กับดักรัก 2 | จุดอ่อน…

1466 Words
KLIN BAR “ผับไอ้เต้เปิดใหม่พนักงานผู้หญิงแม่งแจ่มสัสๆ” เสียงของจอมทัพเอ่ยหลังจากสามหนุ่มก้าวเข้ามาภายในร้านของเพื่อนที่เพิ่งเปิดใหม่ สายตาเจ้าชู้ของจอมทัพมองสาวสวยด้านในอย่างโปรยเสน่ห์ สามหนุ่มเดินตรงไปยังโต๊ะโซนVIPที่จองเอาไว้ ครินทร์ทิ้งตัวลงนั่งด้วยสีหน้าที่บอกว่ากำลังไม่สบอารมณ์ จากเรื่องที่พ่อจะส่งตัวเขาไปฝรั่งเศสเพื่อดัดนิสัย วันนี้พวกเขามาดื่มผับเพื่อนที่เพิ่งเปิดใหม่ ซึ่งปกติแล้วจะดื่มกันที่ผับของครินทร์เป็นหลัก “พวกมึงมาทีทำร้านกูคึกคักกันทันที” เสียง ‘เต้’ เพื่อนในคณะสาขาเดียวกันเดินเข้ามาทักทาย ตั้งแต่พวกนี้โผล่มาสาวๆ ในผับรวมถึงพนักงานตาตั้งกันเลยทีเดียว “ทำดา พวกกูหล่อ” จอมทัพพูด ก่อนจะหันไปมองสาวสวยโต๊ะข้างๆ แล้วส่งยิ้มให้อย่างคนเจ้าชู้ สาวสวยคนนั้นก็ยิ้มกลับราวกับถูกใจอีกคนเช่นกัน “เป็นไงบ้างวะ ได้ข่าวว่าตำรวจโผล่มาก่อน” “ใส่เกียร์หมาหนีดิ รอไร” ตรีภพพูดแล้วยกน้ำสีเหลืองอำพันขึ้นดื่มแก้เซ็ง “แต่พวกนั้นโดนรวบ ส่วนไอ้นี่โดนส่งไปฝรั่งเศส” เต้หันไปมองครินทร์ที่เอาแต่นั่งเงียบ สีหน้าบ่งบอกอารมณ์ว่ากำลังรู้สึกอะไรอยู่ “แม่งหนักกว่าติดคุกอีกว่ะ” รอบก่อนครินทร์ก็โดนส่งไปฝรั่งเศส แต่ตอนนั้นเป็นช่วงปิดเทอมใหญ่อยู่นั่นยาวหลายเดือน มันเคยหนีกลับไทยก่อนกำหนด ผลที่ตามมาโดนพ่อสั่งปิดผับชั่วคราวจนกว่าพฤติกรรมจะดีขึ้น พอผับกลับมาเปิดตามปกติมันก็กลับมา ‘ซ่า’ เหมือนเดิม “พ่อมึงนี่โหดเอาเรื่องเนอะ” “คนเดียวที่เอามันลงได้ก็มีแต่พ่อมันนี่แหละ โหดฉิบหาย” จอมทัพหันไปมองครินทร์ที่ยังคงนั่งเงียบ ไม่ต้องสืบก็รู้ว่าครินทร์โหดได้ใคร “ไม่พูดไรกับเพื่อนหน่อยเหรอวะ” เสียงของเต้เอ่ย “กูไม่รู้จะพูดไร” แก้วน้ำสีเหลืองอำพันถูกยกกระดก สายตาคมเข้มมองออกไปนอกโซนVIPนิ่งๆ แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อสายตาปะทะเข้ากับใครบางคนที่กำลังเดินเข้ามา ปึก! เสียงแก้วที่กระแทกลงโต๊ะอย่างแรง ทำให้เพื่อนในกลุ่มหันไปมองเจ้าของการกระทำเมื่อครู่พร้อมกัน ยังไม่มีใครเอ่ยถามสายตาตรีภพก็เหลือบไปเห็น ‘เซนต์’ และเพื่อนเดินเข้ามา “ไอ้เหี้ยเซนต์” ฝั่งของเซนต์เมื่อเห็นครินทร์ก็มองกลับอย่างไม่ยอม สองฝั่งมองหน้ากันราวกับสัตว์ป่าที่กำลังหวงแหนอาณาเขต ครินทร์ขบกรามแน่นอย่างโกรธแค้นกับคนที่ทำให้เขาต้องถูกส่งไปฝรั่งเศส ต่างคนต่างอยากอัดหน้ากันแต่ต้องกดอารมณ์เหล่านั้นเอาไว้เพราะเหตุผลส่วนตัว “ผับกูเพิ่งเปิด กูขอ…อย่าพังร้านกู” เต้ปรามเพื่อน ก่อนจะเดินออกไปดูความเรียบร้อยของผับต่อ “แม่งโลกกลมฉิบหาย” ครินทร์สบถออกมาเบาๆ ก่อนจะยกเหล้าที่เหลือในแก้วกระดกพรวดเดียวจนหมด ถ้าไม่ติดว่าไม่อยากมีคดีเพิ่มป่านนี้เขาคงเดินไปยืนต่อหน้ามันแล้วอัดจนน่วมแล้ว เขาไม่อยากโดนส่งไปอยู่ฝรั่งเศสตลอดชีวิตเลยต้องยับยั้งชั่งใจไม่ให้ทำตามอำเภอใจ คิดแล้วก็น่าหงุดหงิดฉิบหายเลยว่ะ! “แปลกว่ะ ปกติมันจะไม่ยอมเดินหนีง่ายๆ” จอมทัพมองพวกเซนต์ที่เดินตรงไปยังโต๊ะโดยไม่คิดหาเรื่อง “สงสัยเพิ่งโดนประกันตัวออกมา คงยังไม่อยากมีเรื่อง” ตรีภพพูดขึ้น หลังจากยกเหล้าขึ้นดื่มหนึ่งอึก “ดีเหมือนกัน ไอ้ครินทร์ยิ่งโดนพ่อมันจับตาดูอยู่” “แต่กูว่ามันอยากอัดหน้าไอ้เซนต์อยู่นะ” จอมทัพเสสายไปมองเพื่อนสนิทที่นั่งจับแก้วเหล้าจนแทบบี้ให้แตกคามือ “กูจะไปสูบบุหรี่” ครินทร์ลุกพรวดขึิ้นแล้วเดินออกไปจากโต๊ะด้วยอารมณ์เดือนดาล หากแต่ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจาก ‘นิ่ง’ เมื่อมาถึงจุดสำหรับสูบุหรี่ มือหนาล้วงบุหรี่ออกมาหนึ่งมวนคาบไว้ในปาก ก่อนจะใช้ไฟแช็คลนปลายกระบอกจนควันคลุ้งกระจาย ดูดนิโคตินเข้าสู่ร่างกายหวังให้ช่วยบรรเทาอาการหงุดหงิด ริมฝีปากหนาพ่นควันสีเทาออกมา คิดว่าจะมาดื่มเหล้าให้หายเซ็งแต่ดันเซ็งหนักกว่าเดิมเมื่อเห็นคู่อริอยู่ที่นี่ แม่ง! “ขอโทษนะคะ” ครินทร์ชะงัก ก่อนจะปรายสายตามองเจ้าของน้ำเสียงเมื่อครู่นิ่งๆ สาวสวยคนนั้นยิ้มแย้มอย่างมีจริต แต่งตัวด้วยชุดเดรสรัดรูปโชว์สัดส่วนและนมตูมๆ แทบจะทะลักออกมาอยู่รอมร่อ “เรา…เคยรู้จักกันมาก่อนไหมคะ” ประโยคโหลของพวกสิ้นคิดที่เอาไว้เข้าหาผู้ชาย ครินทร์ไม่ได้ตอบกลับในทันที มือหนายกบุหรี่ในมือขึ้นแล้วดูดควันตรงปลายกระบอก ก่อนจะพ่นควันสีเทาออกมาอย่างใจเย็น ส่วนสาวสวยก็ยืนรอเพราะ ‘สนใจ’ ผู้ชายคนนี้ตั้งแต่แรกเจอ “ไม่คิดจะตอบอะไรกลับหน่อยเหรอคะ” เธอถามขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเห็นชายหนุ่มตรงสเปกเอาแต่เงียบ “ให้ตอบอะไร” คราวนี้ครินทร์ยอมขยับริมฝีปากตอบ หากแต่สายต่กลับไม่คิดแม้แต่จะปรายมองสาวนมตูม “เราคุ้ยหน้านายนะ ครินทร์…วิศวะปีสี่ใช่ไหม” “ก็รู้จักนิ” คำตอบของครินทร์ทำสาวสวยหน้าเสีย แต่กลับไม่คิดลดละความพยายามในการเข้าหาอีกฝ่าย “เราชื่อ…” “ไม่ได้อยากรู้จัก” “สมกับเป็นครินทร์จริงๆ นะ” ครินทร์เลื่องลือเรื่องนี้อยู่แล้ว หลายคนบอกว่าเขาเข้าหายาก