#เฮียไคอย่าร้าย(9)
“หนู”
“……..”
“หนูคะ”
“…….”
“เค้ก”
“ฮะ” หญิงสาวที่สติล่องลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัวสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจเมื่อจู่ ๆ ชายหนุ่มก็ตะโกนเรียกชื่อเธอเสียงดังลั่น หญิงสาวละล่ำละลักขานตอบน้ำเสียงสั่นพลางยกมือเกาแก้มตัวเองแก้เก้อทันทีที่ได้สติว่าเมื่อกี้ตัวเธอเผลอทำอะไรลงไป หญิงสาวก่นด่าตัวเองในใจที่บังอาจไปเผลอไผลให้กับความหล่อของชายหนุ่ม
‘เป็นบ้าไปแล้วหรือไงอีเค้ก’ เค้กก่นด่าตัวเองในใจ
“หนูเป็นอะไรไปคะ เฮียเรียกชื่อหนูตั้งนาน หนูเหม่ออะไรคะ” ไคถามด้วยความห่วงใยที่ได้เห็นอาการเงียบงันของหญิงสาวเมื่อครู่ คล้ายว่าสติของเธอได้หลุดลอยไปไกลจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ในยามที่เธอมองหน้าเขา ไคไม่อยากเข้าข้างตัวเองหรอกนะว่าหญิงสาวน่ะหลงเสน่ห์ความหล่อเหลาของเขา แต่มันก็อดคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้จริง ๆ เมื่อได้เห็นสายตาของเธอที่มายังเขาด้วยแววตาหวานฉ่ำ
“ปะ เปล่า” เค้กปฏิเสธเสียงสั่นพลางหันหน้าหนีไคไปอีกทาง จู่ ๆ เธอก็รู้สึกร้อนผ่าวที่หน้า ไม่ต้องดูกระจกเค้กก็พอเดาได้ว่าตอนนี้หน้าเธอแดงด้วยความเขินอายขนาดไหน
“หนูจ้องหน้าเฮีย เฮียเห็นนะ” ไคกระหยิ่มยิ้มย่องมองหน้าหญิงสาวด้วยความชอบใจ
“เลอะเทอะน่าเฮียไค ใครอยากมองหน้าเฮียให้เสียลูกกะตากัน”
“แหม หนูก็พูดไปเฮียหล่อกว่าเด็ก ๆ หนูอีก แถมยังรวยกว่าอีกด้วย หนูสนใจคบกับเฮียไหมล่ะ เฮียยินดีทุ่มให้หนูหมดหน้าตัก แขนไม่จับ ตัวไม่แตะ” ซะที่ไหน ตกหลุมพรางที่วางไว้เมื่อไหร่พ่อจะล่อให้ยับเลยคอยดูแม่สาวน้อย
ไคคิดแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา ก่อนจะรีบหุบยิ้มลงเพราะกลัวว่าหญิงสาวจะเห็นรอยยิ้มร้ายกาจของเขาเข้า
“คนอย่างเฮียเชื่อได้ตายแหละ” เค้กเบะปากอย่างไม่เชื่อในคำพูดของไค พูดออกมาได้ไม่อายฟ้าอายดินบ้างหรือไง ได้เป็นแฟนไม่จับไม่แตะ เหอะ ขนาดตอนนี้ที่ไม่ได้เป็นแฟนกันเขายังจับเธอจูบปากแทบเปื่อย เขามันตอแหลชะมัดเลย
“ก็ลองก่อนสิคะ หนูจะได้รู้”
“ไม่ล่ะคะ เค้กไม่อย่างเสียเวลา” จบประโยคของเค้กเป็นจังหวะเดียวกันที่รถของชายหนุ่มเคลื่อนเข้ามาจอดที่หน้าบ้านของหญิงสาว
ไคมองออกไปนอกกระจกรถ เพื่อต้องการมองสำรวจบ้านของหญิงสาว ‘ถึงว่าทำไมกล้าเลี้ยงผู้ชาย ลูกคนมีตังค์นี่เอง’ พลางคิดในใจ
“ลานะคะ ขอบคุณที่มาส่งหวังว่าเราคงไม่ได้เจอกันอีก” เค้กหันมาเอ่ยลาพร้อมยกมือไหว้ไคจากนั้นเธอก็สะบัดตูดลงจากรถเขาไปไม่ทันทีที่ไคจะได้เอ่ยทักท้วงเลยด้วยซ้ำ ไคมองตามตูดงอน ๆ ของเค้กที่ส่ายไปมาซ้ายทีขวาทีด้วยแววตาลามกอย่างไม่ปิดบังพลางแลบลิ้นเลียริมฝีตัวเองเบา ๆ
‘หวังว่าเราจะไม่ได้เจอกัน’
ไคเค้นยิ้มเย้ยหยันเมื่อเผลอนึกถึงคำพูดของหญิงสาวเมื่อครู่พลางพึมพำออกมาเสียงแผ่วว่า
“น่าเสียใจจังที่หลังจากนี้เราจะได้เจอกันทุกวัน”
หลายอาทิตย์ผ่านไป
นับได้ว่าตั้งแต่วันที่เค้กรู้ว่าเพื่อนสนิทเป็นแฟนกับเพื่อนของไค ชีวิตของหญิงสาวก็ไม่เคยสงบสุขอีกต่อไป เมื่อไคเข้ามาวนเวียนอยู่ในชีวิตของเธอทุกวัน ทุกครั้งที่เธอไปเที่ยวกับเพื่อน เพื่อนของเธอก็มักจะพกแฟนมาด้วย แล้วแฟนของเพื่อนเธอก็พกเพื่อนของเขามาอีกที และยิ่งไปกว่านั้นหลังเลิกเรียนเค้กมักเห็นไคมาเดินเพ่นพ่านอยู่ในมหา’ลัยของเธอพร้อมกับเพื่อนของเขาที่มารอรับแฟน เค้กพยายามไม่สนใจไคแล้ว แต่ทุกครั้งที่เธอหมางเมินทำเป็นมองไม่เห็นเขา ไคก็จะพาตัวเองมาอยู่ในระยะสายตาที่เธอมองเห็น เธอมองซ้ายเขาก็จะขยับตัวมาอยู่ซ้าย เธอมองขวาเขาก็จะขยับตัวมาอยู่ทางขวาเป็นอย่างนั้นเรื่อยมาจนเค้กเอือมระอาจะพูดกับคนอย่างเขาแล้ว
“กลับบ้านยังไงอะอีเค้ก วันนี้แกไม่ได้เอารถมาไม่ใช่หรือไง” วันใหม่หันมาถามทันทีที่เค้กทิ้งตัวนั่งลงตามติดด้วยวันใหม่กับกันตาที่ทิ้งตัวนั่งลงใกล้กันติด ๆ
“ลุงชัยไม่ว่างมารับอะ คงต้องนั่งรถแท็กซี่กลับมั้ง” วันนี้เหมือนเป็นคราวซวยของเธอ รถของเธอดันมายางรั่วตั้งแต่ยังไม่ออกจากบ้าน เมื่อเช้าเลยวานให้คนขับรถของที่บ้านมาส่งเธอที่มหา’ลัย ตอนเช้าลุงชัยมาส่งเธอได้แต่ทว่าตอนบ่ายแกกลับไม่ว่างซะอย่างนั้นเนื่องจากต้องพาพ่อของเธอไปทำธุระอีกที่หนึ่ง
“ทำไมมึงไม่กลับกับน้องมึง” กันตาออกความเห็น
“กลับไปแล้ว” เค้กพูดพลางพ่นลมหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะซบหน้าลงกับแขนตัวเอง
“งั้นเราไปกินชาบูกันเถอะ เดี๋ยวฉันไปส่งแกเอง วันใหม่ออกความเห็น
“เอางั้นก็ได้” เค้กไม่ปฏิเสธเพราะตอนนี้เธอเองก็รู้สึกหิวมากเหมือนกัน จากนั้นสามสาวก็พากันบึ่งรถมายังร้านชาบูในห้าง เข้ามาในร้านได้เค้กก็ต้องผงะเมื่อภายในโต๊ะเต็มไปด้วยเพื่อนพ้องของไค รวมถึงไคเองก็นั่งอยู่ในโต๊ะด้วย “อีกแล้วนะ” เค้กหันไปเอ็ดเพื่อนที่ไม่ยอมบอกกล่าวเธอว่าจะมีคนพวกนี้ร่วมโต๊ะด้วย ถ้าเธอรู้เธอไม่มีทางมาแน่
“เอาน่ามึง” กันตาว่าพลางใช้มือดันหลังเค้กให้เดินไปนั่งที่โต๊ะ
“มา ๆ สาว ๆ เฮียสั่งอาหารไว้รอแล้วถ้าพวกเราจะทานอะไรเพิ่ม สั่งได้เลยน้า มื้อนี้เฮียเลี้ยงเอง”
“สายเปย์อีกแล้วนะเฮียกันต์”
“เปย์ให้เมียเฮียคนเดียว” ส่งสายตาหวานฉ่ำให้วันใหม่ ภายในโต๊ะจึงเกิดเสียงแซวขึ้นมา
ทันทีที่เค้กทิ้งตัวนั่งลงเก้าอี้ ไคก็รีบขยับเก้าอี้ตัวเองชิดตัวเค้กด้วยความไวพลางก้มลงกระซิบถามบางอย่างกับเค้กด้วยรอยยิ้มไม่น่าไว้ใจ
“หนูอยากโดนเปย์บ้างไหม” เค้กหันไปมองค้อนไคที่เอาหน้ามาใกล้เธอแทบจะสิงเธออยู่รอมร่อ
“ไม่อยาก”
“ทำไงถึงอยากอะ เฮียอยากเปย์หนูบ้าง เงินในเป๋าเฮียมันสั่นริก ๆ แล้วนะ”
“เอาไว้เปย์สาวของเฮียเถอะค่ะ”
“เฮียมีหนูคนเดียว”
“ใครเชื่อก็ควาย”
“งั้นหนูก็เป็นควายซะสิ หนูจะได้เชื่อในสิ่งที่เฮียพูด”
“อีเฮีย” เค้กเค้นเสียงด้วยความโกรธเคืองเมื่อไคบอกให้เธอเป็นควาย เธอจ้องหน้าไคตาแข็งกร้าวพลางใช้นิ้วจิ้มตาไคไปหนึ่งที
“โอ้ย”
“สมน้ำหน้า ปากดีนัก”