เดินออกมาพ้นหัวมุม ยังไม่ทันได้ปรับอารมณ์ อัยยาก็ต้องหัวเสียอีกครั้ง เมื่อจู่ๆ ก็มีมือปริศนาพุ่งออกมาจากมุมมืดคว้าเอวเธอไว้ จับตัวหมุนทีเดียวแผ่นหลังก็ประชิดกำแพง ทรวงอกนุ่มนิ่มกระแทกเข้ากับของแข็งบางอย่าง ก่อนจะถูกกดทับตรึงร่างเธอเอาไว้จนขยับไม่ได้
พอได้สติ เธอเงยหน้ามองคนทำ ทว่าความสูงของเขาทำให้สายตาเธอปะทะเข้ากับแผงอกหนั่นแน่นที่กดทับกักขังตัวเองอยู่ในอ้อมแขนกำยำ ต้องแหงนหน้าจนคอแทบหักถึงจะเห็นใบหน้าเขาชัดๆ
อัยยาชะงัก นิ่งไปอึดใจ เมื่ออีกฝ่ายก้มตัวลงมาพอดี ทำให้หน้าเธอกับหน้าเขาแทบจะชนกัน ปลายจมูกอยู่ห่างกันเพียงลมหายใจกั้น เธอกลั้นหายใจพลางขมวดคิ้ว จำได้ว่าเขาคือคุณลูกค้าสุดหล่อที่เธอแอบแซวนี่นา ตอนนี้เขาควรจะเล่นจ้ำจี้กับแฟนสาวอย่างหวานชื่นอยู่ไม่ใช่หรือ แล้วทำไมใบหน้าถึงมืดครึ้ม สายตาเย็นเยียบจ้องมองเธอเหมือนจะแช่แข็ง ยังกับเธอไปทำให้ธุรกิจร้อยล้านของเขาเสียหายงั้นแหละ
หรือว่าของที่เธอจัดส่งไปให้จะไม่เร้าใจพอ?
เธอข่มความไม่พอใจเอาไว้ เพราะคำนึงถึงกฎเหล็กที่ว่าลูกค้าคือพระเจ้า กำลังจะอ้าปากถาม ก็ได้ยินน้ำเสียงเย็นชาติดลบเอ่ยเหมือนคำรามออกมาเบาๆ ชิดริมหูว่า
“รู้ตัวไหมว่าคุณทำให้ผมเสียหายมากแค่ไหน?”
อัยยาเลิกคิ้ว ถามกลับ
“ฉันทำอะไร?”
“คุณเป็นพนักงานส่งของที่ห่วยที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมาเลย” คำพูดของเขายังไม่รุนแรงเท่ากับสายตาดูถูกที่กำลังบอกเธอโต้งๆ ว่า
แค่ส่งของยังทำให้ดีไม่ได้ แล้วชาตินี้จะไปทำอะไรได้อีก!
หญิงสาวคอแข็ง ย้อมถามกลับอย่างกวนประสาท
“ทำไมคะคุณลูกค้า ของที่ฉันส่งให้มีปัญหาหรือว่าของคุณไม่สู้กันแน่คะ”
ทีปต์สีหน้ามืดคล้ำ ผู้หญิงคนนี้นี่มันยังไง ทำไมถึงได้กล้าพูดจาลามกโดยไม่กระดากปาก
คงจะช่ำชองมากสินะ!
ที่สำคัญ... ไม่เคยมีใครกล้าสบประมาทเขาถึงขนาดนี้!
ความสงสัยบวกกับความขุ่นเคือง ผลักดันให้มือหนาใหญ่คว้าหมับที่ปลายคางเรียวแหลมโดยที่หญิงสาวไม่ทันตั้งตัว ตรึงใบหน้าเธอไว้ไม่ให้หลบหลีกจูบดุดันที่ประกบริมฝีปากชุ่มฉ่ำสีระเรื่อ รุกรานอย่างอุกอาจบดเคล้าลงมาแนบแน่นเต็มตื้น ลิ้นร้อนผ่าวและเล็มเลียไล้กลีบปาก ดันเผยออ้าออกแล้วสอดพุ่งเข้าไปภายใน ดูดดึงเกี่ยวรัดลิ้นเธอ กวาดชิมความหอมหวานในอุ้งปากตามอำเภอใจ
“อื้อ...อ...”
อัยยาตกใจสติกระเจิดกระเจิงจนควบคุมลมหายใจไม่ได้ ส่งเสียงอู้อี้อยู่ในปากเขาด้วยความตื่นตระหนก ริมฝีปากกระด้างและเย็นชากลืนกินเธออย่างสมบูรณ์ ลำแขนแข็งแรงโอบรัดรอบแผ่นหลัง ต่อให้ดิ้นอึกอัก สองมือดันอกเขาพยายามขัดขืนสักแค่ไหน ก็ไม่อาจสู้เรี่ยวแรงของชายผู้แข็งแกร่งคนนี้ได้ เขาปล้นจูบเธออย่างเอาแต่ใจจนไม่อาจขัดขืนได้เลย
ทีปต์กัดริมฝีปากเธอซ้ำย้ำจนห้อเลือดเป็นการลงโทษที่กล้าต่อปากต่อคำกับเขา แล้วกดจูบคลุกเคล้าอย่างลึกล้ำ ดูดซับลมหายใจไปจากเธอจนในปอดแทบไม่เหลืออากาศ กระทั่งหญิงสาวทุบอกเขาระรัวอย่างประท้วง เขาจึงยอมถอนริมฝีปาก ปล่อยตัวเธอให้พักหายใจบ้าง
เขากระตุกยิ้มพอใจ จะว่าไปปากร้ายๆ ของเธอก็หวานถูกใจเขาอยู่เหมือนกันแฮะ
“รู้รึยังว่าคนอย่างผมไม่จำเป็นต้องใช้ของเล่นเด็กๆ แบบนั้นหรอก”
อัยยาอ้าปากสูดลมเหมือนคนขาดออกซิเจน หอบหายใจแรง ปากบวมแดง แก้มมีเลือดฝาด พูดไม่ได้เถียงไม่ออก ได้แต่มองเขาตาเขียวปั๊ด
“คุณ...!”
เธอกัดฟัน ยกมือถูริมฝีปากแรงๆ ด้วยความรังเกียจ แต่เจ้าตัวหาได้สนใจสักนิด เขายืนกอดอกมองเธอยิ้มๆ อย่างคนที่เหนือกว่า ยิ่งมองยิ่งขัดลูกตา อยากจะกรี๊ด ยกมือตะกรุยหน้าเขาให้แหลกชะมัด
หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พยายามระงับอารมณ์ บอกตัวเองว่าผู้ชายตรงหน้าเป็นคนบ้า อย่าไปสนใจ ถือซะว่าเธอโดนหมาเลียปากก็แล้วกัน ตอนนี้ชนนท์และครอบครัวสรณ์สิริยังอยู่ใกล้ๆ ขืนมาเห็นเธอในเห็นสภาพที่น่าอายแบบนี้เข้า เดี๋ยวจะเอาไปประจานใส่ความเธอผิดๆ เหมือนที่ผ่านมาอีก เธอควรรีบไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด
อัยยาค้อนควักผู้ชายหน้าตาดีแต่บ้ากาม แล้วก้าวขาเดินผ่านหน้าเขาไปอย่างไม่สนใจ แต่ยังไม่ทันพันตัวเขา ข้อมือก็ถูกเขาฉุดเอาไว้อีกครั้งพร้อมกับเสียงทุ้มต่ำที่เอ่ยถามอย่างเอาเรื่อง
“จะไปไหน คุณยังไม่ได้ชดใช้ค่าเสียหายให้ผมเลย”