2 : ไม่มีอะไรอยากได้แล้วไม่ได้

1908 Words
เป็นอย่างนี้ทุกเช้า เขาก็หายตัวจากเตียงก่อนเธอไร้ร่องรอยโดยทิ้งเช็คเงินสดแสนหนึ่งไว้ข้างเตียง ซึ่งถือว่าเป็นค่าตัวทุกครั้งหลังจากหลับนอนกัน มือเรียวบางเลือกจะไม่รับ เพราะรับเงินมามากพอแล้ว จิลลากัดริมฝีปากด้านล่างข่มความแสบบริเวณน้องสาวถูกใช้งานหนักหน่วง ลากสังขาร พาเนื้อตัวเปลือยเปล่าที่มีรอยคิสมาร์กแสดงความเป็นเจ้าของทั่วทุกซอกทุกมุม ต่อให้เธอใช้คอนซีลเลอร์ปกปิดรอยพวกนี้คงไม่หมด “ฮึบ!” อาการแพ้ท้องกำเริบ มือเรียวเล็กเกาะขอบชักโครกยึดเหนี่ยวไว้ หน้าตาซีดเซียวดูไม่ได้ ผมเผ้ายุ่งหยิง เสียงอาเจียนโอ้กอ้ากสักพัก เธอจัดการชำระล้างความสะอาดทั้งตัว อาการแพ้ท้องดีขึ้นเป็นปกติ แปลก...เธอท้อง แต่หน้าท้องยังคงแบนราบ สงสัยหน้าท้องแรกเดือนอ่อน อายุครรภ์ยังไม่มาก พอจะปกปิดบังเรื่องนี้กับเขาได้ยืดเวลาต่อสักพัก “เรากำลังจะเป็นแม่คนจริง ๆ เหรอ” จิลลากังวลต่าง ๆ นานา พลางยกมือลูบหน้าท้องแบนราบตัวเองต่อหน้ากระจกบานใหญ่ โจ้กำลังแต่งงานกับคู่หมั้นที่พวกท่านหาให้ พวกเราสองแม่ลูกไม่เข้าไปรบกวนชีวิตเขาดีกว่า “อีกไม่กี่วัน แม่จะพาลูกกลับบ้านเรา ไปเจอพี่ชายของแม่นะลูก” นักศึกษาสาวตั้งใจจะเก็บเด็กนี้เอาไว้ จิลลาไม่ลืมหยิบชีตเรียนลงใส่กระเป๋าผ้า ออกจากห้องเพื่อไปเรียนยังมหาวิทยาลัยต่อ ทว่านักนิสิตสาวกำลังคิดว่าจะไปรถอะไรดี รถ Aston Martin db5 ก็จอดหยุดตัวลงเทียบข้างฟุตบาทตรงหน้าคอนโดมิเนียมที่โจ้ รังสิมาเป็นเจ้าของ จำได้ว่ารถคันนี้คือรถคันโปรดของเขา สิ่งที่จิลลาคิด ไม่ผิดคาด เมื่อโจ้ลดกระจกรถด้านข้างคนขับ ชะโงกหน้ายื่นมามองเด็กเลี้ยงตัวเอง “จะไปไหม มหา’ลัย” “พี่โจ้ไม่ได้ไปทำงานเหรอคะ” “ก็จะแวะไปส่งไง ทางผ่านบริษัทพอดี” เขาพูดออกมาหน้าตาเฉย จิลลาเริ่มสงสัยกับพฤติกรรมเปลี่ยนไปจากเขา ปกติชายหนุ่มไม่เคยทำตัวเป็นผู้ปกครอง(หวงก้าง) คอยไปรับไปส่งนักศึกษาตนเองสักครั้ง ยกเว้นวันนี้ที่เขาเอ่ยปากชวนเธอ บุญตูดของน้องจิลแท้ ๆ ที่จะได้นั่งรถหรูหราแบบนี้ “ไปค่ะ” ตอบรับทันที ในขณะที่นักศึกษาสาวรีบก้าวขาเข้ามาเปิดประตูรถด้านข้างคนขับ รถเคลื่อนตัวออกจากคอนโดมิเนียมแล้วลงมาจอดยังหน้ามหาวิทยาลัยชื่อดัง จิลลาขยับชิดเบียดอกอวบอิ่มยกมือไหว้ลงบนบ่าไหล่กว้างของผู้ปกครองอย่างนอบน้อม “ขอบคุณมากนะคะพี่โจ้ จิลขอตัวลงไปเรียนก่อน” “จะมาไหว้พี่ทำไม พี่ยังไม่แก่ขนาดนั้นเสียหน่อย” คนว่าแก่กลับชักสีหน้าไม่พอใจ เขาอายุห่างกันกับเธอแค่ไม่กี่ปี แล้วมหาวิทยาลัยตรงนี้ โจ้เคยเป็นลูกศิยษ์ ส่งเงินสนับสนุนที่นี่ประจำ ทำเหมือนเสี่ยมีเด็กให้เลี้ยงดูจนจบ “ขอโทษค่ะพี่โจ้” “แล้วจะเลิกเรียนตอนไหน เดี๋ยวพี่มารับ” “ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวจิลกลับรถเมล์หรือนั่งแท็กซี่เอา เผื่อบางทีจิลอาจมีนัดกับเพื่อนต่อ จิลไม่อยากรบกวนพี่โจ้อีกแล้วค่ะ” “นัด? เพื่อนผู้หญิงหรือผู้ชาย” โจ้ตั้งคำถามน้ำเสียงขุ่นกวนเล็กน้อย ราวกับระงับอารมณ์โทสะไว้ไม่อยู่ ไม่ได้คิดเข้าข้างไปเองใช่ไหมว่าเขาแอบหึงเธอ ทว่ามันเป็นไปได้เหรอ เขามองเธอเพียงแค่น้องสาว ทำตามคำขอร้องของพี่ชายแท้ ๆ เท่านั้น “เพื่อนผู้หญิงค่ะ พี่โจ้ก็รู้จักกันดี” จิลลาทำตามกฎของเด็กเลี้ยงลับเคร่งครัด 4ปีมาที่อยู่รั้วมหาวิทยาลัย โจ้สั่งห้ามเธอคบกับพวกเพื่อนผู้ชายสักคน แม้คุยเดินผ่านหรือส่งยิ้มเพื่อนชายคณะเดียวกันก็ถูกอีกฝ่ายส่งสายตาดุ ทำหน้าตึง “ตั้งใจเรียน แล้วสอบให้จบ พี่จะมารับตอนเย็น พี่ชายของจิลบอกว่าต้องมารับน้องด้วยตัวเองให้ได้” จิลลาแอบหัวใจพองโตดันห่อเหี่ยวกะทันหัน ทุกอย่างตลอดเวลาสี่ปีที่อยู่ใกล้ชิดกันสนิทสนม โจ้ทำเพื่อคำขอร้องจอมเหนือ พี่ชายเธอหวงน้องสาวเท่านั้น อยากรู้ว่า ถ้าไม่ใช่คำสั่งพี่จอม เขาจะทำแบบนี้กับเธออยู่ไหม “ลืมอะไรไปหรือเปล่า” ปากขยับพูดมองเห็นร่างนิสิตสาวพายกระเป๋าเรียน เปิดประตูรถกำลังก้าวขาลงไปด้านนอก โจ้ก็ทวงสัญญาซะแล้ว “อะไรคะ อ้อ จิลไม่ลืมหรอกค่ะ” เครื่องหน้าขาวเนียนหมดจดโน้มตัวหอมแก้มสากของผู้ปกครองสุดแสนเอาแต่ใจ ก่อนจะไปเรียนหรือด้านนอก โจ้สั่งให้จิลลาหอมแก้มเป็นประจำ “ข้างเดียวมันจะไปพออะไร” จิลลาต่อต้านไม่ทัน ช้ากว่าความไวของจิ้งจอกเจ้าเล่ห์เอาปากตัวเองประกบจูบกลีบปากนุ่มหญิงสาว ตวัดเรียวลิ้นรัดรึงหยอกล้อด้านในโพรงปาก จูบเบา ๆ อ่อนโยนกว่าเดิม ก่อนถอนปากจากเธอ “ทำหน้าให้มันดี ๆ เดี๋ยวคนก็เข้าใจผิดคิดว่ากินเผ็ดมากจนปากบวมแดงเจ่อ” โจ้กลั้วหัวเราะในลำคอ เห็นสภาพเด็กเขาทำหน้าไม่พอใจ กลีบปากบวมแดงเจ่อ ลบรอยลิปสติกหมด “ก็พี่โจ้นั่นแหละ ไหนบอกว่าแค่หอมแก้มเฉย ๆ ทำไมต้องดึงจิลเข้าไปจูบ” “พี่อดใจไม่ไหวเองนะก็เลยอยากทำมากกว่าหอมแก้ม” “จิลโกรธพี่โจ้แล้ว คนไม่รักษาสัญญา ตอนเย็นไม่ต้องมารับจิลหรอกค่ะ จิลกลับนั่งแท็กซี่เองได้” “อวดเก่ง!” โจ้ส่ายหัวเล็กน้อยกับความดื้อรั้นของเด็กที่เขาเลี้ยงดู โกรธหน้าดำหน้าแดงวิ่งออกจากรถเขาแล้ว เห็นแก่พี่ชายของจิลลา ปกติมาเฟียหนุ่มไม่เคยคิดสร้างพันธะให้มันปวดหัว ยกเว้นอดีตคู่หมั้นข้างบ้านที่เคยรู้จัก น้องน้อยที่เคยกลัวเขาในวันนั้น เติบโตมาเป็นสาวสวยสะพรั่ง โจ้คงคิดฟุ้งซ่านไปเอง อาจพักผ่อนไม่เพียงพอ เขาเอ็นดูเธอแค่น้องสาว ไม่ได้คิดไกลมากกว่านั้น ครืด ครืด (MoM) “ครับคุณแม่” มหาวิทยาลัย Ss “วันนี้มีหนุ่มหล่อที่ไหนมาส่งแกเหรอ จิล” จิลลาขยี้ลบรอยจูบเปื้อนลิปสติกเก่าออกแล้วทาลิปสติกสีชมพูอ่อนทาบทับใหม่ นั่งกระแทกก้นลงบนโต๊ะม้านั่งหินอ่อน ขณะรอเวลาเข้าเรียนคาบเช้า ยาหยี เพื่อนสนิทผิวปากแซว “แกเห็นเหรอ” รถของชายหนุ่มจอดอยู่ตั้งไกล กระจกรถติดฟิลม์สีดำกันคนด้านนอกมองเห็น แล้วยาหยีมันรู้ได้ยังไง จิลลาร้อนรน “จะให้ฉันเห็นอะไรย่ะยัยจิล นี่แกไม่รู้เหรอว่ารถคันนั้นมันแพงมาก มีไม่กี่สิบคัน นักศึกษาคนอื่นเขามองสนใจว่าเป็นรถของใคร รู้กันแล้วว่ามีคนรวยมาส่งแก” “เพื่อนพี่ชายฉันนะ เขาให้ฉันติดรถมาด้วย” ตอบเลี่ยงไปส่ง ๆ เบือนหน้าหันหนีทางอื่น กลบเกลื่อนสายตาและสีหน้าปิดเพื่อนสนิทไม่มิด “ฉันไม่เชื่อหรอก ไม่ใช่เพื่อนพี่จอม น่าจะเป็นอดีตพี่รหัสของพี่จอมมากกว่า...หรือว่าเขาสนใจแกมากขึ้นถึงขนาดขับรถมาส่ง” ยาหยีปิดปากตัวเองแน่น เธอรู้เรื่องทั้งหมดจากปากเพื่อน เพราะเคยสนิทกับจอมเหนือ พี่ชายของจิลลา และอีกอย่างเห็นใจเพื่อน ที่อยู่กับผู้ชายคนนั้นในสถานะอะไร “เขาแค่ทำตามคำขอร้องของพี่จอมเอง ไม่มีอะไรหรอก รีบเข้าเรียนเถอะ เดี๋ยวสาย” ยาหยีมองเพื่อนเขินหน้าแดงก่ำรู้ทันว่าอีกฝ่ายกำลังเบี่ยงเบนประเด็นความสนใจ จิลลาสะพายกระเป๋าเดินนำหน้าเข้าตึกคณะที่ตนเรียน ยาหยีเลิกแกล้งเพื่อนแล้วก็ได้ กลัวผิวแก้มแดง ๆ ของเพื่อนจะระเบิดไปเสียก่อน รู้ว่าแอบชอบพี่เขา ทำไมไม่กล้าสารภาพตามตรงไปเลยล่ะ ปล่อยเวลาผ่านมาตั้งหลายปี...ยัยเพื่อนคนนี้เนี่ย 09.45 น. เรือนร่างสูงใหญ่มาพร้อมชุดสูทสีเข้มแสนน่าอึดอัด ลูกชายคนเดียวของท่านประธานเทเลอร์พาวเวอร์ ไม่อยากมาเหยียบที่นี่ ถึงกระนั้นโจ้เลือกคนละเส้นทางกับพ่อแม่ ไม่อยากรับช่วงต่อองค์กรสักเท่าไหร่ เขาจึงร่วมลงหุ้นกับไนต์คลับตรีภพ เพื่อนสนิทตนมากกว่า “แม่เรียกผมมาเพื่อ?” ทั้งที่โจ้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทของครอบครัวฝั่งแม่ก่อตั้ง เขาเองก็สืบสานต่อองค์กรอดีตมาเฟียเก่าแก่ฝั่งคุณปู่ “แม่คิดถึง อยากเจอหน้าลูกชายสักครั้ง แม่ทำไม่ได้เหรอจ๊ะตาโจ้” “บอกว่าคิดถึงผม หรือคิดจะเป็นกามเทพให้ผมนัดกินข้าวกับคู่หมั้นที่ผมไม่ได้เลือกเองล่ะ” เขาตวัดเสียงแข็งกระด้าง ไม่ใช่เด็กน้อยที่ผู้ใหญ่บีบบังคับกะเกณฑ์ในชีวิตทุกอย่าง จรัสทิวา ผู้เป็นแม่ลอบถอนหายใจ นิสัยหน้าตาช่างเหมือนคุณปู่ของเขา ลูกชายคนนี้ช่างรู้ทันเสมอ... “ก็แล้วทำไมถึงปฏิเสธนัดล่ะ เสียมารยาทหนีกลับบ้านมาก่อน” จรัสทิวาอยากตีต้นแขนลูกชาย ทำงามหน้ามาไหมล่ะ รายนั้นคือลูกสาวอดีตนักการเมืองชื่อดัง คนเป็นลูกค้านเสียงแผ่วเบา “ก็ผมบอกแม่แล้วว่าผมกับนันท์นารีเราเข้ากันไม่ได้ คุณแม่ก็ยังไม่ถอนหมั้นให้ผมอีก” ทำสีหน้าคล้ายเบื่อโลก หันมองซ้ายขวากลับไม่เห็นพ่อ “ป๊ะป๋าล่ะครับ” “เพื่อนชวนออกไปตีกอล์ฟนะ ไปแต่เช้าโน้น ไม่รู้ติดใจสาวแคนดี้ไหนหรือเปล่า” “ผมว่าพ่อเขาไม่กล้าทำแบบนั้นหรอก พ่อมีแค่แม่คนเดียวจะตาย” จรัสทิวาถอนหายใจระลอกสอง พ่อกับลูก เชื้อความกระล่อน เจ้าเล่ห์มีพอ ๆ กัน ท่านประธานผลิตภัณฑ์ครีมเสริมความงามเงยหน้ามองลูก เอ่ยถามเรื่องเด็กนั้น “ที่ลูกไม่ชอบหนูนันท์นารี เพราะมัวแต่ไปคลุกอยู่กับเด็กคนนั้นอยู่คอนโดฯ ทุกวัน อย่าคิดว่าแม่ไม่รู้ทัน” “แม่ก็รู้ว่าผมสงสารครอบครัวนั้น ผมรู้จักกับจอมก็เพราะเราเคยเป็นพี่น้องรหัสกัน อย่าลืมสิว่าผมเป็นเจ้าพ่อเงินกู้ ผมไม่ได้ช่วยเหลือให้เงินฟรี ๆ กู้ยืมตามสัญญา และเด็กนั้นแค่ดอกเบี้ยใช้หนี้แทนพี่ชายเธอเท่านั้น” ไม่มีอะไรอยากได้แล้วโจ้ไม่ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างคือผลประโยชน์ทางธุรกิจ ใครอยากเสียเงินหลายล้านให้คนอื่นฟรี ๆ ล่ะ บนโลกใบนี้ย่อมมีอะไรมาตอบแทน มุมปากของโจ้กระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ พลันหวนนึกถึงเรื่องอดีตเมื่อสี่ปีที่แล้ว ตอนที่จิลลา เสนอตัวมาขายให้เขาเองก็เพื่อเงิน ช่วยประคองธุรกิจพร้อมกับพี่ชายตัวเอง... ‘สิ่งเดียวที่พอจะมีประโยชน์นำมาแลกเปลี่ยนได้ก็คือร่างกายของเธอ’ —— ถ้าอยากให้ไรท์ต่ออีก คอมเม้นท์ให้กำลังใจไรท์ด้วยนะ เรื่องนี้ไม่มีการสปอยล์ล่วงหน้า เลิฟยู🫶
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD