายหนุ่มขู่ด้วยท่าทางเอาจริงก่อนจะเดินไปที่นั่งคนขับแล้วก็ขับรถพาเด็กสาวออกไป
“จะไปไหน”
“ไปหาหมอไง”
“ไม่ได้เป็นอะไร แค่ขาถลอก”
“ก็ไปทำแผลไง”
“ไม่ไป”
ชายหนุ่มหาไม่ฟัง เขาขับรถมาจอดที่คลินิกแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากคอนโดน้ำชานักก่อนจะลงมาฝั่งข้างคนขับแล้วทำท่าจะอุ้มเธออีกครั้ง
“ไม่ ไม่ อย่า ชาจะเดินเอง”
น้ำชารีบร้องบอก ชายหนุ่มที่ได้ยินแบบนั้นก็ยืนรอดูว่ายัยเด็กอวดดีคนนี้จะแน่สักแค่ไหน
เด็กสาวลงมาจากรถก่อนจะเดินกะเผลกเข้าไปในคลินิกโดยที่มีชายหนุ่มเดินตามหลัง เขานั่งรอจนคุณหมอทำแผลให้เธอเสร็จเรียบร้อยก่อนจะลุกขึ้นไปชำระค่ารักษา
“ไม่เป็นค่ะ เดี๋ยวน้ำชาจ่ายเอง”
น้ำชารีบวิ่งเข้าไปที่เคาน์เตอร์ก่อนจะดึงกระเป๋าสตางค์ออกมา แต่ทว่าพี่คุณก็ควักเงินออกจากจ่ายก่อน
“เก็บเงินเอาไว้กินขนมเถอะ ไปได้แล้ว”
ว่าแล้วชายหนุ่มก็เดินออกจากคลินิกตรงไปยังรถของตนเอง น้ำชาที่เห็นแบบนั้นก็รีบคว้าถุงยาแล้วรีบเดินตามหลังไป
“ยืนอยู่ทำไม มาขึ้นรถสิ”
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวกลับเองค่ะ”
“จะไปส่ง”
น้ำชาส่ายหัวปฏิเสธ
“ถ้าไม่เดินมาขึ้นรถ ฉันจะเดินไปอุ้มเอง”
ท่าทางของเขา ดูก็รู้ว่าเอาจริง
เด็กสาวเดินไปขึ้นรถที่มีชายหนุ่มเข้าไปนั่งรออยู่แล้ว
“พักอยู่ที่ไหน จะไปส่ง”
“เอ่อ ส่งปากซอยสามก็ได้ค่ะ”
ชายหนุ่มหันขวับมามองหญิงสาว เขาขมวดคิ้วใส่เธอก่อนจะโพล่งออกมา
“บอกว่าจะไปส่ง”
น้ำชาขมวดคิ้วกลับไปบ้าง ก่อนจะตอบเบาๆ
“ก็บอกว่าให้ส่งแค่ปากซอยไงคะ” ไม่เข้าใจเหรอ ประโยคหลังเธอซ่อนไว้ในใจ
“นี่เธอ”
ชายหนุ่มจ้องตาเด็กสาวเขม็งขณะที่เธอเองก็จ้องกลับอย่างไม่ลดละ
เธอกลัวซะที่ไหนล่ะ
“คิดว่าฉันไม่รู้เหรอว่าเธออยู่ที่ไหน” ชายหนึ่งยกยิ้มขึ้นก่อนที่เขาจะเหยียบคันเร่งออกไปทันที
พี่คุณไม่ได้พูดเล่น เขารู้จักที่อยู่เธอจริง ๆ เพียงแค่ไม่นานรถของชายหนุ่มก็มาจอดหน้าคอนโดของน้ำชา แม้อยากถามใจจะขาดว่ารู้จักที่อยู่เธอได้อย่างไรแต่น้ำชาก็เลือกจะเงียบเพราะไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด
“ขอบคุณนะคะ”
เด็กสาวเอ่ยทั้งยังไม่ลืมยกมือขึ้นไหว้ขอบคุณราวกับไหว้พ่อ
“ฉันปวดฉี่ ขอไปเข้าห้องน้ำหน่อย”