ฉลามส่องใบหน้าหล่อคมคายอย่างฟ้าประทานของตัวเองในกระจกอย่างภาคภูมิใจ เขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูก็เห็นว่าใกล้ถึงเวลางานปาร์ตี้ที่รวมกลุ่มนายแบบคนรู้จักเอาไว้
ร่างสูงผิวปากขณะเดินลงจากบันไดอย่างสบายอารมณ์ทว่าต้องตกใจจนตัวโยนหลังเห็นภาพผู้หญิงนั่งก้มหน้าอยู่ในความมืดบนโซฟา
“ไอ้เหี้ย คฤหาสน์กูมีผี!”
“ผีบ้านพ่อแกสิ!”
“อ้าวแม่ ดึกขนาดนี้แล้วทำไมยังไม่นอน”
“จะไปไหน”
คุณหญิงศจีรัตน์ลุกขึ้นยืนพร้อมยกมือกอดอกระหว่างใช้สายตาคมกริบจ้องมองลูกชาย แลดูจากสภาพการแต่งกายคงหนีไม่พ้นไปปาร์ตี้ดื่มเหล้าอย่างเคย
“ไปปาร์ตี้ครับ”
“แม่บอกกี่ครั้งแล้วว่าไม่ให้ไปยุ่งวุ่นวายกับไอ้คนพวกนั้นมาก”
“โธ่แม่ ผมแค่ไปดื่มคลายเครียดนิดๆ หน่อยๆ”
“ชีวิตแกเคยมีความเครียดด้วยเหรอฉลาม วันๆ ไม่เห็นจะใช้สมองคิดอะไรได้”
“ด่าขนาดนี้แม่ไม่ยกเท้าขึ้นมาเหยียบหน้าผมเลยล่ะ”
ฉลามรีบถอยหลังหลบหลังเห็นมารดาผู้บังเกิดเกล้าเตรียมยกเท้าขึ้นทำตามที่ปากของเขาเอ่ยพูดประชดไปแบบนั้น
“ใจร้ายกับผมตลอดเลย”
“เมื่อไหร่จะทำให้แม่สบายใจสักทีฉลาม”
คุณหญิงศจีรัตน์เอ่ยออกมาอย่างอ่อนใจ เธอมีลูกชายเพียงคนเดียวก็หวังจะฝากผีฝากไข้ทว่าพอเห็นสภาพคนตรงหน้าก็แทบจะเอาเท้าเกยหน้าผาก
ขนาดมันเองยังเอาตัวไม่รอด แม่อย่างเธออย่าได้หวัง!
“ผมแค่ออกไปดื่มปาร์ตี้ข้างนอก”
“กับเพื่อนนายแบบพวกนั้นใช่ไหม แม่บอกตามตรงเลยนะว่าไม่อยากให้แกไปยุ่ง”
“แม่จะไม่ให้ผมมีสังคมเลยหรือไง”
“แม่ไม่ว่าหรอกนะถ้าแกจะคบใคร” คนเป็นแม่พยายามพูดกล่อมลูกชายด้วยความใจเย็น ก่อนจะนึกถึงเพื่อนสนิทของเจ้าตัวที่ไปมาหาสู่ด้วยกันมานาน “อย่างพวกสิงห์ มังกร กระทิง จากัวร์หรือฟีนิกซ์ แม่ก็ไม่ได้ห้ามให้คบกัน”
“พวกนั้นมันไม่ว่างมานั่งดื่มกับผมหรอกครับ วันๆ เอาแต่ทำงาน”
“ก็แล้วทำไมไม่เอาเป็นแบบอย่าง หัดทำงานให้มันจริงจังเสียบ้าง”
“ช่างเถอะๆ แม่มาชวนคุยจนผมสายแล้ว”
“ฉลาม!” น้ำเสียงตวาดเรียกลูกชายด้วยความไม่สบอารมณ์ เธอรับรู้ว่านิสัยชายหนุ่มเป็นยังไงถึงกระนั้นก็ไม่คิดว่าจะดื้อด้านถึงขนาดนี้
“ไปก่อนนะครับคุณหญิงศจีรัตน์ บาย!”
ฉลามโบกมือร่ำลามารดาอย่างกวนอวัยวะเบื้องล่าง ก่อนจะรีบวิ่งหนีเท้าหนักๆ ที่หมายจะเข้ามาฟาดเขาให้เจ็บแสบ ตั้งแต่เล็กจนโตไม่ต้องบอกก็รู้ว่าชายหนุ่มถูกคนเป็นแม่เลี้ยงดูมาด้วยลำแข้งขนาดไหน
ฉลามจอดรถหน้าคอนโดหรูย่านใจเมืองขนาดใหญ่ เขาหยิบแว่นตา หน้ากากอนามัย และหมวกขึ้นมาสวมใส่เพื่อปกปิดอำพรางใบหน้าหล่ออย่างทุกครั้ง
“ขนาดปิดหมดแล้วความหล่อยังทะลุออกมา”
มือหนาจับใต้คางพร้อมหันซ้ายหันขวาสำรวจกรอบใบหน้าในกระจก ความหล่ออย่างกับพระเจ้าสร้างของตัวเองสร้างความหนักใจให้ไม่น้อยเลยทีเดียว
ร่างสูงสมส่วนเปิดประตูเดินลงมาจากรถ เขารีบเร่งย่างก้าวขึ้นไปร่วมปาร์ตี้สังสรรค์เนื่องจากเสียเวลาคุยไปกับมารดามากโขส่งผลให้มาสายไปหลายนาที
เพียงหยุดอยู่หน้าห้องก็ได้ยินเสียงดังเล็ดลอดออกมา ฉลามเปิดประตูบานใหญ่เข้าไปก็ได้รับเสียงแซวดังสนั่นพร้อมกับเพื่อนนายแบบคนสนิทรีบยกแก้วเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาให้ถึงมือ
“ทำไมวันนี้คุณฉลามมาช้าจังเลยครับ”
“หรือไปนั่งช่วยคุณหญิงแม่ร้อยมาลัยอยู่ครับ”
“ลามปามแม่กูแล้วนะมึง”
ชายหนุ่มทรุดนั่งบนโซฟาพร้อมชี้หน้าเพื่อนอีกคนหนึ่งที่พูดไม่เข้าหูอย่างเอาเรื่อง ก่อนจะเห็นมันยกมือขึ้นไหว้ขอโทษอย่างกวนประสาท
“ดูสิวันนี้มีอะไรด้วย”
‘ปีเตอร์’ นายแบบหนุ่มคนดังใช้มือสะกิดเรียกฉลามที่นั่งไขว่ห้างจิบคอกเทลในแก้ว เขาเหลือบสายตามองก็เห็นสาวสวยหลายคนเดินเข้ามาในห้อง
“ไม่กลัวมีปัญหาเหรอวะ”
“ไม่ต้องกลัว มึงสนใจเอาสักคนไหมวะ”
“ไม่เอาว่ะ”
“ทำไมวะไอ้ฉลาม ดูสิมีแต่คนสนใจมึงทั้งนั้น”
ชายหนุ่มมองเมินสายตายั่วยวนของสาวสวยที่ต่างพากันจ้องมองเขา ใบหน้าหล่อแสดงออกถึงความรำคาญและอึดอัดทำเอาคนที่นั่งคะยั้นคะยอต้องรีบยกมือขึ้นยอมแพ้
“โอเค ไม่เอาก็ไม่เอา”
“ได้ข่าวว่าเทงานอีกแล้วเหรอวะ”
ร่างสูงของ ‘ศิระ’ เดินเข้ามาหาด้วยรอยยิ้มก่อนจะทรุดนั่งลงตรงหน้า เขาเอ่ยถามเพียงเพราะรู้ข่าวจากผู้จัดการส่วนตัวอย่างแมนนี่ที่ติดต่อเข้ามาให้ช่วยไปเป็นนายแบบแทนให้
“พี่แมนนี่บอกเหรอ”
“ใช่ พี่เขามาติดต่อกูไปแทนมึง”
ฉลามไหวไหล่ตอบอย่างไม่ทุกข์ร้อนแม้จะทราบดีว่าผู้จัดการคนสนิทของเขาต้องลำบากไม่ใช่น้อยในการหานายแบบคนอื่นไปแทน
“แล้วมึงไปไหม”
“ไปสิวะ กูไม่ดังเหมือนมึงหนิ”
ศิระเอ่ยตอบกลับระหว่างหมุนวนแก้วบรรจุค็อกเทลในมือ แม้เขาจะทำงานในวงการมานานกว่าคนตรงหน้าทว่าความเด่นดังไม่สามารถเทียบมันได้ติดเลย
“ก็ดี แม่งกูรำคาญพี่แมนนี่บ่นจะแย่อยู่แล้ว”
“ไม่บ่นสิแปลก มึงอย่าเอาแต่ใจมากสิวะ”
“เสือกครับ ถึงกูไม่ทำงานงกๆ เหมือนพวกมึงก็ไม่อดตายหรอก”
“ครับคุณชายฉลาม ไฮโซสุดหล่อ”
ปีเตอร์แกล้งพูดเย้าแหย่อย่างหมั่นไส้และเอือมระอา ถึงกระนั้นก็ต้องยอมรับว่ามันคือความจริง พวกเขาที่รอคอยโอกาสจนแทบกราบกรานกับคนที่มีโอกาสมากมายวิ่งเข้าหาแม้จะอยู่เฉยๆ มันต่างกันลิบลับ
“ขอตัวก่อนนะ”
“รีบไปไหนวะ”
ฉลามเงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์มือถือ เขามองเพื่อนนายแบบโอบเอวสาวสวยเข้าไปในห้องนอน เพียงเห็นแค่นั้นก็รู้ได้ทันทีว่าเข้าไปทำอะไรกัน
“แม่ง! เด็ดจัด”
“ไอ้ห่า มึงแอบดูไอ้ปีเตอร์เหรอ”
ศิระหัวเราะร่วนหลังเห็นเพื่อนสนิทแอบเปิดประตูดูภาพร่วมรักภายในห้องอย่างเสียมารยาท เสียงครางดังถี่ทำเอาคนที่นั่งไขว่ห้างลอบถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย
คราแรกฉลามนึกว่าจะเป็นการดื่มสังสรรค์คลายเครียดตามประสาผู้ชาย ทว่าพอเจอแบบนี้เขานึกรำคาญและขัดใจขึ้นมาทันที
“กูกลับไปนอนบ้านดีกว่า”
“อะไรของมึงไอ้ฉลาม”
“รำคาญ! จะพาผู้หญิงมาเอาก็บอกกันก่อนสิวะ”
ร่างสูงของชายหนุ่มวางแก้วในมือลงบนโต๊ะหน้าโซฟาพร้อมดันตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เขาก้าวขาเดินออกไปจากห้องไม่แม้จะฟังเสียงห้ามปรามของคนเป็นเพื่อนที่เอาแต่พูดรั้งให้อยู่ต่อ
ทันทีที่เปิดประตูก็ต้องชะงักนิ่งเมื่อเห็นตำรวจหลายนายยืนอยู่ด้านหน้า คิ้วขมวดเข้าด้วยกันอย่างนึกสงสัย ก่อนจะรีบหลีกทางให้เจ้าหน้าที่เข้าไปด้านใน
“มีสายรายงานมาว่าที่นี่มีการมั่วสุ่มเสพยาเสพติด”
“ว่าอะไรนะ แล้วมาจับผมทำไม!”
ฉลามตวาดลั่นออกมาหลังมีตำรวจล็อคตัวเขาไม่ให้ออกไปจากห้อง ดวงตาคู่คมจ้องมองเพื่อนนายแบบคนอื่นๆ มีท่าทีตื่นตกใจไม่ต่างกัน
“ไปตรวจในห้อง”
เสียงดังโวยวายภายในห้องเรียกความสนใจจากตำรวจให้เข้าไปตรวจสอบดู ก่อนจะเห็นสองชายหญิงเปลือยเปล่านอนอยู่บนเตียงโดยมีหลักฐานสำคัญเป็นเข็มฉีดยาตกหล่นอยู่
“ค้นให้หมด!”
และแล้วความวุ่นวายก็ปรากฏขึ้น ทำเอาฉลามกุมขมับตัวเองด้วยความหัวเสียไม่เว้นแม้กระทั่งเพื่อนนายแบบคนอื่นๆ
“แม่งไอ้ห่าปีเตอร์! สร้างความฉิบหายให้พวกกูจนได้”
“แจ็คเก็ตนี่ของใคร”
เจ้าหน้าที่หยิบเสื้อคลุมแบรนด์ดังถูกชูขึ้นเพื่อถามหาเจ้าของ ก่อนจะเห็นชายหนุ่มร่างสูงหน้าตาดียกมือขึ้นรับ เขารีบเลื่อนสายตาบอกลูกน้องตัวเองนำกุญแจมือเข้าไปล็อคตัว
“มาจับกูทำไม!”
ฉลามสะบัดมือหนีไม่ให้ตำรวจเข้ามาจับกุมอย่างถือวิสาสะ ใบหน้าหล่อเคร่งเครียดเป็นทวีคูณเมื่อเห็นยาเสพติดซุกซ่อนอยู่ในเสื้อผ้าของเขา
“บัดซบ! ยาห่านั่นไม่ใช่ของกู”
“อย่าขัดขืนนะครับ เพราะไม่งั้นคุณได้โดนอีกหมายจับแน่”
ชายหนุ่มถูกลากตัวออกมาจากคอนโดเพื่อไปดำเนินคดีสืบหาข้อเท็จจริงที่สถานีตำรวจอย่างเลี่ยงไม่ได้ เป็นจังหวะเดียวกันที่มีนักข่าวหลายสิบคนกรูเข้ามาอย่างกับรู้ล่วงหน้า
.
.
.