EP.6 งานแต่งงาน

1787 Words
ทิวเทพกลับเข้ามาในห้องหลังจากที่ออกไปสงบสติอารมณ์แล้วก็พบว่าทิชาหลับไปเรียบร้อย เขาจึงไปอาบน้ำเตรียมเข้านอน เมื่อเขาขึ้นไปบนเตียง ทิชาก็พลิกตัวมากอดเขาไว้แน่น หน้าอกนุ่ม ๆ เบียดอยู่กับแขนของเขากลิ่นสบู่หอมอ่อน ๆ พาลทำให้ชายหนุ่มตัวแข็งเทื่อ พยายามห้ามใจไม่ให้ตัวเองรังแกเธอ อดทนไว้ไอ้ทิว อีก 2 อาทิตย์เท่านั้น ทิวเทพได้แต่คิดแล้วกอดเธอไว้ก่อนจะหลับไป เมื่อทิชารู้สึกตัวตื่นตอนเช้าก็พบว่าเธอกำลังนอนอยู่ในอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นของทิวเทพ เธอใช้โอกาสนี้สังเกตใบหน้าของชายหนุ่มที่เธอกำลังจะแต่งงานด้วย ริมฝีปากหยักที่จูบเธอเมื่อคืนอย่างอ่อนหวาน อยู่ห่างเธอแค่นิดเดียว คนอะไร หลับก็หล่อ ตื่นก็หล่อ /// ทิชาชื่นชมทิวเทพอยู่เงียบ ๆ เขาขยับทำท่าจะตื่น ทิชาจึงแกล้งหลับต่อเพราะอยากรู้ว่าเขาจะทำยังไงเมื่อเห็นเธอหลับอยู่ ทิวเทพตื่นขึ้นมาพร้อมมองหน้าทิชา เมื่อเห็นว่าเธอยังหลับอยู่ชายหนุ่มจึงแอบหอมแก้มเธอ ก่อนจะค่อย ๆ ขยับตัวลุกออกจากเตียงพร้อมกับห่มผ้าให้เธอและเดินออกไปจากห้อง เพื่อบอกให้แม่บ้านเตรียมอาหารเช้าไว้ให้ก่อนที่ทิชาจะตื่นเมื่อทิวเทพออกไปทิชาที่แกล้งหลับก็ลุกขึ้น "มีแอบหอมแก้มด้วย บทจะดุก็ดุ บทจะน่ารักก็น่ารัก ตาบ้านี่" ทิชาอาบน้ำ แต่งตัวเรียบร้อยก็ออกมาทานอาหารพร้อมทิวเทพที่รออยู่ ทั้งสองต่างไม่พูดถึงเรื่องเมื่อคืน ทิชาอยากแกล้งเป็นจำไม่ได้ว่าเมื่อคืนเธอจูบกับเขา อยากรู้เหมือนกัน ว่าพ่อหนุ่มมาดนิ่งจะทำยังไง? "เมื่อคืนทิชาเมามากเลยใช่ไหมคะ จำอะไรไม่ได้เลย" "อืม เมา" "ขอบคุณนะคะที่พาไปนอน" "อืม กินเสร็จแล้วไปเตรียมตัวซะ วันนี้เราต้องไปหลายที่" "ค่ะ พี่ทิว" หลังจากเตรียมตัวเรียบร้อยทิวเทพก็พาทิชาไปลองชุดแต่งงานพร้อมกับถ่ายพรีเวดดิ้ง ทั้งหมดเขาได้เตรียมไว้แล้วทั้งชุดเจ้าสาว ชุดเพื่อนเจ้าสาวทิชามีหน้าที่แค่ไปลองแค่นั้นพอ ซึ่งเธอก็ยินดีเพราะไม่อยากเลือกเองเช่นกัน "ทิชา ขอให้เพื่อนทิชาเป็นเพื่อนเจ้าสาวได้ไหมคะ" "อืม" "ขอบคุณนะคะ”ทิชากล่าวพร้อมส่งยิ้มหวานให้เขา หลังลองชุดและถ่ายพรีเวดดิ้งเสร็จ เธอก็ไลน์บอกเพื่อนให้ส่งไซส์ของแต่ล่ะคนมา