Chapter 4 | หรือว่าตาฝาด

1650 Words
ขณะที่เขากำลังนั่งเล่นโทรศัพท์รอเพื่อนสาวอย่างนาเนียร์เข้าไปเลือกของในห้องอยู่นั้น หางตาของเขาก็ชำเลืองไปเห็นหญิงสาวคนหนึ่งที่เขาคุ้นหน้าเธอมาก พอเห็นแบบนั้นชายหนุ่มก็รีบลุกขึ้นพร้อมกับเดินออกจากร้านมายืนอยู่บริเวณด้านหน้า แล้วเดินตามทางมาเรื่อย ๆ เพื่อจะมองหาอีกฝ่ายที่ตอนนี้ปรากฏว่าเธอไม่ได้อยู่แถวนี้แล้ว "ไปไหนนะ เมื่อกี้ก็เห็นอยู่แถวนี้" ชายหนุ่มเดินวนกลับไปมาหลายรอบแต่ก็ไม่พบ "หรือว่าตาฝาด แต่มันไม่น่าใช่นะ" ได้แต่บ่นพึมพำคนเดียว แต่ก็เลือกที่จะเดินหาวนอยู่แถวนั้นต่อสักพัก ก็พบว่าไม่เห็นเช่นเดิม ราชาก็มองไปที่ร้านที่ตัวเองเพิ่งออกมาสักพัก ก็ตัดสินใจเดินออกมาจากตัวห้าง เพื่อจะลงไปนั่งรอเพื่อนสาวที่รถดีกว่า เขาเดินมาเงียบ ๆ พร้อมกับเปิดประตูรถแล้วเข้ามานั่งเสร็จสรรพ โดยพออยู่คนเดียวแล้ว ชายหนุ่มก็หยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาเปิดเข้าดูแกลอรี่เพื่อเลื่อนดูภาพถ่ายที่เคยถ่ายกับอดีตคนรัก "นี่ฉันคิดถึงเธอ จนตาฝาดเลยเหรอเวียงพิงค์" เขาบ่นพึมพำคนเดียว พร้อมกับเลื่อนดูรูปไปเรื่อย ๆ พร้อมกับความรู้สึกคิดถึงอีกฝ่าย ทั้งที่ไม่ได้เจอกันตั้งหลายปีแต่เขาก็ยังคิดถึงเธออยู่แทบทุกวัน "ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างนะ เธอจะมีแฟนใหม่ไปหรือยังยัยคนใจร้าย" ครืด! ครืด! โดยพอเลื่อนดูรูปไปได้สักพัก โทรศัพท์ที่อยู่ในมือก็สั่นขึ้นมา พร้อมกับชื่อของเพื่อนสาวที่แสดงอยู่บนหน้าจอ ชายหนุ่มเห็นแบบนั้นก็พยายามปรับโหมดให้เป็นปกติ แล้วกดรับสายเพื่อน (นายอยู่ไหน) "รถ" (อ้าว ทำไมรีบไปจัง) "ที่ร้านคนเยอะ ฉันเลยมารอที่รถแทน เสร็จแล้วเหรอ" เขาเลือกที่จะโกหก เพราะถ้าให้พูดความจริงเพื่อนสาวของเขาต้องถามยืดยาว ซึ่งตัวชายหนุ่มนั้นขี้เกียจพูด (ใช่) "ถ้าเสร็จแล้วก็รีบมา" (โอเค) ซึ่งพอปลายสายพูดออกมาแบบนั้นเธอก็กดตัดสายทันที เขาจึงเลือกที่จะวางโทรศัพท์ลงโดยไม่ได้เลื่อนดูรูปต่อ นั่งรอไม่นานเพื่อนสาวของเขาก็เดินมาทางรถของเขาที่จอดอยู่ พอเดินมาถึง ก็เปิดประตูรถแล้วเข้ามานั่งลง พร้อมกับเอาของที่ตัวเองซื้อไปวางไว้บริเวณเบาะหลังของรถ "ไหนว่าจะไปดูเฉย ๆ ไง ทำไมได้มาตั้งหลายใบ" "ครั้งแรกก็ไม่ได้จะซื้อเยอะขนาดนี้หรอก แต่พอได้จับได้ถือมันสวยถูกใจไง แถม SA ก็เชียร์หนักด้วย เลยซื้อทำยอดให้เขา" "จะกลับคอนโดเลยไหม หรือจะแวะที่ไหนอีกหรือเปล่า" "ไม่แวะแล้ว กลับเลยดีกว่า ฉันอยากนอนแล้วเนี่ย วันนี้ก็เรียนติดต่อกันมาทั้งวัน" "เรียนอะไร ฉันเห็นเธอหลับทั้งคาบ" เนื่องจากวันนี้คาบสุดท้ายก่อนกลับบ้าน ตัวเขาและเพื่อนสาวได้เรียนวิชาเดียวกัน และเขาสังเกตเห็นเธอแทบไม่ได้ฟังอาจารย์สอนเลย เพราะเอาแต่นอนทั้งคาบ "ราชา" นาเนียร์เอ่ยชื่อเขาเสียงดัง แล้วยังทำสีหน้าไม่ค่อยพอใจ ซึ่งเขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก "ก็ฉันพูดจริง" "....." "อยากกลับไปนอนก็ให้ไปนอนจริง ๆ เถอะ ไม่ใช่คืนนี้เห็นเช็กอินที่ผับล่ะ" "คืนนี้ไม่ออกไปไหนจริง ๆ อยากพักร่าง" หญิงสาวตอบเพื่อนไป พร้อมกับปรับเบาะที่ตัวเองนั่งเอนนอนลงแล้วหลับตาเพื่อพักผ่อน เขามองอีกฝ่ายที่นอนไปแล้ว ได้แต่ส่ายหน้าไปมา แล้วหันกลับมาสนใจการขับรถของตัวเองต่อ จนเวลาผ่านมาเกือบยี่สิบนาที ชายหนุ่มก็ขับมาจอดบริเวณหน้าคอนโดของคนนั่งร่วมรถ ซึ่งตอนนี้เธอยังไม่ตื่น เขาจึงยื่นมือไปสะกิดเพื่อปลุก "ตื่นได้แล้ว" เขาเอ่ยปลุกเพียงครั้งเดียว นาเนียร์ที่หลับไปก่อนหน้านี้ ก็ลืมตาตื่นขึ้นมา แล้วหันมาจ้องมองเขา "ถึงแล้ว" พอเขาบอก หญิงสาวก็เงยหน้าไปข้างหน้า "เร็วจัง ฉันเพิ่งงีบไปเอง วันนี้นายขับเร็วเหรอ" "ก็ปกติ ลงไปได้แล้ว พูดมาก" "แล้วทำไมต้องไล่" "ไล่อะไร ฉันไม่ได้ไล่" "ก็นายบอกให้ฉันรีบลงไง" "ก็มาส่งถึงคอนโดแล้ว เลยให้ลงไง" "ปกติไม่เร่งขนาดนี้ นายจะไปไหนต่อเหรอ" "ไม่ได้ไปไหนหรอก ส่งเธอแล้วฉันก็จะกลับห้อง" เขาพยายามอธิบายให้นาเนียร์เข้าใจ "งั้นก็ขับรถกลับดี ๆ ฉันไปแล้ว พรุ่งนี้เจอกัน" "อืม" ชายหนุ่มตอบกลับไป เพื่อนสาวก็ลงจากรถพร้อมกับยืนโบกมือให้เขา ซึ่งชายหนุ่มเห็นก็บีบแตรใส่ และขับออกมาที่ถนนใหญ่ เพื่อจะกลับคอนโดของตัวเอง ที่อยู่ห่างจากที่นี่ไม่มาก ทางด้านเวียงพิงค์ หลังจากที่เลิกเรียนแล้ว หญิงสาวก็เดินทางมาที่ห้างสรรพสินค้าที่อยู่ไม่ไกลจากอพาร์ตเมนต์ที่เธอพักเพื่อซื้อของเขาห้อง เนื่องจากวันนี้เป็นวันที่เงินเดือนเธอออก "ได้อะไรมาเยอะเลยเวียงพิงค์" "อาหารสดค่ะคุณป้า แล้วก็มีของเล่นน่านฟ้าด้วยค่ะ" เธอตอบคำถามของคุณป้าร้านขายของชำหน้าอพาร์ตเมนต์ พร้อมกับรีบเดินเข้ามาในตึก "ป่านนี้จะทำอะไรอยู่นะตัวแสบของแม่" ระหว่างที่เดินขึ้นบันได เธอก็เอาแต่คิดถึงลูกชาย "ถ้าเห็นว่าเราซื้อของเล่นมาให้ ต้องดีใจมากแน่" เธอนึกถึงเวลาลูกดีใจได้ของเล่นใหม่ เธอก็รู้สึกมีความสุขมากเลย หญิงสาวรีบเดินเอาของมาเก็บที่ห้องที่ห้อง พร้อมกับหยิบเงินจำนวนนึงใส่กระเป๋าเสื้อ แล้วเอาอาหารสดแช่ในตู้เย็น พอจัดการของที่ซื้อมาเสร็จ ก็รีบเดินมารับเจ้าลูกชายที่ห้องของคุณยายไหมทันที ก๊อก! ก๊อก! เธอยกมือเคาะประตู และยืนรอสักพัก ประตูที่ปิดอยู่ก็ถูกเปิดออกมา พร้อมกับลูกชายตัวแสบของเธอวิ่งมากอดขาเธอเอาไว้ "แม่คับ" (แม่ครับ) "ครับ" เวียงพิงค์ก้มอุ้มลูกชาย แล้วหอมไปที่แก้มทั้งสองข้างฟอดใหญ่ด้วยความคิดถึง "คิดถึงจังเลยเจ้าตัวแสบ วันนี้ม่านฟ้าดื้อไหมคะคุณยาย" หลังจากที่พูดกับลูกชาย เธอก็หันไปพูดกับคุณยาย "ไม่เลยลูก น้องน่านเป็นเด็กดีมาก" "เก่งมากเลยครับคนเก่งของแม่ ลูกเป็นเด็กดีแบบนี้ แม่ก็มีรางวัลให้ด้วยนะ" "อะไรหยอคับแม่" (อะไรเหรอครับแม่) "อยู่ที่ห้องค่ะ ไปดูสิ" โดยเธอบอกแบบนั้น ก็วางลูกชายตัวเองลง เด็กน้อยตัวแสบพอเป็นอิสระ ก็รีบเดินไปที่ห้อง ซึ่งเธอมองก็ยิ้ม โดยก่อนจะเดินตามลูกกลับห้อง เธอก็หยิบเงินที่พกมาด้วยยัดใส่มือคนมีอายุตรงหน้า "อะไรลูก" ยายไหมมีท่าทีตกใจ จะยัดเงินคืนกลับให้เธอ แต่ครั้งนี้เธอไม่ช้าเหมือนทุกครั้ง รีบถอยกลับออกมาจากห้อง "เก็บไว้ใช้นะคะ ค่าเลี้ยงตัวแสบให้พิงค์ค่ะ" "ยายบอกแล้วไงว่าไม่เอาเงิน ยายเต็มใจเลี้ยงน้องน่านให้เฉย ๆ" "เก็บไว้เถอะนะคะคุณยาย เพราะถ้าครั้งนี้ยายไม่ยอมรับเงินอีก ต่อไปพิงค์คงไม่กล้าฝากลูกให้ยายเลี้ยงอีกแน่" เนื่องจากเธอฝากน้องน่านให้คุณยายเลี้ยงมาหลายเดือนแล้ว แต่ท่านก็ไม่ยอมรับ ถึงจะรับก็รับนิดหน่อย ไป ๆ มา ๆ ก็ให้คืนโดยซื้อของเล่นให้น่านฟ้าแทน ซึ่งเธอเกรงใจมาก "โอเค ยายยอมรับเงินนี่ไว้ก็ได้" "รับไว้แล้ว ก็เอาไว้ใช้เอง แล้วห้ามซื้อของเล่นให้น่านฟ้าอีกนะคะ" เธอบอกเอาไว้ ซึ่งคุณยายก็ยิ้มให้ เหมือนกับรู้ว่าเธอรู้ความคิดท่าน "พิงค์ไปก่อน" หญิงสาวปิดประตูให้คุณยาย แล้วเดินมาที่ห้องของตัวเองที่อยู่ถัดออกมาไม่กี่ห้อง พอเข้ามาให้ห้อง เธอก็จัดการปิดและล็อกเสร็จสรรพ แล้วหันมามองลูกชายที่กำลังแกะของเล่นที่เธอซื้อให้ใหม่อย่างอารมณ์ดี "ชอบไหมคะ" เธอถามไปยังลูกชาย "ชอบคับคุณแม่" (ชอบครับคุณแม่) "งั้นก็เป็นเด็กดี เดี๋ยวเดือนหน้าเงินแม่ออกจะซื้อชิ้นใหม่ให้อีก" "ขอบคุณคับ" (ขอบคุณครับ) น่านฟ้ายกมือไหว้ขอบคุณเธอ ซึ่งเธอเห็นแบบนั้นก็ยื่นมือไปลูบหน้าเจ้าลูกชายด้วยความเอ็นดู แล้วลุกขึ้นเดินมาที่ครัวเพื่อจะทำอาหาร เนื่องจากวันนี้เป็นวันเงินเดือนออก ทางผับจึงปิด "วันนี้ทำอะไรกินดีนะ" เวียงพิงค์เดินมาเปิดตู้เย็น พร้อมกับมองหาว่าเย็นนี้ตัวเองจะทำอะไรกินดี "วันนี้ลูกอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหมคะ" เธอหันไปสอบถามลูกชายที่กำลังเล่นของเล่นใหม่ "น่านอยากกิน ทอดหมู แล้วก็ข้าวผัดคับ" (น่านอยากกิน ทอดหมู แล้วก็ข้าวผัดครับ) "ข้าวผัดอะไรดี ไส้กรอกหรือว่าข้าวผัดหมูคะ" "ข้าวผัดไส้กรอกคับ" (ข้าวผัดไส้กรอกครับ) "โอเค งั้นนั่งรอแม่แป๊บนึง" เธอบอกลูกชายออกไปแล้วหันกลับมาหั่นหมูก็จะทอด พร้อมกับเตรียมของที่จะทำข้าวผัดด้วย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD