โรงพยาบาลชื่อดัง_
ร่างอรชรรีบรุดไปนั่งข้างเตียงผู้ป่วย ด้วยท่าทีเป็นห่วงจับใจ แต่บิดาดันนอนดูรายการทีวีเรื่อยเปื่อย
"อย่าบอกนะว่าทิ้งงานเพื่อมาหาพ่อน่ะ พ่อไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย" ผู้เป็นพ่อบอก เอื้อมมือมาลูบศรีษะลูกสาว กำลังโน้มตัวลงมากอดท่านแน่น
"วันนี้งานณิไม่ยุ่งเลยค่ะ ไหนๆ ก็ว่างเลยรีบแวะมาหาคุณพ่อเลยนะ" เธอกลั้นน้ำเสียงไม่ให้สั่น เมื่อฟังอาการบิดาจากที่แพทย์รักษาบอก ว่าท่านกำลังสู้กับโรคร้ายอีกชนิดที่แทรกเข้ามา
"อย่าบอกนะว่าลูกเขยพ่อก็ว่างงาน?" ทศวรรษมองทางไตรภูมิ ท่านรู้สึกหายห่วงมากขึ้นที่ลูกสาวสุดที่รักมีคนดีๆ อย่างเขาดูแล ไหนจะหน้าที่การงานและความเป็นผู้ใหญ่ที่เห็นกันมาตั้งแต่เล็กๆ
"พอดีผมจะพาณิชาไปลองชุดแต่งงานด้วยครับ เลยแวะมาโรงพยาบาลก่อน" เสียงเข้มบอก เห็นดวงตาคู่สวยแดงกล่ำขณะที่กอดบิดาอยู่ เธอพยามทำให้ท่านสบายใจโดยที่ตัวเองแทบจะไม่ไหวแล้ว
"จริงด้วย แม่ก็ลืมเรื่องของชุดแต่งงานของณิไปเลย ไว้ถ่ายรูปสวยๆ มาให้แม่ดูบ้างนะณิ" ฝ่ายมารดาก็รีบเบี่ยงเบนความสนใจ รู้ดีว่าลูกสาวทั้งสองคนค่อนข้างอ่อนไหวกับอาการบิดา
"แต่ณดาขอไปดูด้วยได้ไหม อยากไปช่วยพี่ณิชาเลือกชุด" น้องสาวรีบซุกไปอ้อนมารดา
"จะไปเกะกะพี่เราหรือเปล่าล่ะ ไหนจะพี่เขยเราอีกคงจะยุ่งกันน่าดู"
"ไปด้วยก็ได้" ไตรภูมิเลยเลือกจะตอบแทนพี่สาวของเธอ เพราะดูแล้วณิชาคงจะตอบไม่ไหว กลั้นปากไม่ให้เบะร้องไห้อยู่
"พี่ไตรใจดีจังเลยค่ะ เหมือนกับเจ้าชายที่ณิชอบดูตอนเด็กๆ เลย ทั้งหล่อทั้งใจดี"
"เจ้าชาย?" ใบหน้าหล่อเหลาหันถาม
"ในเรื่องตุ๊กตาแบบนั้นไงคะ จะต้องมีเจ้าชายด้วย ที่ห้องนอนพี่ณิก็มีเต็ทเลยเห็นไหม?" ณดารีบลุกไปชี้ที่กระเป๋าสะพายพี่สาว มีพวงกุญแจรถยนต์ห้อยตุ๊กตาเลียนการ์ตูนให้ดู
"น้อยๆ หน่อย จะมารื้อกระเป๋าพี่ได้ไงเนี้ย" เสียงใสรีบหันมาเตือน เธอซ่อนถุงยารักษาไว้เดี๋ยวบุพการีรู้จะยิ่งเป็นห่วง
"ไร้สาระมาก" น้ำเสียงเข้มบอก
"อ้าวพี่ไตร!" หน้าสวยรีบหันขวับตามต้นเสียงว่าเหน็บ
"ทำไมพูดกับพี่เขาอย่างนั้นล่ะณิชา เราจะไปเป็นเมียพี่เขานะไม่ได้ไปเป็นอย่างอื่น ค่อยๆ คุยกันหลังแต่งงานนะอย่าชวนทะเลาะ" ทศวรรษรีบเอ่ยสอนลูกสาว ขนาดอยู่ต่อหน้าท่านก็ยังวางตัวเป็นใหญ่กว่า
"ฟังที่พูดสิ" เสี้ยวหน้าคมเอียงมองสื่อความหมาย ไม่เว้นสายตาที่แทบจะหัวเราะเยาะเย้นได้
"ตายแล้วลูก...อย่าบอกนะว่าไปข่มเหงพี่เขาน่ะ พี่เขาโตกว่าเราตั้งหลายปีอย่าได้ไปว่าพี่เขานะณิชา" ผู้เป็นแม่รีบเอ่ยแซว เหมือนสถานการณ์อย่างนี้จะเป็นแบบที่บ้านท่านไม่มีผิด แค่เพียงบิดาไม่พูดออกมาว่าใครใหญ่กว่า
"ไม่จริงหรอก ณิไม่เคยว่าพี่ไตรเลยออกจะพูดง่ายรู้เรื่อง"
"งั้นเหรอ" คนตัวสูงหลุดหัวเราะในลำคอหนา ยิ่งเห็นแววตาฮึดสู้ของร่างอรชรก็ไม่ต้องเดาเลยว่าเธอโกหก
"แล้วนี่ลูกจะไปลองชุดกี่โมงล่ะ เดี๋ยวมันจะมืดค่ำไปซะก่อนนะ"
"อีกสักพักได้ไหมคะ ณิไม่รีบพี่ไตรก็ไม่รีบ วันนี้เราว่างมากๆ " ร่างอรชรเลยไปนั่งตรงเก้าอี้ตามเดิม แล้วสวมกอดบิดาออดอ้อนเหมือนทุกครั้ง
"แน่ใจเหรอณิ"
"แน่ใจมากๆ ค่ะ จริงไหมคะพี่ไตร วันนี้เราว่างใช่ไหมคะ" ณิชาเอ่ยบอกเสียงหวานหยดเหยิ้ม เมื่อได้มองไปทางคนตัวสูงหวังว่าเขาจะเข้าใจ
"พี่นัดไว้ไม่เกินสี่โมง"
"สี่โมง!" ดวงตากลมเบิกโพลงกว้าง ตอนหันไปดูนาฬิกาที่ฝาผนังห้อง พบว่าอีกสิบนาทีก็จะสี่โมงเย็นแล้ว อีกฝ่ายทำไมช่างบีบบังคับเธอเสียจริง แล้วตอนนั่งรถมาโรงพยาบาลก็ไม่บอกกล่าวก่อนเลย
"ล้อเล่นน่ะห้าโมงต่างหาก" ว่าจบคนตัวสูงเลยลุกขึ้นยืนเดินออกไปที่ระเบียงนอกห้อง เตรียมจะสนทนาโทรศัพท์มือถือแทน
"คิดยังไงกันคะเลือกเขาให้มาเป็นสามีณิเนี้ย?" เธอรีบขอความเห็นทั้งทางบิดาและมารดา ที่พากันหลุดหัวเราะยกเว้นเธอแทบจะประสาทเสียอยู่แล้ว
"พี่เขาเป็นผู้ใหญ่แล้วนะลูก คงจะอยากแกล้งณิบ้างแหละ แต่ก็นะหยอกแรงไปนิดนึง" ไข่มุกบอก ทั้งเอ็นดูลูกเขยกับลูกสาวที่พากันจิกกัด เหมือนสุภาษิตลิ้นกับฟัน
"พี่ไตรออกจะใจดีนะพี่ณิ เดี๋ยวณดารีบอ่านหนังสือดีกว่าจะได้ไปดูพี่ณิลองชุด" คนบอกรีบลุกไปหาหนังสือในกระเป๋าเป้มาอ่าน
"พ่อก็นอนเล่นดีกว่า หมอบอกว่าพักผ่อนเยอะๆ นั่นแหละดี" ท่านยังไม่หยุดยิ้มเลย นึกตลกที่ลูกสาวและลูกเขยเปรียบเสมือนท่านครั้งแต่งงานใหม่ๆ กับภรรยารัก
"....." เธอได้แต่ถอนหายใจหน่าย จนกระทั่งเวลาผ่านไปหลายนาที ก็ยังไม่เห็นว่าไตรภูมิจะเดินกลับเข้ามาในห้องบิดาเลย
แล้วทางระเบียงมันก็มีประตูอีกด้านนึง จะเป็นพื้นที่ไปยังส่วนกลางสถานที่พักผ่อนนั่งเล่นรวม
พอเธอเห็นว่าบิดานอนหลับ ไม่มีใครต่างสนใจกันแล้ว เลยเลือกจะเดินตามหาคนตัวสูงก่อน จะได้เตรียมตัวไปลองชุดแต่งงานกัน
"พี่ไตร..." เสียงหวานเอ่ยยากลำบากทันที เธอมองเห็นว่าที่เจ้าบ่าวกำลังยืนกับหญิงสาวคนนึงจากด้านหลัง เสื้อสูทสีเดียวกันและรูปลักษณ์ไม่ได้ต่างไปจากไตรภูมิเลย
ดูเหมือนว่าเขาพร้อมจะไปจากเธอทุกเมื่อ และเผลอตอนไหนก็มีผู้หญิงเข้าหาตลอดหรอกเลย มันมากระตุ้นก้อนดวงใจน้อยๆ ให้บีบรัดจนเจ็บปวดแปลกๆ
"ทำไมถึงหลอกกันอย่างนี้นะ...อึก"
"เป็นอะไร?"
"ก็เป็น...อ้าวพี่ไตร!" หน้าสวยต้องรีบหันขวับ เมื่อได้ยินเสียงของไตรภูมิมายืนอยู่ข้างหลัง ไม่ใช่ผู้ชายคนนั้นที่กำลังมีผู้หญิงออเซาะด้านข้าง
"มายืนทำอะไรตรงนี้?" คิ้วหนาเลิกขึ้นถาม เขาออกมาคุยโทรศัพท์หาที่เงียบๆ คุยงาน แต่ดันเห็นณิชายืนมองผิดหวังไปที่ชายหญิงคู่นึง จะเรียกว่ารู้จักพวกเขาก็ไม่ได้
"ณิแค่มาตามเฉยๆ มันใกล้จะห้าโมงแล้ว" ข้อมือเล็กยกนาฬิกาให้อีกฝ่ายดูเวลา
"พี่คุยงานอีกนิดนึงเดี๋ยวตามไป"
"ณิไปยืนรอก็ได้ พอดีคุณพ่อหลับไม่อยากรบกวน" ร่างอรชรรีบเดินตามร่างสูงมายังมุมตึก เป็นระเบียงรับลมช่วงเย็นสบายๆ ไร้ผู้คนผ่านมาตรงนี้
"....." เธอปล่อยให้คนตัวสูงคุยงานเป็นภาษาต่างประเทศ แล้วมายืนดูรถบนถนนสัญจรไปมา บวกกับท้องฟ้ามีเมฆหนาไม่ค่อยมีแสงแดดร้อนส่อง
"พร้อมหรือยัง?" ร่างสูงวางสายสนทนาแล้วเดินตรงมาหา
"พี่ไตรงานยุ่งหรอกเหรอ ถ้าเราไม่ไปวันนี้ค่อยเปลี่ยนวันอื่นก็ได้" เธอเห็นใบหน้าหล่อเหลาเคร่งเครียดตลอดการคุยงาน ก็พอเข้าใจออกในคำสนทนาของเขา
"ไม่เป็นไร เดี๋ยววันอื่นพี่ไม่ว่างน่ะ"
"ขอบคุณนะคะที่พาณิมาหาพ่อ แล้วจะพาไปลองชุดแต่งงานของเราอีก"
"พี่ทำตามหน้าที่" น้ำเสียงเข้มเอ่ยบอกจบ ถึงจะก้าวขายาวเดินนำไปที่ห้องผู้ป่วยต่อ เขาเลยไม่ได้เห็นแววตาหลากความหมายของคนตัวเล็กที่มองตาม
"เราก็เป็นแค่หน้าที่สินะ"
................................