เพื่อให้จัดการให้และไปทำธุระต่อกับคุณทิวเทพจนเย็น กว่าจะได้กลับไปพักทั้งคู่ก็แทบหมดแรง ********** วันรุ่งขึ้น พี่ทิวบอกว่า วันนี้คุณแม่จะเข้าไปคุยเรื่องสู่ขอกับพ่อของฉัน ฉันจึงรีบตื่นมาเตรียมตัวก่อนจะนั่งรถไปที่บ้านพร้อมคุณแม่แล้วพี่ทิว เมื่อมาถึงบ้านทิชาเธอก็เดินนำคุณแม่และพี่ทิวไปหาพ่อกับแม่เลี้ยงฉัน "สวัสดีค่ะ ฉันชื่อ ธารา นะค่ะ" "สวัสดีครับ" "วันนี้ฉันจะมาสู่ขอลูกสาวคุณให้กับลูกชายฉันอย่างเป็นทางการค่ะ" "ยินดีเลยครับ เอ่อ..... แล้วเรื่องสินสอดล่ะครับ” "ทางคุณเสนอมาได้เลยค่ะ" พ่อกับแม่เลี้ยงฉันหันมองหน้ากัน ก่อนแม่เลี้ยงจะพูดขึ้นว่า "งั้นฉันไม่เกรงใจนะค่ะ ฉันมีลูกสาวคนเดียว สินสอดคงต้องสมน้ำสมเนื้อหน่อยนะคะ" ฉันเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความโลภแวบหนึ่ง พาลใจไม่ดี เหมือนพี่ทิวจะรู้ว่าฉันคิดอะไรอยู่ เขายื่นมือมากุมมือฉันไว้อย่างอ่อนโยน "20 ล้านค่ะ พร้อมทองอีก 10 บาท ค่ะ หวังว่าคุณคงไม่มีปัญหานะคะ" ฉันตกใจมากที่แม่เลี้ยงเรียกสินสอดมากขนาดนั้น "พ่อคะ นี่มันมากไปนะคะ”ฉันรีบหันไปบอกพ่อทันที "มากไปยังไง ฉันเลี้ยงแกมาตั้งกี่ปี แค่นี้มันยังไม่พอด้วยซ้ำ!!!" "แต่ว่า พ่อคะแบบนี้มัน...." "ตาทิว พาน้องไปรอที่รถ แม่คุยเอง" "ครับแม่” ทิวเทพออกแรงดึงฉันพร้อมบอกว่า "ไปกันเถอะ ทางนี้ให้แม่พี่จัดการนะ” “แต่พี่ทิวคะ แบบนี้มันมากไปนะคะ พ่อคะ นี่พ่อเห็นหนูเป็นลูกบ้างหรือเปล่า แบบนี้มันเหมือนพ่อขายหนูเลยนะคะ!!!” ฉันตอบ พร้อมกับหันไปถามพ่อ "ทิชา!!!! มันจะมากไปแล้วนะ แกเป็นลูกมีหน้าที่ตอบแทนพ่อแม่ นิสัยเถียงพ่อแม่ นี่มันแก้ไม่ได้สินะ จนจะแต่งงานอยู่แล้ว!!" พ่อของทิชาตะโกนขึ้น "พ่อคะแต่ว่า..." "พอแล้วทิชา ให้แม่พี่จัดการนะ ฝากด้วยนะครับแม่" "จ่ะ พาน้องไปพักเถอะ แม่จัดการเอง" หลังผมจากออกมาทิชาออกมา เธอก็ร้องไห้ออกมาอย่างสุดจะกลั้น "ฮือ....ฮือ.... ฮึก ทะ ทำไมพ่อทำกับทิชาแบบนี้ เหมือนทิชาไม่ใช่ลูกเลย ฮือ...." ผมดึงทิชาเข้ามากอดพร้อมกับลูบหลังปลอบโยนเธอ "ให้แม่พี่จัดการนะ อย่าคิดมาก" ร่างเล็กซุกอกผมแล้วร้องไห้ออกมาอย่างอัดอั้น ผมรีบพาทิชาขึ้นรถก่อนกลับเพนเฮาส์ "วันนี้เธอพักเถอะ อย่าคิดมากนะ" "ค่ะ" เธอตอบพร้อมกับล้มตัวนอน