บทนำ ความทรงจำสีจาง1/1

799 Words
ชายหนุ่มในชุดลำลองสวมเสื้อแจ็กเก็ตกึ่งสูทสีเบจจับคู่กันอย่างลงตัวกับกางเกงยีนส์สีดำ ซ่อนรูปร่างสมส่วนทั้งมัดกล้ามและซิกซ์แพกไว้ภายใต้ร่างกายที่สูงโปร่ง ใบหน้าหล่อเหลาสไตล์หนุ่มตี๋หน้าหวาน ดวงตาเรียวคมแคบแฝงแววเจ้าชู้ คิ้วยาวทรงสันดาบ ดูดิบๆ แต่มีเสน่ห์น่าดึงดูดใจให้สาวๆ เหลียวมองกันเป็นแถว โดยเฉพาะริมฝีปากได้รูปยามยิ้มคงกรุ้มกริ่มทำเอาใจละลาย ทำให้หลายคนอดจินตนาการไม่ได้ว่า ถ้าได้ ‘จูบ’ กับเขาจะรู้สึกดีให้ความรู้สึกวาบหวาบสักแค่ไหน? นเรนทร์ เตชะนรากูล เดินถือกล่องของขวัญใบเล็กตรงเข้ามาในงานแต่งเล็กๆ ที่เขาตั้งใจบินกลับจากเกาหลีมาร่วมงานนี้โดยเฉพาะ หลังพูดคุยวีดีโอคอลกับเจ้าสาวที่โทร. มาเชิญเขาด้วยตัวเอง “พี่เรน... นี่หม่อนเองนะคะ” “ว่าไงเรา มีอะไรรึเปล่าถึงได้โทร. หาพี่” เขาถามด้วยความแปลกใจ เพราะเป็นการโทร. ข้ามประเทศไม่ใช่ข้ามเขต ถ้าไม่มีเรื่องสำคัญณหทัยคงไม่รบกวนเขาแน่ เธอเป็นคนขี้เกรงใจ ยิ่งมีสามีขี้หวงอย่างไอ้หมาบ้าเพลิงครามด้วยแล้ว เธอมักจะเว้นระยะห่างกับเขาอยู่เสมอ “หม่อนคิดถึง เราไม่เจอกันนานสี่ปีแล้วนะ” แค่คำว่า ‘คิดถึง’ ก็ทำเอาหัวใจของเขาอ่อนไหว จนถึงตอนนี้เขาก็ชอบณหทัย ยังคงมีความรู้สึกดีๆ ให้รุ่นน้องสาวไม่เสื่อมคลาย แม้ว่าเธอจะปฏิเสธรักเขา ให้เพียงแค่ความเป็นพี่ชายก็ตาม “เรากลับมาเจอกันได้มั้ยคะ หม่อนอยากให้พี่มาเป็นเพื่อนเป็นพี่ชายอวยพรหม่อนในงานแต่งงาน” นเรนทร์หัวใจกระตุกวูบหนึ่ง กลืนน้ำลาย รู้ทั้งรู้ว่าต้องมีวันนี้ในสักวัน วันที่ณหทัยจะกลายเป็นของผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่เขาอย่างสมบูรณ์ วันที่เขาไม่สิทธิ์จะคิดถึงเธอในแบบคนแอบรักได้อีกต่อไป แต่ก็ยังอดใจหายไม่ได้อยู่ดี “จะแต่งเมื่อไหร่” เขาถามกลับไปราวกับคนที่หัวใจไม่อยู่กับตัว “เดือนหน้าค่ะ เป็นแค่งานเลี้ยงเล็กๆ ที่รวมญาติและคนสนิทกันเอง แก๊งเรามากันครบเลย จะขาดก็แค่พี่คนเดียว” ฟังจากที่ณหทัยอ้อนเขา คงอยากให้กลับไปร่วมงานแต่งของเธอในฐานะพี่ชายฝั่งเจ้าสาว “ให้พี่ไป ไม่กลัวพี่วางมวยกับไอ้หมาหวงก้างนั่นกลางงานเหรอ” ณหทัยหัวเราะคิกคัก “ไม่กลัวค่ะ เดี๋ยวหม่อนจับล่ามโซ่ ฉีดยาแก้พิษสุนัขบ้าให้ด้วยเลย รับรองปลอดภัยหายห่วง” ก่อนจะตบท้ายด้วย “พี่เรนมานะ น้าาา... หม่อนอยากให้พี่มาด้วยจริงๆ วันสำคัญที่มีแค่ครั้งเดียวในชีวิตของน้องทั้งที พี่จะไม่มาอวยพรหน่อยเหรอ” นเรนทร์ถอนหายใจเบาๆ ใจอ่อนยวบ ถ้าเป็นคำขอของณหทัย เขาไม่เคยปฏิเสธได้เลยสักครั้ง แม้ไม่รู้ว่าจะทนมองภาพบาดตาได้สักแค่ไหน แต่ถ้าเป็นความสุขของเธอ ถึงจะเจ็บเขาก็ยินดีทำเพื่อเธอโดยไม่เกี่ยงงอน “โอ. เค.” ดวงตาเรียวคมแคบไม่เหลือบแลใครเลยนอกจากเจ้าสาว แม้จะรู้ตัวว่ามีสาวสวยหลายคนเพียรส่งสายตาให้เขาเขาตั้งแต่ก้าวเข้ามาในคฤหาสน์วราเศรษฐ์แล้ว เขาเห็นเธออยู่ไม่ไกลจากจุดที่ยืนนัก ณหทัยในชุดแต่งงานแขนยาวคอปาดประดับคริสตัล ประดับขนนกทั้งปลายแขนและตัวกระโปรงสั้น ให้ความรู้สึกทั้งน่ารักบอบบางและน่าทะนุถนอม เธอยืนเกาะแขนเจ้าบ่าวพูดคุยหัวเราะกับเพื่อนๆ อย่างออกรส ดวงตาสุกสกาวคู่นั้นเปล่งประกายเต็มไปด้วยความสุข แวบหนึ่ง... ภาพสาวน้อยในชุดนักศึกษาปีหนึ่งคณะแพทย์ที่เขาลืมเลือนก็ผุดขึ้นมาในหัว ซ้อนทับกับภาพเจ้าสาวตรงหน้า ในหูแว่วๆ ได้ยินเสียงเพื่อนสาวของเธอเรียกขานว่า “พิงค์...” ชายหนุ่มในชุดนักศึกษาปีสามคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ที่อยู่ข้างๆ กับคณะแพทยศาสตร์ ยกกล้องในมือขึ้นมองหญิงสาวที่หันมายิ้มให้เพื่อนผ่านเลนส์ รอยยิ้มพิมพ์ใจของเธอแสนสวยอ่อนหวานจนเขาตกตะลึง ลมหายใจสะดุดห้วง หัวใจคล้ายจะหยุดเต้น ก่อนที่วินาทีถัดมาจะเต้นแรงโลดอย่างที่ไม่เคยเป็น เขาเหมือนต้องมนตร์ รู้ตัวอีกทีก็กดชัตเตอร์ไปแล้ว นเรนทร์กะพริบตาสองสามที ในม่านตาก็กลับมาฉายภาพณหทัยอีกครั้ง เขาพยักหน้านิดๆ เมื่อเธอโบกไม้โบกมือแล้วเร่งรีบเดินเข้ามาหาด้วยความดีใจ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD