ROSES BAR
ฟู่ววว
เสียงเพลงขวัญที่อยู่ในชุดพนักงานเสิร์ฟของร้านดังใจกลางเมืองกำลังสูดหายใจเข้าปอดตัวเองลึก ๆ และเป่าลมหายใจออกแรง ๆ เพื่อพยายามตั้งสติกับงานใหม่ที่เธอกำลังจะเริ่มทำในวันแรก
“เธอทำได้เพลงขวัญ…เธอทำได้และจะทำมันได้ดี”
เพลงขวัญเอ่ยพูดให้กำลังใจตัวเองมือเรียวก็พลางยกขึ้นมาลูบที่หน้าอกข้างซ้ายเบา ๆ เพื่อเป็นการปลอบใจตัวเอง เธอไม่เคยคิดว่าจะมาทำงานที่สถานที่แห่งนี้มาก่อนเลยในชีวิต ทว่าตอนนี้ค่าใช้จ่ายของเธอมันเยอะท่วมหัวจนงานพาร์ตไทม์ที่ร้านกาแฟที่เธอทำอยู่ไม่สามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายของเธอได้ทั้งหมด ซึ่งมันส่งผลทำให้เพลงขวัญตัดสินใจที่จะมาทำงานที่บาร์สุดหรูแห่งนี้ และด้วยรูปร่างหน้าตาสะสวยและท่าทางมุ่งมั่นตั้งใจของเพลงขวัญ ทำให้เธอได้รับเลือกเข้ามาทำงานได้อย่างง่ายดาย
ตึกตึก
เมื่อทำสมาธิเรียบร้อยแล้วเพลงขวัญก็ตัดสินใจสาวเท้าออกมาจากห้องน้ำและฉีกยิ้มเดินเข้าด้านในตัวร้านของบาร์สุดหรู ดวงตากลมของเธอเหลือบมองไปที่หญิงสาวหน้าตาสะสวยที่มาปาร์ตี้และใช้ชีวิตกันอย่างหรูหรา
เพลงขวัญเองก็เคยมีชีวิตหรูหราแบบนั้นเหมือนกัน แต่ทว่ามันมีความกดดันบางอย่างที่บีบบังคับจนสุดท้ายเธอก็ทนไม่ไหวและยอมทิ้งชีวิตที่หรูหราพวกนั้น…ออกมาหาเลี้ยงชีพตัวเองตามลำพัง
ความกดดัน ความเก็บกดที่สะสมมาหลายปีถูกระเบิดในวันนั้น
ย้อนไปถึงวันที่เพลงขวัญตัดสินใจออกจากบ้าน บ้านที่เหมือนขุมนรก บ้านที่ดูดกินความสุขของเด็กหญิงที่กำลังจะเติบโตไปจนไม่เหลือร่องรอยความสดใส
ใครหลาย ๆ คนที่กำลังเบิกบานกับการได้เริ่มต้นใช้ชีวิตในช่วงมหาลัย กลับกันเพลงขวัญในตอนนั้นเธอถูกความกดดันและการบีบบังคับกัดกิน…จนสุดท้ายเธอก็ไม่เหลือร่องรอยของความสุขอีกต่อไป
“ตอนที่แกสอบเข้ามหาลัยแพทย์ไม่ติด ฉันก็อุตส่าห์แบกหน้าไปขอพวกผู้ใหญ่ให้แกได้เข้ามหาลัยแพทย์เฉพาะทางที่ดี เพื่อหวังว่าสุดท้ายแกจะได้เดินตามรอยฉัน…แต่สุดท้ายแกกลับยังไม่ตั้งใจเรียน เกเรเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน จนสุดท้ายผลการเรียนแกก็ย่ำแย่จนถึงขั้นถูกเชิญออก”
“เพลงก็ทำเต็มที่แล้วพ่อ แต่มันไม่ใช่สิ่งที่เพลงชอบสิ่งที่เพลงถนัดเลย”
“โกหก ถ้าเต็มที่แล้วผลมันต้องออกมาได้ดีมากกว่านี้สิ”
“แต่เพลงทำเต็มที่แล้วจริง ๆ นะพ่อ พ่อก็เห็นว่าเพลงตั้งใจอ่านหนังสือ ตั้งใจทบทวนบทเรียนขนาดไหน”
“ฉันไม่เชื่อ แกแอบฉันไปมีแฟนอีกแล้วใช่ไหมเพลงขวัญ…ฉันบอกแล้วไงว่าให้ไปเลิกกับไอ้ผู้ชายคนนั้นซะอย่าบอกนะว่าไปแอบคบกันอีกแล้ว”
“มันยังไม่ใช่วัยที่แกจะต้องไปหมกมุ่นกับเรื่องพวกนั้น เสียเวลาชีวิตเปล่า ๆ เพลงขวัญ สิ่งที่แกต้องสนใจในตอนนี้คือการตั้งใจเรียน” พอผู้เป็นพ่อเอ่ยถึงผู้ชายคนที่เธอรักและจำใจต้องบอกเลิกเขาไปในตอนนั้น เหมือนความโกรธมันตีขึ้นมาจนเธอรู้สึกเหมือนเลือดมันไหลเวียนไปทั่วตัว
“เพลงบอกแล้วไงว่าเพลงตั้งใจแล้ว เพลงตั้งใจแล้วแต่เพลงทำได้แค่นี้…พ่อจะให้เพลงทำยังไงวะ!”
“การที่เพลงไม่เก่งในด้านนี้มันหมายถึงทั้งชีวิตของเพลงมันจบเห่ไปแล้วหรือไง แม่ง! จะคาดหวังอะไรกับเพลงนักหนาวะในเมื่อนี่มันชีวิตของเพลงนะ”
เพียะ!
เสียงมือแกร่งของผู้เป็นพ่อถูกฟาดลงบนใบหน้าเรียวของเพลงขวัญอย่างจังด้วยความบันดาลโทษะ ทำเอาเพลงขวัญนิ่งอึ้งไปอย่างคาดไม่ถึงกับสิ่งที่ตัวเองโดนกระทำ
“การเป็นหมอของพ่อมันสำคัญกว่าความสุขของเพลงขนาดนั้นเลยเหรอ”
“พ่อบอกให้เพลงเรียนอะไรเพลงก็เรียนไม่เคยขัด แม้ว่ามันจะไม่ใช่สิ่งที่เพลงชอบก็ตาม เพลงอดทน อดหลับอดนอนอ่านหนังสือ เพลงพยายามคิดนะว่ามันเป็นสิ่งที่ดีมันคือสิ่งที่พ่อสนับสนุน ซึ่งเพลงเองก็พยายามทำเต็มที่แล้วจริง ๆ แต่การที่เพลงพยายามเต็มที่แล้วแต่ผลมันออกมาไม่ดี มันผิดขนาดนั้นเลยเหรอพ่อ”
“คนอื่นเขาก็เหนื่อยแบบนี้เหมือนกันนั่นแหละเพลง ไม่อดทนแล้วมันจะประสบความสำเร็จได้ยังไง”
“แต่เพลงบอกว่าเพลงทำเต็มที่แล้ว เพลงพยายามเต็มที่แล้ว เพลงอดทนเต็มที่แล้วจริง ๆ แต่เพลงทำได้แค่นี้พ่อจะให้เพลงทำยังไง…พ่อจะให้เพลงทำยังไงวะ!”
เพียะ!
“อ๊ะ!” เพลงขวัญหน้าหันไปตามแรงตบก่อนจะยกมือเรียวมากุมใบหน้าของตัวเองที่กำลังร้อนชาเพราะแรงตบจากฝ่ามือของผู้เป็นพ่อแท้ ๆ
“เป็นลูกมีสิทธิ์อะไรมาเถียงฉอด ๆ แบบนี้เพลงขวัญ ฉันไม่เคยสอนนิสัยต่ำ ๆ แบบนี้นะ”
“…” เพลงขวัญตวัดสายตามาก่อนจะจับจ้องไปที่ใบหน้าผู้เป็นพ่อ ที่เป็นถึงนายแพทย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังและตั้งความหวังอันยิ่งใหญ่ไว้ที่ตัวของลูกสาวเพียงคนเดียว
“เพลง…จะไม่ทนอีกต่อไปแล้ว เพลงจะไม่ฝืนทำอะไรที่เพลงไม่อยากทำอีกแล้ว เพลงจะไม่เรียนหมอ!”
“ถ้าไม่คิดจะเรียนหมอก็ไสหัวออกจากบ้านฉันไป เก่งนักก็ลองออกไปเจอโลกความเป็นจริงดู…แล้วแกจะรู้ว่าเส้นทางที่ฉันสร้างให้แกมันดีมากแค่ไหนแล้วเพลงขวัญ”
ตึกตึก
เพลงขวัญใช้สายตาราบเรียบของตัวเองจ้องหน้าผู้เป็นพ่อ ก่อนจะกลั้นน้ำตาที่มันกำลังเอ่อไหลออกมา สองเท้าเล็กสาวเท้าไปห้องนอนของตัวเองทันที
“ไปสิ…ฉันบอกให้แกออกไปไงเพลง เก่งมากก็ออกไปลองดูแล้วแกจะได้รู้เพลงขวัญว่าชีวิตจริง ๆ มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นหรอก!”
เสียงทุ้มต่ำของผู้เป็นพ่อตะโกนมาตามหลัง เพลงขวัญพยายามอดกลั้นอารมณ์ทุกอย่างไว้และภายในคืนนั้นเธอก็เก็บข้าวของเครื่องใช้ที่สำคัญของตัวเองและแอบออกมาจากบ้าน
และตั้งแต่คืนนั้นจนถึงวันนี้เป็นเวลาปีกว่าแล้วที่เพลงขวัญไม่เคยก้าวเท้ากลับไปที่บ้านของตัวเองอีกเลย มันจะเรียกว่าบ้านได้หรือเปล่านะเพราะเพลงขวัญไม่เคยได้รับไออุ่นจากคนเป็นพ่อเลยสักครั้ง
“เพลงขวัญ”
เสียงทุ้มของมานะผู้ช่วยผู้จัดการเอ่ยเรียกชื่อของเธอขึ้น ทำให้หญิงสาวที่เหมือนกำลังจมอยู่กับความคิดได้สติขึ้น
“คะ?”
“เพลงขวัญเป็นพนักงานใหม่ที่เริ่มงานวันนี้วันแรกใช่ไหม”
“อ๋อ…ใช่ค่ะ”
“พี่ชื่อมานะ พี่เป็นผู้ช่วยผู้จัดการ ซึ่งพี่ฟ้าพี่ผู้จัดการให้พี่มาสอนงานเรา” มานะเอ่ยพูดด้วยท่าทางใจดี ทำให้เพลงขวัญยกยิ้มขึ้นมาเบา ๆ ให้มานะ
“ตามพี่มา เดี๋ยวพี่แนะนำตรงโซนที่เราต้องทำงานวันนี้ให้…ตอนนี้เราจะได้ทำที่โซนธรรมดาไปก่อนนะ โซนวีไอพีหากเราทำงานดี ทำงานเร็ว…เดี๋ยวพี่จะพิจารณาการเลื่อนขั้นโซนที่เราได้ดูแลอีกที”
“ได้ค่ะ” เพลงขวัญผงกหัวสื่อว่าเธอเข้าใจในสิ่งที่พี่มานะกำลังบอกเธอ จากนั้นมานะก็เดินนำเพลงขวัญไปยังชั้นหนึ่งของร้าน
ซึ่งโรเซ่บาร์แห่งนี้เปิดบริการทั้งหมดสามชั้น โดยชั้นหนึ่งจะเป็นโซนของลูกค้าธรรมดาและวอร์คอิน ชั้นสองและชั้นสามเป็นโซนของลูกค้าวีไอพีและวีวีไอพีตามลำดับ
“เราคอยเทคแคร์ลูกค้าโซนนี้ รับออเดอร์ เสิร์ฟออเดอร์ตามปกติเลยนะ…ลูกค้าโซนนี้ไม่มีอะไรมากหรอก คุยง่าย”
“ค่ะพี่มานะ”
“อืม ถ้าเข้าใจแล้วเพลงขวัญก็สามารถเริ่มงานได้เลยแล้วถ้ามีปัญหาอะไรขึ้นไปแจ้งพี่ได้…พี่จะดูแลอยู่ชั้นสอง”
“ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” เรียวปากสวยของเพลงขวัญยิ้มตอบ ก่อนจะยกมือขึ้นมาไหว้มานะเป็นการขอบคุณ
“ไม่เป็นไร ๆ มันคือหน้าที่…ไหว้แบบนี้พี่ก็รู้สึกแก่เลย” มานะยิ้มตอบเพลงขวัญด้วยท่าทางใจดี เพราะเขาอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเธอ
“ค่ะ งั้นเพลงไปทำงานก่อนนะคะ ขอบคุณพี่มานะอีกครั้งนะคะ” เรียวปากสวยเอ่ยพร้อมกับยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนที่สุดท้ายเพลงขวัญจะสาวเท้าเดินไปทำหน้าที่ของตัวเอง