ผมก้มลงไปหอมหน้าผากทิชาก่อนจะกล่าวปลอบโยน "เรื่องทั้งหมดจะไม่เป็นไร เชื่อพี่นะ" ผมรีบออกมาจากห้องก่อนจะโทรหานนท์ "ไอ้นนท์ สืบประวัติของพ่อทิชากับแม่เลี้ยงมาให้หมด ด่วน" "ครับนาย" ผมภาวนาให้เรื่องที่ผมคิดมันไม่เป็นจริง ได้แต่หวังว่า มันจะเป็นแค่ความโลภมากของคน 2 คนมากกว่าเรื่องอื่น ไม่งั้น ทิชาอาจจะเสียใจมากกว่านี้ก็ได้ เมื่อแม่กลับจากคุยกับบ้านนั้น แม่ก็โทรมาหาผมทันที "ครับแม่" "แม่จัดการเรียบร้อยแล้วนะ ไม่ต้องห่วง" "แม่จัดการยังไงครับ" "ก็ให้สินสอดไปตามที่เขาต้องการแลกกับการไม่มายุ่งกับหนูทิชาอีก ซึ่งเขาก็ตกลงนะแม่ให้เซ็นสัญญาแล้ว" "รอบคอบมากครับแม่" "แน่นอนอยู่แล้ว คนนี้ ลูกรักจริงใช่ไหม ตอบแม่หน่อย" "ครับ ใช่ครับ แต่ผมสงสัยอยู่อย่างหนึ่ง..." "แม่ก็สงสัย เลยให้ทำสัญญาไว้ก่อนไง" "งั้นเหรอครับ ขอบคุณครับแม่ ที่เหลือผมจัดการเอง" "จ้า" ผมวางสายแม่ ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจ ก่อนกลับเข้าไปในห้องและบอกกับทิชาไปตามตรง ซึ่งเธอก็ไม่ได้พูดอะไร แต่ท่าทางของเธอกลับไม่ค่อยร่าเริงเท่าไหร่นั้นมันทำให้ผมไม่สบายใจเลย ผมจึงบอกให้เธอนอนพักก่อนจะออกไปจัดการธุระที่เหลือ หลังจากวันนั้นเธอก็ไม่พูดเรื่องนี้อีก ระหว่างทั้งสองคนกำลังเป็นไปด้วยดี ต่างปรับตัวเข้าหากัน เขาดูแลเธอดีมากคอยมารับมาส่งเธอทุกวันก่อนไปทำงาน ทั้งคู่แลกเปลี่ยนไลฟ์สไตล์กันและกัน สนิทกันมากขึ้น ทิชาไว้ใจเขามากขึ้นและการมีเขาอยู่ข้าง ๆ ทำให้เธอสบายใจขึ้นมาก วันแต่งงาน "แกฉันตื่นเต้นมากเลย ทำไงดี" ทิชาที่แต่งชุดเจ้าสาวสีขาวและกำลังแต่งหน้าหันไปบอกเพื่อน ๆ ของเธอที่อยู๋ในห้องแต่งตัวอย่างตื่นเต้น "หายใจเข้าลึก ตั้งสตินะ แกทำได้”ลดาบอกพลางลูบหลังฉัน ให้ฉันตั้งสติ "วันนี้แกสวยมากเลยทิชา” "ขอบใจนะน้ำชา" "ใจเย็น ๆ เดี๋ยวก็มีผัวแล้ว”ดาวเอ่ยแซวฉัน ฉันหันไปค้อนดาว ก่อนที่ช่างแต่งหน้าจะหันหน้าฉันกลับมาแต่งต่อ "ยังไงพวกฉันก็ยินดีด้วยนะแก แต่งงานคนแรกเลยน้าาา" "ขอบใจมากน้าาา ถ้าไม่มีพวกแกฉันต้องทำอะไรไม่ถูกแน่ๆ เลย" "อย่ามาซึ้งตอนนี้สิฉันจะร้องตาม เดี๋ยวไม่สวย”ดาวบอก ฉันหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะลุกไปกอดทุกคน ก๊อก ก๊อก ก๊อก ..... "คุณทิชาคะ เจ้าบ่าวมาแล้วค่ะ" "เข้ามาเลยค่ะ” ทิวเทพสวมชุดทักซิโด้สีขาวเดินเข้ามาและมองฉันอย่างตะลึง "สวยไหมคะพี่ทิว” "สวยสิ สวยมาก" "ไปกันเถอะ แขกรออยู่" งานแต่งของเราจัดตามศาสนาของพี่ทิวซึ่งคือศาสนาคริสต์ โดยจะเข้าพิธีสมรสที่โบสถ์ก่อนและจะมี After Party ที่โรงแรมของเพื่อนเขาที่ชื่อ ชาญวิทย์ เป็นโรงแรมหรูใจกลางเมืองแห่งหนึ่ง งาน After Party ค่อนข้างใหญ่เพราะ พี่ทิวเป็นนักธุรกิจที่ทุกคนกำลังจับตามองการที่เขาแต่งงานสายฟ้าแล่บแบบนี้ ทุกคนจึงอยากรู้ว่าเจ้าสาวของเขาเป็นใครเพราะตั้งแต่มีข่าวแต่งงานออกไปเขาก็ปิดเงียบถึงว่าที่เจ้าสาวเขา "ตื่นเต้นหรอ มือเย็นเชียว" จริง ๆ ทิชาต้องเดินเข้างานพร้อมกับพ่อเธอแต่เธอไม่อยากเจอพ่อของเธอ เขาจึงเปลี่ยนเป็นเดินเข้างานพร้อมกับเขาแทน "ค่ะ ทิชาตื่นเต้นมากเลย" "ไว้ใจพี่นะ” "ค่ะ" แค่เขาพูดมาแค่นั้น ทิชาก็รู้สึกเหมือนทุก ๆ อย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี "พร้อมไหมครับ" "พร้อมค่ะ" "งั้นไปกันเถอะ" ทิวเทพพาเจ้าสาวของเขา เดินไปยังแท่นพิธีที่บาทหลวงยืนรออยู่ก่อนจะเริ่มพิธีสมรส บาทหลวงเริ่มอ่านคัมภีร์คู่ชีวิตหลังกล่าวจบบาทหลวงก็หันมาบอกกับคู่บ่าวสาว "ลูกทั้งสอง กล่าวคำปฏิญาณและสวมแหวนได้” "ผม นาย ทิวเทพ อัครไพศาลวงศ์ ขอรับ นางสาวทิชารินทร์ เทพพิทักษ์ เป็นคู่ชีวิต จะรักและดูแลเธอ ไม่ว่าจะยามทุกข์ หรือยามสุข ไม่ว่ายามป่วย หรือยามสบายดี จนกว่าชีวิตจะหาไม่” ทิวเทพกล่าวพร้อมกับสวมแหวนที่นิ้วนางของทิชา "ดิฉัน นางสาวทิชารินทร์ เทพพิทักษ์ ขอรับนาย ทิวเทพ อัครไพศาลวงศ์ เป็นคู่ชีวิต จะรักและดูแลเขา ไม่ว่าจะยามทุกข์ หรือยามสุข ไม่ว่ายามป่วย หรือยามสบายดี จนกว่าชีวิตจะหาไม่”ทิชากล่าวขึ้นพร้อมกับสวมแหวนที่นิ้วนางของทิวเทพเช่นกัน "ณ ที่แห่งนี้ พ่อของประกาศว่า ลูกทั้งสองได้เป็นสามี ภรรยากันอย่างถูกต้อง เจ้าบ่าวจูบเจ้าสาวได้" ทิวเทพดึงทิชาเข้ามาจูบอย่างดูดดื่ม ทิชาก็ตอบสนองเขาไม่ต่างกัน ทั้งคู่จูบกันเนิ่นนานกว่าจะแยกออกจากกันได้ ก็ตอนที่บาทหลวงกระแอมขึ้นมา ทั้งคู่จึงรู้สึกตัว ก่อนจะแยกกันแบบเขิน ๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD