Chapter 5
เด็กงอน
สองสัปดาห์ผ่านไป
@ คณะบริหารธุรกิจ
"เป็นอะไร? ทำไมทำหน้าแบบนั้นยัยวีญ่า" ออกัสซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของวีญ่าเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นช่วงนี้วีญ่าชอบเหม่อลอยทำหน้าเศร้าอยู่บ่อยๆ เหมือนกำลังมีเรื่องอะไรไม่สบายใจ
"ฉันไม่ได้เป็นอะไร" วีญ่ายิ้มกว้างให้ออกัส แต่ถึงเธอจะยิ้มกว้างแค่ไหนก็ไม่สามารถซ่อนแววตาเศร้าๆ ของเธอได้
"ปากก็บอกว่าไม่ได้เป็นอะไร แต่ไอ้ท่าทางของแกตอนนี้มันเหมือนกับคนที่กำลังอกหักเลยนะ"
"เฮ้ออออ" วีญ่าถอนหายใจออกมาอย่างคิดไม่ตก เพราะเธอก็ไม่มั่นใจในความรู้สึกของตัวเองเท่าไรนัก
"ไหนลองค่อยๆ เล่ามาสิว่าเป็นอะไร ทำไมช่วงนี้แกถึงได้เศร้าแบบนี้" นานะเพื่อนสนิทอีกคนของวีญ่าเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงไม่ต่างจากออกัส
"ฉันไม่รู้ว่าฉันควรจะจัดการกับความรู้สึกของตัวเองยังไง ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันรู้สึกยังไงกับเขา" วีญ่าเอ่ยบอกเพื่อนของเธอด้วยน้ำเสียงสับสน
"เขาที่แกพูดถึงน่ะ เขาคนนั้นเป็นใคร ไว้ใจได้ไหม?" ออกัสเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง เพราะถึงแม้บางครั้งวีญ่าจะมีนิสัยดื้อรั้นเหมือนเด็กๆ จนเธอต้องปวดหัว แต่ในความดื้อรั้นของวีญ่าก็แฝงไปด้วยความใสซื่อ จนออกัสอดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ และอีกอย่างวีญ่าก็ไม่เคยพูดถึงผู้ชายคนไหนนอกจากพี่ชายของเธอ แต่ตอนนี้วีญ่ากำลังพูดถึงผู้ชายคนอื่นที่เป็นใครก็ไม่รู้ โดยที่ออกัสไม่รู้ด้วยซ้ำว่าวีญ่าไปรู้จักผู้ชายคนนี้ได้ยังไง พอรู้อีกทีก็เห็นเพื่อนของเธอหน้าหงอยแบบนี้แล้ว
"เขาคือเพื่อนพี่ชายของฉัน ระหว่างฉันและเขาเราเคยเจอกันแล้วตอนไปทริปทะเลกับแก๊งเพื่อนๆ พี่ชายของฉัน แต่ตอนนั้นฉันไม่ได้สนใจอะไรเขาหรอกนะ จนกระทั่งมาเจอเขาอีกครั้งที่ห้างเมื่อสองอาทิตย์ก่อน พอฉันได้คุยได้และอยู่ใกล้เขา ฉันรู้สึกแปลกๆ แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าไอ้ความรู้สึกแปลกๆ แบบนี้มันคืออะไร แต่พอเขาหายเงียบไปฉันก็เอาแต่คิดถึงเขา ฉันคิดว่าฉันคงบ้าไปแล้วแน่ๆ เลย"
"ไอ้ความรู้สึกแปลกๆ ของแกน่ะวีญ่า มันเป็นความรู้สึกรักแรกพบหรือเปล่า" ใบบัวเพื่อนสนิทอีกคนของวีญ่าเอ่ยขึ้น ก่อนที่จะยิ้มให้วีญ่าด้วยสายตาเป็นประกาย เมื่อเพื่อนของเธอกำลังมีความรัก
"เพ้อเจ้อน่ายัยบัว ฉันไม่ได้รักพี่เขาซะหน่อย แค่รู้สึกดีนิดหน่อย" วีญ่าเอ่ยออกมาด้วยใบหน้าแดงซ่าน เธอคงยังไม่รู้สึกรักหรอก คงเป็นเพราะเขามีนิสัยอบอุ่นเหมือนพี่ชายของเธอ
"ปากแข็ง" นานะเอ่ยแซว ก่อนที่จะมองวีญ่าด้วยสีหน้ายิ้มๆ เมื่อเพื่อนของเธอไม่รู้ใจตัวเอง
"เฮ้ย! คนนั้นใครวะ หล่อมากพ่อเจ้าประคุณเอ๊ย เขามารับใครน่ะ มารับฉันหรือเปล่า" ออกัสเอ่ยด้วยน้ำเสียงกระดี๊กระด๊า เมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาเจ้าของรถสปอร์ตหรูที่จอดรถอยู่หน้าคณะ
"เจ้าของห้าง THE-NINE ไงยัยกัส" นานะเอ่ยบอกออกัสด้วยน้ำเสียงกระดี๊กระด๊าไม่ต่างกัน เพราะใครๆ ก็รู้จักเจ้าของห้าง THE-NINE กันทั้งนั้น เพราะเขาเป็นหนุ่มหล่อที่ยังครองความโสดจนสาวๆ ค่อนประเทศอยากจะครอบครองหัวใจของเขา
"เขามาที่คณะเราทำไมเหรอแก แฟนเขาเรียนที่นี่เหรอ" ใบบัวเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ก่อนที่นานะจะจ้องมองชายหนุ่มที่ยืนพิงรถสปอร์ตหรูเหมือนกับว่าเขากำลังยืนรอใครสักคนอยู่
“เขาไม่มีแฟนย่ะ แต่ก็ไม่แน่ว่าในอนาคตเขาอาจจะเป็นแฟนฉัน” นานะพูดด้วยน้ำเสียงเคลิบเคลิ้ม
"..." วีญ่าได้แต่นั่งมองเพื่อนของเธอทั้งสามคนที่กำลังนั่งเมาท์มอยถึงคนใจร้ายที่ทำให้เธอว้าวุ่นใจอยู่เงียบๆ พลางคิดไปว่าที่เขาหายไปเขาคงจะมีสาวๆ คนใหม่ที่เรียนอยู่คณะนี้เป็นแน่ และเมื่อหญิงสาวคิดได้เช่นนั้นเธอก็ทำหน้ามุ่ยขึ้นมาทันที จากนั้นเธอเอ่ยชวนเพื่อนๆ ของเธอเอารายงานไปส่งอาจารย์
"เอารายงานไปส่งอาจารย์กันเถอะจะได้รีบกลับบ้านกัน อย่ามัวแต่บ้าผู้ชายกันนักเลย" วีญ่าเอ่ยพูดขึ้น จนเพื่อนทั้งสามของเธออึ้งกับคำพูดที่วีญ่าเปล่งออกมา เพราะวีญ่าไม่เคยพูดแบบนี้มาก่อน
"เดี๋ยวนี้ปากคอเราะรายจริงๆ นะยัยวีญ่า ปะๆ เอารายงานไปส่งอาจารย์กัน ฉันจะรีบเดินไปหน้าคณะจะไปดูหน้าเขาใกล้ๆ สักหน่อย คนอะไรวะขนาดมองไกลๆ ออร่าความหล่อยังพุ่งขนาดนี้ นี่ถ้าได้มองใกล้ๆ ฉันจะไม่ช็อกตายเพราะความหล่อของเขาเลยเหรอเนี่ย" ออกัสพูดด้วยน้ำเสียงกระดี๊กระด๊าตามประสาเจอผู้ชายหล่อ
"ปะๆ รีบเลย ฉันก็อยากจะไปเห็นหน้าเขาใกล้ๆ เหมือนกัน" นานะเอ่ยขึ้นมาบ้าง
"อย่ามัวแต่พูด พวกแกดูอีตุ๊กตาบาร์บี้มันมองเราเหมือนจะฆ่าเราอยู่แล้ว" ใบบัวเอ่ยพูด ก่อนที่เธอจะรีบเดินเข้าไปหาวีญ่าที่เดินนำไปก่อนแล้ว โดยที่พวกเธอยังพูดพร่ำถึงชายหนุ่มที่ยืนพิงรถสปอร์ตหรูอยู่หน้าคณะอยู่เลย
จากนั้นพวกเธอก็เอารายงานกลุ่มไปส่งอาจารย์ และเมื่อพวกเธอส่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว ออกัส ใบบัว นานะ ก็รีบเดินไปที่หน้าคณะทันที โดยที่มีวีญ่าเดินตามหลังมา
"ว้าย พวกแก เขายิ้มให้ฉัน" ออกัสใบหน้าแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย เมื่อเธอคิดว่าธันวาส่งยิ้มให้เธอ โดยที่เธอไม่รู้เลยว่า ชายหนุ่มนั้นส่งยิ้มให้วีญ่าที่อยู่ข้างหลังออกัส
"อิจฉายัยกัสเลยอะ มันตกผู้ได้แล้ว แถมงานดีซะด้วย" นานะพูดขึ้น
"หนูญ่า" ธันวาเอ่ยเรียกวีญ่าและคว้าแขนเรียวบางเอาไว้เมื่อเธอกำลังจะเดินผ่านเขาไป โดยที่เขาไม่ได้สนใจเพื่อนทั้งสามของวีญ่าที่หยุดยืนบิดซ้ายบิดขวามองเขาด้วยสายตาหวานเยิ้มเลยแม้แต่น้อย
"แอบแซ่บเงียบๆ นะจ๊ะหล่อน แหมๆ มิน่าล่ะเมื่อกี้ถึงได้อารมณ์เสีย" ออกัสเอ่ยกระซิบข้างกกหูของวีญ่า เมื่อเธอเริ่มที่จะจับต้นชนปลายได้ว่าอะไรเป็นอะไร ก่อนที่เธอจะเดินออกไปเพื่อให้ทั้งสองได้เคลียร์กัน
"ฉันไปละนะ ได้ผัวแซ่บไม่บอกเพื่อนเลยนะ" นานะเอ่ยขึ้น ก่อนจะหันไปมองหน้าธันวาแวบหนึ่งด้วยใจเต้นแรง จากนั้นเธอก็เดินตามออกัสไป
"อิจฉาแกสุด ๆ ทำบุญมาด้วยอะไรวะ ทำไมถึงหาผู้ได้งานดีแบบนี้" ใบบัวเอ่ยขึ้นอีกคน จากนั้นเธอก็เดินตามออกัสและนานะไปติดๆ ปล่อยให้วีญ่าได้อยู่กับชายหนุ่มเพียงลำพัง
"เดี๋ยวสิ รอฉันด้วย" วีญ่าเอ่ยเรียกเพื่อนๆ ของเธอ และพยายามสะบัดแขนออก แต่ชายหนุ่มกลับจับแขนเรียวบางไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
"เดี๋ยวพี่ไปส่ง"
"หนูกลับเองได้ วันนี้หนูขับรถมา" วีญ่าเอ่ยตอบน้ำเสียงนิ่ง เพราะเธอนั้นน้อยใจชายหนุ่มยิ่งนักที่เขาหายเงียบไปโดยไม่แม้ที่จะติดต่อเธอด้วยซ้ำ และวันนี้เขาอยากจะกลับมาหาเธอ เขาก็กลับมาอย่างงั้นเหรอ เขาเห็นเธอเป็นอะไรสำหรับเขากันแน่
"รถหนูเดี๋ยวพี่สั่งให้คนขับไปไว้ที่คอนโด ส่วนหนูมาคุยกับพี่ก่อน" ธันวาดึงหญิงสาวขึ้นรถ
“ห้ามลงมานะ” เขาชี้หน้าเธอเสียงเข้ม ก่อนที่เขาจะวิ่งขึ้นรถไปฝั่งคนขับและมองหน้าหญิงสาวที่หันหน้าหนีออกไปนอกรถ
"เป็นอะไรครับเด็กดี ทำไมถึงเมินใส่พี่แบบนี้" ธันวาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ก่อนที่จะโน้มตัวไปดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดให้หญิงสาว จากนั้นเขาก็ขับรถไปที่คอนโดของหญิงสาวทันที และเมื่อวีญ่าเห็นว่าถึงคอนโดของเธอแล้ว เธอก็ปลดเข็มขัดนิรภัยและทำท่าลงจากรถทันที
"โกรธพี่เรื่องอะไรครับ" ธันวาคว้าแขนเรียวเอาไว้ และเอ่ยถามหญิงสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"หนูไม่มีสิทธิ์ไปโกรธอะไรพี่หรอกค่ะ แต่พี่ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะมาเล่นกับความรู้สึกของหนูเหมือนกัน ที่อยากจะหายไปก็หายไปเฉยๆ แต่พออยากจะกลับมาก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น"
"หนูพูดออกมาแบบนี้ เพราะหนูคิดถึงพี่เหรอครับ ถึงได้งอนพี่หนักขนาดนี้"
"ก็หนูบอกพี่ไปแล้วไง ว่าหนูไม่มีสิทธิ์อะไรไปโกรธพี่ พี่อยากจะหายไปไหนก็เชิญเลย ไม่ต้องกลับมาให้หนูเห็นหน้าอีก"
"หื้ม...โกรธพี่มากขนาดนี้ สงสัยคิดถึงพี่มากแน่ๆ" ธันวาจับร่างบางให้หันหน้ามามองเขา ก่อนที่จะเชยคางมนขึ้น เพื่อสบตากับดวงตากลมโต
"ขอโทษที่หายไปและไม่ได้ติดต่อมาหาหนูเลย แต่เป็นเพราะพี่กำลังทำโพรเจกต์ร่วมลงทุนกับชาวต่างชาติ พี่กำลังจะสร้างห้างใหม่เร็วๆ นี้ ตอนนี้พี่ทำสำเร็จแล้วนะ ชาวต่างชาติยอมลงทุนและเซ็นสัญญากับบริษัทพี่แล้ว แต่มาคิดๆ ดูแล้วพี่หายไปแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เพราะมันทำให้พี่รู้ว่ามีเด็กดีแถวนี้คิดถึงพี่อยู่”
"หนูไม่ได้คิดถึงพี่ซะหน่อย"
"หนูยอมรับแล้วเหรอว่าหนูเป็นเด็กดีของพี่"
"ปะ...เปล่านะ" วีญ่ารีบเอ่ยปฏิเสธทันที
"ปากแข็งชะมัด” ธันวาเอาหลังพิงกับเบาะรถอย่างแรงเหมือนเหนื่อยล้า ก่อนที่เขาจะหันไปบอกหญิงสาวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา "หนูขึ้นไปพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวพี่จะกลับแล้ว แค่พี่ได้เจอหน้าหนูพี่ก็หายเหนื่อยแล้ว"
"พี่ธามไม่สบายเหรอ ทำไมหน้าตาดูเหนื่อยแบบนี้ล่ะคะ" วีญ่าเอ่ยถามอย่างเป็นห่วงและยกมือลูบแก้มสากเบาๆ
"พี่ปวดหัวนิดหน่อยครับ เดี๋ยวพี่กลับไปนอนพักพี่ก็หายเหนื่อยแล้ว แต่พี่ไม่รู้ว่าจะขับรถไหวหรือเปล่า แต่หนูไม่ต้องเป็นห่วงพี่หรอกนะ พี่จะพยายามประคองขับรถไปช้าๆ ให้ถึงคอนโดอย่างปลอดภัยนะครับ" ธันวาส่งยิ้มบางๆ ให้หญิงสาว
"งั้นพี่ธามขึ้นไปกินยาและนอนพักที่ห้องของหนูก่อนไหมคะ ถ้าอาการดีขึ้นแล้วค่อยกลับ"
"เอาแบบนั้นก็ได้ครับ ฟอด! ขอบคุณนะครับที่หนูเป็นห่วงพี่"