เด็กฝึกงาน
เสียงลิฟต์ชั้น 41 ดัง ติ๊ง อย่างเรียบง่าย
เป่าเป้ยก้าวออกจากลิฟต์อย่างมั่นใจ สูทฝึกงานสีเข้มขับให้ใบหน้าหวานๆ ของเธอดูเป็นผู้ใหญ่กว่าความเป็นจริง
>“เธอคือเด็กฝึกงานคนใหม่เหรอคะ? จากโปรแกรมพิเศษของบอร์ดบริหาร?”
พนักงานสาวคนนึงเดินเข้ามาทักเป่าเป้ย
>“ค่ะ ฉันชื่อ... เป้ยหลิน”
ใช่... เธอไม่ได้ใช้ชื่อจริง
เพราะถ้าผู้ชายคนนั้นรู้ว่าเธอคือ “เป่าเป้ย” น้องสาวของคนที่เขาทอดทิ้ง… แผนของเธอคงไม่สำเร็จแน่
"เหยียนชุน" ปรากฏตัวในห้องประชุมบอร์ดในอีก 10 นาทีถัดมาเขาในวัย 25 ปี หล่อเหลา เฉียบขาด สายตาเย็นชาอย่างที่พี่ชายของเธอเคยบอกไว้ ไม่มีผิดเพี้ยนไปจากนั้นเลย
>“เด็กฝึกงานใหม่ชื่ออะไรนะ?”
ชุนถามเป่าเป้ยด้วยใบหน้าเรียบนิ่งราวกับน้ำแข็ง🧊
>“เป้ยหลินค่ะ”
เป่าเป้ยตอบแล้วยิ้มตาหยีกลับไป
>“นั่งตรงนี้...แล้วอย่าถาม ถ้าไม่ได้รับอนุญาต”
เสียงทุ้มต่ำชวนขนลุกดังขึ้นใกล้ข้างหู ขณะที่เขาดึงเก้าอี้ออกให้เธอนั่งอยู่ข้างๆ เป่าเป้ยยิ้มบางๆ เงยหน้าขึ้นสบตาเขาเต็มๆตา
>“ค่ะ ท่านประธาน”
(หล่อเหมือนกันนะเนี่ย แต่เกลียดท่าทางจอมหยิ่งนี่จริงๆ อีกไม่นานนายจะรักฉัน...จนลืมหายใจนายเหยียนชุน)
หลังจากประชุมเสร็จเรียบร้อยทุกคนเก็บเอกสารของตน เป่าเป้ยก็ถือเอกสารเตรียมตัวออกจากห้องแต่...
>“น้องเป้ยหลิน ฝากเอาเอกสารพวกนี้ไปให้ท่านประธานด้วยนะคะ”
>“ได้ค่ะ”
เป่าเป้ยยืนถือแฟ้มหนาเตอะในมือ พลางถอนหายใจอย่างเนียนๆ เมื่อโดนใช้ให้เอาเอกสารไปให้เหยียนชุน
>“ให้ตายสิ…เพิ่งเริ่มงานวันแรกก็ให้เข้าถึงตัวเหยียนชุนแบบนี้เลยเหรอ? สวรรค์ส่งมาชัดๆ”
เธอเดินไปยังห้องทำงานชั้นบนสุด ที่มีเพียงชื่อเดียวติดอยู่หน้าประตูห้องทำงาน คงไม่ต้องบอกว่าใหญ่แค่ไหน เพราะระดับตระกูลเหยียนไม่ใช่ธรรมดาเลย
🔛 เหยียนชุน – CEO
เป่าเป้ยหยุดยืนอยู่ป้ายชื่อหน้าห้องทำงานของเขา มือของเธอหยุดค้างอยู่หน้าลูกบิด หัวใจเต้นแรงทั้งจากความตื่นเต้นและความแค้นที่สะสมในใจ
ภาพพี่ชายที่เคยยิ้มสดใส แต่ค่อยๆ ซูบซีดลงทุกวันหลังถูกแฟนสาวทิ้ง ยังคงวนเวียนอยู่ในหัว
จนกระทั่งวันหนึ่ง...พี่ชายเธอก็ไม่กลับมาอีกเลย
>“ทั้งหมดนั่นเพราะนาย...เหยียนชุน!”
เป่าเป้ยเคาะประตูเบาๆก่อนจะผลักประตูเข้าไปด้านในห้องที่ภายในกว้างขวางโออ่า
>“ขอโทษค่ะ ฉันเอาเอกสาร—”
>“วางไว้ตรงนั้น”
เสียงเย็นชาดังขึ้นโดยไม่แม้แต่จะเงยหน้ามองเธอ
เหยียนชุนนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงาน ในชุดสูทดำสนิท ใบหน้าหล่อเหลาปราศจากความรู้สึกใดๆ
เป่าเป้ยวางแฟ้มลง แต่ยังไม่ยอมเดินออก
> “มีอะไรอีก?” เสียงเรียบเอ่ยถาม
เธอยิ้มเล็กน้อย กัดฟันแน่นก่อนเอ่ยเสียงหวานเจือความกล้า
>“ฉันแค่สงสัยค่ะ…คุณไม่รู้สึกเหงาบ้างเหรอ ทำงานอยู่คนเดียวแบบนี้?”
ครั้งแรกที่เขาเงยหน้าขึ้นสบตากับเธอ
สายตานั้นคมกริบจนเธอรู้สึกเหมือนโดนเฉือนเป็นชิ้นๆ
> “เธอเพิ่งมาวันแรก?”
เขาเลิกคิ้วขึ้นถาม
>“ค่ะ”
เขายิ้มบางๆที่มุมปากแทบจะไม่รู้เลยว่ายิ้ม นี่มันรอยยิ้มของปีศาจชัดๆ
> “เด็กฝึกงานควรหัดเงียบให้เป็น ก่อนจะคิดถามเรื่องไม่จำเป็น”
คำพูดนั้นทำให้เป่าเป้ยจุกในใจ แต่เธอก็ฝืนยิ้มออกมา
> “เข้าใจแล้วค่ะ ท่านประธานจะรับกาแฟมั้ยคะ หนูชงเป็นนะ”
“.........” เขาไม่ตอบ จนเป่าเป้ยต้องขยับเข้าไปแล้วเรียกชื่อเขาเสียงดัง
>“คุณเหยียนชุน~!”
ดูเหมือนเขาจะไม่ตกใจ แต่สายตาที่มองมาเหมือนพร้อมจะคาบคอฉันฉีกออกเป็นชิ้นเล็กๆ
>“มีอะไร ทำไมยังไม่ออกไปอีก🤨?”
>“หนูถามว่าคุณจะรับกาแฟมั้ย?”
>“ฉันไม่กินของจากคนแปลกหน้า!เข้าใจนะ”
เขานั่งก้มหน้าทำงานต่อ
> “ยิ่งเย็นชาแบบนี้ ยิ่งเหมาะกับบทที่ฉันวางไว้…”
เป่าเป้ยมุ่งมั่นที่จะเดินตามแผนการของเธออย่างแน่วแน่
********************************************
“คนบ้าอะไร เย็นชาได้ถึงขนาดนี้ไม่มีหัวใจรึไง?”
“ใจเย็นๆนะแก”
>“หลินแกอย่าลืมนะ ว่าฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อทำงานเฉยๆ”
เป่าเป้ยบ่นกับเพื่อนสาวขณะวางสายหูฟัง Bluetooth หลังเลิกงาน เพราะตอนนี้ เธอมาถึงห้องพักและเข้าไปในห้องที่มีหลินนั่งรออยู่ด้านใน
>“โอ๊ยย~ ฉันก็รู้น่า แต่เธอจะเล่นเป็นสายลับอยู่แบบนี้มันเหนื่อยไหมล่ะ? ฉันเห็นภาพเลยอ่ะแววตาเธอเวลาโดนท่านประธานเหยียนชุนมอง”
>“อะไร!?อย่ามามั่วนะฉันมาเพื่อแก้แค้นไม่ได้มาเพื่อรักเขา”
>“เขินใช่มั้ยล่ะ~ ฮิ้ว~😆”
เป่าเป้ยหน้าแดงนิดๆเมื่อโดนเพื่อนแซวเธอรีบตีไหล่เพื่อนเบาๆ
> “บ้าเหรอ! เขาน่ะเย็นชายิ่งกว่าตู้แช่แข็งอีก!”
แต่เธอก็ไม่ปฏิเสธว่าทุกครั้งที่สายตาคมคู่นั้นมองมา หัวใจของเธอเต้นแรงจริงๆ นี่มันเรื่องบ้าอะไร
***********************
ในอีกมุมหนึ่งของตึกบริษัท
หญิงสาวในชุดเดรสแบรนด์หรูนั่งไขว่ห้าง ริมฝีปากแดงสดกระตุกขึ้นนิดๆ เมื่อเห็นภาพจากโทรศัพท์
> “เด็กฝึกงานคนนั้น...ชื่อเป้ยหลินสินะ?”
พราวมุก ลุกขึ้นพลางยิ้มเย็นยะเยือกขึ้นมา
> “เหยียนชุน...คุณจะไม่ต้องทนกับสิ่งสกปรกแบบนั้นหรอก ฉันจะจัดการให้เอง”
คำพูดของพราวมุกเปล่งออกมาลำพัง เกมกำลังจะเริ่มจากอีกฝ่ายโดยที่เป่าเป้ยไม่รู้เลยว่ามีคนจับตาดูเธอ
กลางคืนหลังเลิกงาน
เป่าเป้ยนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ในหอพักฝึกงาน รื้อแฟ้มเก่าๆ และเปิดดูข้อความในมือถือเครื่องเก่า
>💬[พี่คิน]: “มันคงดีกว่านี้ ถ้าเราไม่เกิดมารักคนคนเดียวกัน”
>💬[พี่คิน]: “พี่แพ้เขา…เป่าเป้ย พี่มันไม่คู่ควร…”
สายตาของเธอร้อนผ่าว น้ำตาซึมขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
แม้จะผ่านมาสามปีแล้ว แต่เธอยังจำทุกอย่างได้ดีตั้งแต่รอยยิ้มสุดท้ายของพี่ชาย จนถึงวันที่เขาหายตัวไปจากโลกนี้
เธอพยายามตาหาหลักฐานอื่นๆ แต่ก็เหมือนงมเข็มในมหาสมุทร
จึงคิดว่าถ้าเข้าใกล้เหยียนชุนได้ น่าจะมีอะไรมากกว่านี้
------------
⏪ [แฟลชแบ็ค: 2 ปีก่อน]
>“พี่ชอบเขา...แต่เขาไม่เคยหันมามองเลย เป่าเป้ย”
เสียงของพี่ชายเธอดังขึ้นเบาๆ ในคืนหนึ่งที่พี่น้องนั่งดูดาวด้วยกันบนดาดฟ้า
> “เขา? ใครเหรอพี่คิน?”
เป่าเป้ยถามพี่ชายด้วยความสงสัย
> “เหยียนชุน…”
💭เป่าเป้ยตกใจ ไม่คิดว่าชื่อนั้นจะหลุดออกมาจากปากพี่ชายของเธอ เขาคือเพื่อนพี่ชายเธอถ้าจำไม่ผิด
> “พี่รู้ว่าเขาไม่เคยมองพี่แบบที่พี่มองเขา เขาแค่สุภาพกับทุกคน”
น้ำเสียงของพี่ชายเธอฟังดูแล้วเศร้าจับใจขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
> “แต่ยิ่งเขาเย็นชา…พี่ก็ยิ่งอยากเข้าใกล้เขา”
พี่ชายของเธอ...รักเหยียนชุน
แต่รักข้างเดียว พี่บอกว่าแค่ได้อยู่ใกล้ๆก็พอ
แต่วันหนึ่งผู้หญิงที่พี่คบกาอนหน้านี้ก็ทิ้งพี่ไป
เพราะเธอบอกว่าเธอหลงรัก “เหยียนชุน”
และไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของพี่กับเธอคืออะไรกันแน่
หลังจากนั้น พี่ชายก็เปลี่ยนไป
เงียบลง ซึมลง จนกระทั่งวันหนึ่งเขาก็ไม่กลับบ้านอีก
🕊️ ปัจจุบัน
เป่าเป้ยหลับตาลง จิกนิ้วลงบนเนื้อด้วยความเจ็บปวด
>“ฉันจะทำให้นายรู้ว่าความรู้สึกที่พี่ชายฉันเคยมี มันเจ็บแค่ไหน นายต้องรักฉันแล้วฉันจะหักใจนายให้แหลกเหมือนที่พี่เคยเจ็บ”
แต่เธอไม่รู้เลยว่า...
เหยียนชุนเอง ก็ยังจดจำชื่อ “คิน” ได้ดี…
และมีความลับที่เขา “ไม่เคยบอกใคร” เกี่ยวกับผู้ชายคนนั้น
ห้องพักเงียบงัน เป่าเป้ยนั่งเหม่ออยู่หน้าคอมพิวเตอร์
เธอเปิดโฟลเดอร์เก่าในมือถือเครื่องเก่าของพี่ชาย
ที่ดับๆติดๆโดยไม่ตั้งใจและพบไฟล์หนึ่งที่ชื่อว่า...
🎧 For_Paopae_only.m4a
มือของเธอสั่นเล็กน้อย ขณะกดเล่นคลิปนั้น
เสียงพี่ชายดังขึ้นในความเงียบ
เสียงทุ้มและนุ่มที่เธอไม่ได้ยินมานานแสนนาน
▶️“เฮ้ เป่าเป้ย…ถ้าเธอได้ฟังไฟล์นี้ แสดงว่าพี่…คงไม่อยู่กับเธออีกแล้ว อย่าโทษตัวเองนะ และอย่าโทษเขา…”
เสียงพี่ชายขาดหายไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดต่อช้าๆ
> “ชุนไม่เคยรู้ว่าพี่รักเขา...พี่ไม่กล้าบอกเขา ไม่กล้าสู้เหมือนที่เธอทำเสมอมา ผู้หญิงคนนั้นทิ้งพี่ไปเองชุนไม่ได้แย่งพี่ไป พี่ไม่เคยโทษเธอเพราะสุดท้ายมันไม่ใช่ความผิดใครหรอก ถ้าความรักมันไม่เป็นอย่างที่เราหวัง ถ้าชุนได้ฟังคลิปนี้บอกเขาทีว่าพี่ขอโทษที่หายไปแบบนั้น และขอบคุณที่เขาเคยอยู่ข้างพี่ แม้ว่าเขาจะไม่รู้ก็ตาม”
เสียงสุดท้ายแผ่วเบาเต็มไปด้วยความเศร้า
จนน้ำตาเป่าเป้ยเริ่มไหลอีกครั้ง
> “ดูแลตัวเองนะเป่าเป้ย พี่รักเธอที่สุด”
น้ำตาเป่าเป้ยไหลอาบแก้ม
ใจของเธอปวดร้าว และสับสนหนักยิ่งกว่าเดิม
> “แสดงว่า...เขาไม่ได้แย่งแฟนพี่ แล้วที่ฉันเกลียดเขามาทั้งหมด...มันคืออะไรกันแน่พี่คิน?”
เป่าเป้ยบ่นพึมพำออกมาด้วยความสับสนปนความเจ็บปวด ไม่มีวันไหนเลยที่เธอไม่คิดถึงพี่ชาย การที่เธอก้าวเข้ามาฝึกงานในบริษัทเหยียนชุน ก็เพื่อที่จะล้างแค้นให้พี่ชาย
แต่คลิปที่เธอได้ฟังกลับทำให้เธอสับสน เธอไม่รู้เลยว่าตอนนี้เธอกำลังทำสิ่งที่ถูกต้องอยู่หรือเปล่า