บทที่ 4 ฆ่าฉันสิ 3

772 Words
“คนแปลกหน้า?” ดนุวัศแสยะยิ้ม ขบกรามแน่น โปรดปรีดาทำลายชีวิตเขาจนพังยับ แล้วมาใช้คำว่าคนแปลกหน้าผลักไสเขาให้ออกไปจากชีวิตเธออย่างนั้นหรือ... “คนแปลกหน้าเขาไม่นอนเอากันมาตั้งสามปีหรอก เธอพูดคำนี้ออกมา ไม่รู้สึกตลกตัวเองเลยรึไง” ตลกสิ! โปรดปรีดาเม้มปากแน่น แทบจะเค้นทั้งชีวิตพูดคำนี้ออกมา เธอรักผู้ชายคนนี้มานานหลายปี ดนุวัศอยู่ทั้งในหัวใจ สมองและร่างกายของเธอ เธอไม่มีวันลืมเขาได้ด้วยซ้ำ แล้วจะเป็นแค่คนแปลกหน้ากันได้อย่างไร เพียงแต่การรักเขานั้นเหนื่อยเกินไป ทรมานเกินไป เธอรักเขาต่อไปไม่ไหวแล้ว เพราะเธอใช้หัวใจรักเขาไปจนหมด ไม่เหลือพอจะให้รักได้อีกแล้ว เธอจึงต้องยอมปล่อยมือ... “แค่เฉียดตายครั้งเดียวก็คิดว่าพอแล้วเหรอ ฮึ...ความผิดของเธอต่อให้ชดใช้ฉันทั้งชาตินี้ชาติหน้าก็ยังไม่หมด เพราะฉะนั้นคนที่ตัดสินใจได้ว่าจะพอเมื่อไหร่คือฉันคนเดียวเท่านั้น” โปรดปรีดามองรอยยิ้มเย็นยะเยือกที่ผุดขึ้นบนมุมปากของสามี แล้วค่อยๆ หลับตาลงอย่างสิ้นหวัง กล้ำกลืนความปวดร้าวทั้งหมดลงไปให้ลึกสุดใจ ไม่ปริปากพูดอะไรออกมาอีกแม้แต่คำเดียว คล้ายจะบอกเขาว่า...อยากทำอะไรก็ทำ ดนุวัศมองคนที่ตั้งกำแพงความเงียบใส่เขาแล้วยิ่งหงุดหงิดหัวเสีย จงใจกระแทกลมหายใจออกมาแรงๆ ให้คนนอนเจ็บได้ยิน แต่โปรดปรีดายังคงเงียบงัน ไม่คิดจะลืมตามองเขาเลยสักนิด เธอนิ่งจนเขาใจแกว่ง ขนาดเขาจ้องเธอเอาเป็นเอาตายอย่างนี้ เธอยังไม่สะทกสะท้านเลย คิดจะใช้ความเงียบเอาชนะเขาหรือ? เอาสิ...เธอไม่พูด เขาก็ไม่พูด เรามาแข่งความอดทนกันสักตั้ง! ชายหนุ่มกอดอกมองเธออยู่อย่างนั้นนานสักพักใหญ่ๆ สีหน้าบูดบึ้งขึ้นเรื่อยๆ มองจนตาจะกลับ แต่โปรดปรีดาก็ยังหลับตานอนนิ่งอยู่อย่างนั้น หนักเข้าก็พลิกตัวหนีไปอีกทาง เมื่อไม่เห็นวี่แว่วว่าจะชนะ จึงฮึดฮัดเดินออกจากห้อง ทว่าก่อนที่จะก้าวพ้นผ่านประตูออกไป ก็ยังไม่วายเอ่ยทิ้งท้ายให้โปรดปรีดาเจ็บใจจนแทบกระอักว่า “อย่าคิดเลยว่าชาตินี้เธอจะหนีฉันพ้น รีบๆ รักษาตัวให้หายละ เพราะฉันยังมีอีกสารพัดวิธีที่จะทรมานเธอไม่หมด นอนรออยู่ที่นี่เงียบๆ แล้วฉันจะส่งคนมารับกลับ ‘บ้าน’ ของเรา” โปรดปรีดากำผ้าห่มแน่น รอจนได้ยินเสียงบิดประตูแล้วจึงลืมตาขึ้น บ้านหลังนั้นเธอจะไม่มีวันกลับไปเด็ดขาด รวมถึงเจ้าของบ้าน เธอก็ไม่อยากจะเห็นหน้าเขาอีกแล้ว ถ้าหนีไม่ได้จริงๆ ละก็ เธอเลือกที่จะตายไปเสียดีกว่า เจ้าของร่างกายเปราะบางราวกับแก้วนอนนิ่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง แววตาว้าเหว่จับจ้องฝูงนกที่พากันบินกลับรังด้วยความอิจฉาจับใจ พวกมันคงจะมีความสุขที่ได้โบยบินท่ามกลางแสงแดดทอประกายกลายเป็นสีส้มแดงยามพระอาทิตย์ใกล้จะลาลับ ท้องฟ้าใกล้จะหลับใหล มีอิสระเหนือใครอย่างที่ใจคิด โปรดปรีดาถอนหายใจ ผิดกับเธอตอนนี้เหลือเกิน เธอไม่ต่างอะไรกับนักโทษที่ถูกกักขังติดคุกตลอดชีวิต ไม่มีสิทธิ์คิดหรือทำอะไรได้เลยสักอย่าง ทุกสิ่งล้วนขึ้นอยู่กับเจ้าชีวิตอย่างดนุวัศเท่านั้น แม้แต่ลมหายใจของเธอเขาก็ยังจะยึดครองถือตัวเป็นเจ้าของมัน ริมฝีปากซีดจางกระตุกยิ้มเยาะ ทำไมเธอถึงไม่ตายๆ ไปซะให้รู้แล้วรู้รอด! เป็นแบบนั้นยังจะดีเสียกว่า... เธอไม่ได้กลัวความตาย เพราะอยู่เหมือนคนที่มีแค่ลมหายใจ แต่ไร้วิญญาณ มันทรมานไม่ต่างจากตายทั้งเป็น อุตส่าห์คิดว่าในที่สุดก็ได้หลุดพ้นไปจากเขาแล้ว คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าฟ้ายังคงเล่นตลกกับเธอไม่เลิก ไม่ยอมให้เธอได้สมใจ หรือท่านคิดว่าแค่นี้เธอยังทรมานไม่พอ? “ทำไมท่านใจร้ายกับโปรดจังเลยคะ” เธอเหม่อมองฟ้าถามพึมพำ มุมปากแต้มยิ้ม แต่แววตาแสนเศร้าชนิดที่ใครเห็นเป็นต้องปวดใจแทน “เปรม...ทำไมไม่พาโปรดไปด้วย”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD