วันศุกร์
บ้านรื่นรมย์ ซอย 3
บ้านเดี่ยวชั้นเดียวสีขาวสไตล์วินเทจ เหมาะกับการพักอาศัยมีเพียงสองแม่ลูกอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ด้านหน้ามีสวนแปลงผัก ด้านข้างไว้ใช้จอดรถ แม้พื้นที่ไม่กว้างขวางแต่ก็มีความสุข
"หอมจังเลยค่ะ" เมลินออกจากห้องเดินตรงดิ่งมายังด้านข้างซึ่งเป็นห้องครัว "ทำอะไรแต่เช้าคะแม่"
"วันนี้ทำสปาเกตตีซอสเห็ด ว่าแต่เราเถอะทำไมตื่นสายขนาดนี้เนี่ย อีกหน่อยเข้าเรียนมหาวิทยาลัยจะต้องเดินทางไกล จะทันเข้าเรียนหรือเปล่า"
"หนูอ่านหนังสือทฤษฎีกฎแรงดึงดูดโลกเพลินไปหน่อย พอดูนาฬิกาเกือบเที่ยงคืนเลยค่ะแม่"
"แม่บอกว่าห้ามนอนเกินห้าทุ่มไง ให้ร่างกายและสมองได้พักผ่อนบ้าง ดื้อจริง"
สาวน้อยรีบพุ่งตัวไปกอดแม่จากด้านหลัง พูดหยอกเย้ากันเหมือนทุกวัน หลังจากที่ผู้เป็นสามีเสียชีวิตก็ต้องเลี้ยงลูกสาวมาเพียงลำพัง กลายเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวอย่างเลี่ยงไม่ได้ โดยประกอบอาชีพผู้ช่วยเชฟร้านอาหารแห่งหนึ่ง เนื่องจากฝีมือทำกับข้าวเอร็ดอร่อย
"เดือนหน้าก็เข้าเรียนมหาวิทยาลัย อย่าลืมมีเพื่อนสักคนจะได้ไม่เหงา รู้ไหม" แม่บอกกล่าว
"ค่ะ แต่ไม่รู้ว่าจะมีใครอยากเป็นเพื่อนกับหนูไหม"
"มหาวิทยาลัยออกจะกว้างขวาง คงต้องมีสักคนแหละที่เห็นความน่ารักของลูกสาวแม่"
"แต่ส่วนมากคิดว่าแปลกนะคะ ฮ่าๆ ใส่แว่นหนารวบผมเป็นกระจุก ใส่เสื้อผ้ามิดชิด ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน แต่ทุกคนมองด้วยสายตาแบบ.."
"แม่เคยบอกแล้วใช่ไหม ไม่ว่าใครจะมองเรายังไงขอแค่เราเป็นตัวเองและไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็พอ"
"รับทราบค่ะแม่"
เพราะมีแม่เป็นแรงบันดาลใจ ทำให้เมลินขยันเรียนหนังสือ อีกทั้งทำตัวน่ารักเรียบร้อยอ่อนโยน
แต่นิสัยที่ค่อนข้างเป็นคนโลกส่วนตัวสูง จึงทำให้หลายคนไม่อยากคบหรือเข้าถึงค่อนข้างยาก
หนึ่งเดือนผ่านไป
มหาวิทยาลัยเอกชน
เมลิน เลือกเรียนคณะศิลป์ภาษาเพราะชอบการเจรจาและความแตกต่างของวัฒนธรรม เพราะเป็นคนเรียนเก่งมากจึงได้ทุนการศึกษาเรียนฟรีจนจบปริญญา แน่นอนว่า..ตั้งแต่ย่างก้าวเข้ามาผู้คนต่างจับจ้องเพราะลักษณะการแต่งตัวและใบหน้าซีดเซียวที่แทบไม่สัมผัสโดนเครื่องสำอางจากทาครีมเท่านั้น
ห้องเรียน
"ทุกคนปรบมือให้เมลินดาหน่อย เป็นนักเรียนหัวกะทิระดับแนวหน้าที่มหาวิทยาลัยของเราภูมิใจ เรียนเก่งมากสอบได้ที่หนึ่งตลอด ได้มาเข้าร่วมการศึกษา" อาจารย์แนะนำ ทุกคนตามปรบไม้ปรบมือแม้สายตาและคำพูดจะเอียงไปทางซุบซิบนินทา
เมลินชินชาไม่ได้ใส่ใจ เลือกนั่งอยู่ริมซ้าย สักพักหยิบหนังสือและปากกาขึ้นมาปรากฏว่ามีใครขยับเข้ามานั่งใกล้ "สวัสดีเมลิน" เมื่อ หันขวับ ก็ต้องตกใจเพราะเป็นผู้หญิงผมประบ่าหน้าตาสวยแต่งหน้าครบองค์ประกอบ ปากสีแดงเชอร์รี แววตาเปล่งประกาย
"สวัสดี" เมลินตอบเสียงแผ่ว
"ฉันชื่อนานะ ยินดีที่รู้จักนะ"
"นานะ เราชื่อเมลิน ยินดีที่รู้จักเหมือนกัน"
"ดีใจอะ เปิดเทอมวันแรกก็ได้เพื่อนใหม่เลย"
"อืมมม ดีใจเหมือนกัน"
เมลินจ้องมองนานะไม่วางตา เพราะความสวยที่เรียกได้ว่าดึงดูดมาก หลังจากทำความรู้จักกันก็ทราบว่านานะเป็นเน็ตไอดอลชื่อดัง ซึ่งมียอดฟอล'โลเกือบล้าน รับงานรีวิวสินค้าเป็นหลัก
หลายวันจากนั้น..ทั้งคู่ก็เริ่มทำความรู้จักสนิทสนมกัน แต่ตอนนี้ เมลิน เป็นจุดเด่นในทันทีเพราะคบหากับเน็ตไอดอลชื่อดังอย่างนานะ ทุกคนต่างพูดคุยกันหนาหู คิดว่าคนสวยไม่น่าจะมีเพื่อนสุดแสนจะเฉิ่มเชย
ด้านหลังรั้วมหาวิทยาลัย
ดราฟก็เรียนที่นี่เช่นกันเพราะเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง อีกทั้งฐานะทางบ้านที่ดีมาก จึงเข้าเรียนได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องสอบเข้าด้วยซ้ำ
บนรถ
"กว่าหนูจะเดินลัดเลาะผ่านคลองเล็กด้านหลังมาลำบากมากเลยนะคะ" เมลินบ่น "ทำไมพี่ดราฟไม่ไปรับด้านหน้าตึก หรือให้หนูไปหาที่ลานจอดรถก็ได้"
"รถติด คนก็เยอะ พี่ไม่ค่อยชอบ"
"แต่ไปเที่ยวในผับ คนก็เยอะเหมือนกันนะคะ"
"มันไม่เหมือนกันนี่นา ฮ่าๆ หลายวันที่ผ่านมาไม่ได้เจอกัน เป็นยังไงบ้าง..ที่นี่สนุกไหม"
"สนุกมากค่ะ ได้เพื่อนสนิทมาหนึ่งคนอีกต่างหาก"
"ดีจัง หวังว่าเป็นการเริ่มต้นใหม่ที่ดีนะ"
ดราฟ ทำตัวเป็นแฟนหนุ่มที่ดี มารับเมลินแต่จอดห่างจากมหาวิทยาลัย ทำให้เธอเดินทางลัดอย่างลำบากเพื่อมาหาแล้วเขาก็ขับรถหรูพากลับไปส่งบ้าน
เวลาห้าโมงสามสิบนาที
ร้านน้ำเต้าหู้ริมฟุตบาท
เมลิน เดินเท้าจากซอยบ้านเลี้ยวไปยังถนนใหญ่เพื่อมาซื้อน้ำเต้าหู้รถเข็นเจ้าประจำ ขณะที่เธอยืนอยู่ก็หยิบแว่นออกมาเช็ดเนื่องจากความมัวที่โดนอากาศสัมผัส แล้วก็เห็นบางอย่างคล้ายกับรถคุ้นเคยขับผ่าน
"พี่ดราฟ!" ตัวเล็กรีบสวมแว่นเพื่อให้มองเห็นชัด แต่ไม่ทัน..เห็นเพียงผ่านว่าเขากำลังพาผู้หญิงคนอื่นซึ่งใส่ชุดนักศึกษานั่งเบาะข้างแล้วขับแล่นต่อไป
ตืดดด ตืดดดด
เมลิน ตัดสินใจรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาแฟนหนุ่มเพื่อต้องการคำอธิบาย แต่โทรเท่าไหร่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมรับสาย แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร?ทำไมถึงนั่งรถมากับเขาในเวลาช่วงพลบค่ำแบบนี้