ซึ่งพอได้ลองแล้วก็ค้นพบว่าเป็นความจริง แต่หล่อแถมยังตรงสเปก ต่อให้ยากแค่ไหนก็ยอม “เราชื่อปิ่นนะ เรียนนิเทศน์ปีสี่” “ไม่ได้ถาม” “รู้จักกันไว้ไม่ดีเหรอ ไหนๆ เราก็เรียนที่เดียวกัน อีกอย่าง…เรายังเป็นเพื่อนเต้ด้วย” เขาไม่ตอบและไม่ได้สนใจคำพูดของผู้หญิงคนนั้นที่พยายามเข้าหาจนดูน่ารำคาญ “เราเห็นนายไปกับเต้บ่อยๆ จะบอกให้นะว่านาย…ตรงสเปกเราเลยนะ” ปิ่น ไม่เพียงแค่พูดแต่ยังเลื่อนมือไปจับแขนแกร่งของครินทร์ สายตาช้อนขึ้นมองอย่างยั่วยวน แต่อีกคนแค่ปรายตามอง “ปิ่นชอบครินทร์” “ปล่อย” “อย่าใจร้ายนักสิ…” “ถ้าไม่อยากโดนกูต่อย ก็อย่ามายุ่ง” ปิ่นหน้าเหว๋อตามคำพูดของครินทร์ สายตามองตามเจ้าของแผ่นหลังกว้างที่เดินออกไปอย่างไม่สนใจตัวเอง ปิ่นทำฟึดฟัดด้วยความไม่พอใจ มีโอกาสเข้าหาแล้วแท้ๆ แต่อีกคนกลับผลักไสไม่ไยดี ครินทร์เดินกลับมายังโต๊ะหลังจากสูบบุหรี่เสร็จ สายตาคมเข้มมองจอมทัพที่มีสาวสวยมานั่งข้างๆ หากจำไม่ผิดเป็นผู้หญิงคนที่จอมทัพโปรยเสน่ห์ผ่านสายตาก่อนหน้านี้ “พวกกูมีอะไรเด็ดๆ มาเล่า” จอมทัพเป็นคนเปิดประเด็น หันไปมองตรีภพด้วยรอยยิ้มร้ายกาจ ก่อนจะปราจสายตาไปมองโต๊ะของเซนต์แล้วหันกลับมามองครินทร์ “เด็ดๆ ของมึงก็เห็นมีแต่เรื่องผู้หญิง” “ไอ้เวร” สาวสวยข้างกายจอมทัพหันขวับ “มันเป็นแบบนี้แหละ ชอบพูดไปเรื่อย อย่าไปฟังเลย” “แล้วอะไรเด็ดๆ ที่มึงว่า” ถึงอย่างนั้นเขาก็อยากรู้ว่าอะไรเด็ดๆ ที่จอมทัพพูดถึงคือเรื่องอะไร “ตอนกูไปเข้าห้องน้ำ กูได้ยินพวกนั้นคุยกัน” พวกนั้นที่จอมทัพหมายถึงคือพวกของเซนต์ “แล้ว?” “ไอ้เซนต์มีน้องสาว” “…” ครินทร์นิ่งเงียบ หลังจากได้ยินจอมทัพบอกแบบนั้น สายตาคมเข้มปรายมองไปยังเซนต์ที่นั่งดื่มกับเพื่อน และจังหวะมันเซนต์ก็เงยหน้าขึ้นมาสบตากับตนพอดี “มันบอกว่าที่ยอมอยู่เฉยๆ เพราะน้องสาวขอ” “…” “กูเพิ่งรู้ว่ามันก็มีน้องสาว” “…” ครินทร์ยังคงนิ่งเงียบราวกับกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างที่แม้แต่เพื่อนสนิทยังเดาไม่ออก “มึงคิดอะไรอยู่วะ” เสียงตรีภพเอ่ยถาม หลังจากเห็นเพื่อนเงียบลงไปนานสองนาน “เปล่า” “ถุ้ย! เชื่อก็บ้า” กองทัพพูด “คนเหี้ยๆ แบบมึงเหรอไม่มีเรื่องเลวๆ ในหัว” “ตอนนี้กูโดนพ่อจับตาดูอยู่ กลับจากฝรั่งเศสเมื่อไหร่…ค่อยว่ากัน” เขาพูดแล้วยกยิ้มร้ายกาจ ก่อนจะหันไปคว้าแก้วเหล้ามาดื่มอย่างอารมณ์ดี จุดอ่อนของมัน…คือน้องสาวสินะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD