ตอนที่6 ความลับ

1268 Words
เพียงไม่กี่นาทีต่อมา วาสิตาเดินหน้าซีดออกมาภายนอกที่มีนางมาลานั่งรอคอยเธออยู่ ทันทีที่เห็นวาสิตาเดินออกมานางรีบเดินเข้าไปช่วยพยุงเมื่อเห็นสีหน้าที่ซีดเผือกของหลานสาว ดวงตาที่แดงก่ำยังคงเผยให้เห็นได้ชัดเจน นางรู้ว่าหลานสาวคงเจ็บปวดและเสียใจกับสิ่งที่ได้ทำลงไปแล้ว "เจ็บมากหรือเปล่าวา นั่งพักสักหน่อยนะเดี๋ยวค่อยเรียกแท็กซี่กลับ" วาสิตาไม่พูดอะไรได้แต่พยักหน้ารับ เดินเคียงข้างไปกับคนเป็นป้านั่งพักที่ศูนย์อาหารซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย ถ้าไม่บอกว่านี่คือโรงพยาบาลเธอก็คงจะคิดว่าเป็นโรงแรมหรือไม่ก็ห้างสรรพสินค้าปกติดี ๆ นี่เอง "เขาให้ยามากินหรือเปล่า?" ถุงยาในมือที่มีชื่อของเธอแปะติดเอาไว้ถูกยื่นให้กับคนเป็นป้าได้เห็น "มียาแก้ปวดยาแก้อักเสบธรรมดาจ้ะป้ามา" "แกจะได้มีชีวิตใหม่ มีอนาคตที่สดใสอีกครั้งนะวา อย่าคิดมากกับเรื่องนี้ แกทำดีที่สุดแล้ว มีลูกอีกครั้งเมื่อพร้อมมันไม่ใช่เรื่องที่ผิดหรอก" "จ้ะป้ามา" วาสิตาพูดคุยกับคนเป็นป้าด้วยความหนักอึ้งอยู่เต็มอก ปล่อยให้นางมาลาเข้าใจไปแบบนี้ดีที่สุดแล้ว เรื่องของอนาคตค่อยมาหาทางแก้ปัญหาใหม่อีกครั้ง เพราะตอนนี้เธอรู้สึกเหนื่อยกับชีวิตเหลือเกิน จิตใจไม่เข้มแข็งพอที่จะทำเรื่องแบบนี้ได้ หนึ่งเดือนหลังจากนี้ถ้าหากว่าเธอตัดสินใจที่อยากจะทำอยู่ พยาบาลแนะนำว่าเธอยังสามารถกลับมายุติการตั้งครรภ์ได้อีกครั้งเมื่อพร้อม แต่เธอจะพร้อมหรือเปล่านี่สิ ทำใจกับสิ่งที่จะสูญเสียได้หรือเปล่ายังไม่อาจจะรู้ได้ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าตอนนี้ไปให้ได้ก่อน เรื่องของวันพรุ่งนี้ค่อยมาคิดหาทางออกให้กับชีวิตอีกครั้งก็แล้วกัน วาสิตายังคงซึมเศร้าและนอนพักอยู่ที่ห้องอีกหลายวัน ไม่ได้ออกไปช่วยงานนางมาลาข้างนอกเหมือนแต่ก่อน คนเป็นป้าเข้าอกเข้าใจและช่วยโกหกทุกคนในบ้านว่าหญิงสาวป่วยหนักลุกเดินไม่ไหว จึงต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่ห้องอีกสักสองสามวัน ซึ่งคุณชิดชนกและคุณเอกอนันต์เข้าอกเข้าใจและไม่ได้ถามไถ่อะไรไปมากกว่านั้นอีก แม้จะผ่านเหตุการณ์วันนั้นมาหลายวันแล้ว สำหรับวาสิตาก็ยังคงเป็นเรื่องสะเทือนใจที่ไม่ว่านึกถึงเมื่อไหร่ก็ชวนให้ร้องไห้ออกมาทุกครั้งเสมอ ฝ่ามือเรียววางทาบทับลงบนหน้าท้องที่แบนราบ ลูบไล้สัมผัสสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ที่กำลังก่อกำเนิดอยู่ภายในนี้ เสียงหัวใจเด็กที่เต้นแรงถี่ระรัว ทุกครั้งที่นึกถึงทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดที่หัวใจไม่ต่างกันเลย มันจะไม่มีทางออกที่ดีกับเรื่องนี้เลยน่ะเหรอ เธอจะต้องทำร้ายเด็กคนนี้จริง ๆ หรืออย่างไร? "เป็นยังไงบ้างวา รู้สึกดีขึ้นหรือยังวันนี้?" นางมาลาที่เพิ่งกลับมาจากทำงานบ้านบนเรือนใหญ่ ถามไถ่หลานสาวด้วยความเป็นห่วงเป็นใย เพราะตั้งแต่กลับมาวันนั้นวาสิตาก็เอาแต่นิ่งเงียบและไม่พูดจาด้วยเหมือนแต่ก่อนนี้เลย นางเข้าใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคงสะเทือนจิตใจของหลานสาวอยู่ไม่น้อย แถมเจ็บปวดจากอาการภายในที่นางเองก็ไม่รู้ว่าคนที่เขาคลอดลูกหรือต้องเอาเด็กออกเขารู้สึกกันอย่างไร ต้องเจ็บปวดทรมานมากมายสักแค่ไหน นางไม่สามารถจินตนาการได้เลยสักนิด คนโสดที่ไม่มีสามีและลูกมาก่อนอย่างนางคงไม่โอกาสได้สัมผัสกับความรู้สึกเหล่านี้ได้ "วาดีขึ้นแล้วจ้ะป้ามา" "คุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายถามหา ฉันต้องคอยโกหกให้แกมาหลายวันแล้ว พรุ่งนี้ทำงานไหวหรือเปล่า แกควรจะออกไปให้พวกท่านเห็นหน้าบ้างนะ" "พรุ่งนี้วาจะออกไปทำงานช่วยป้ามาจ้ะ" "แล้วนี่หมอนัดให้ไปหาอีกเมื่อไหร่หรือไม่ต้องไปแล้ว" "นัดไปตรวจอาการอีกวันพฤหัสบดีหน้า เดี๋ยววาไปคนเดียวได้ป้ามาไม่ต้องไปหรอกจ้ะ" "ก็ดีเหมือนกัน ฉันขี้เกียจจะตอบคำถามคุณผู้หญิง ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ฉันยังไม่เคยโกหกพวกท่านเลยนะ แกมาอยู่กับฉันนี่แหละฉันต้องโกหกบ่อยจนเหมือนคนแก่ที่ไม่มีความน่าเชื่อถือแล้ว" "วาขอโทษนะจ๊ะป้ามา วาจะไม่สร้างความเดือดร้อนให้ป้าอีกแน่ ๆ ขอบคุณป้ามาสำหรับทุกอย่างนะจ๊ะ ป้ามาวาว่าจะกลับไปเยี่ยมแม่ที่บ้านหลังจากที่ได้รับเงินเดือนเดือนนี้แล้ว" วาสิตาบอกความประสงค์ที่เธอนั่งคิดนอนคิดหาทางออกกับเรื่องราวในอนาคตอันใกล้นี้แล้ว วันพฤหัสบดีหน้าที่ต้องโกหกว่าไปหาหมอ เธอคงจะใช้โอกาสนี้หายตัวออกไปจากชีวิตของทุกคน เพื่อยุติกับปัญหาและความยุ่งยากที่จะไม่ต้องทำให้ทุกคนที่อยู่รายรอบต้องหนักอกหนักใจกับชีวิตของเธออีก ปล่อยให้นางมาลาเข้าใจว่าเธอสูญเสียลูกน้อยไปแล้วเป็นสิ่งที่ดีสำหรับอนาคตในวันข้างหน้า นางจะได้ไม่ต้องมานั่งกังวลใจกับชีวิตหลานสาวที่เหลวแหลกอย่างเช่นเธออีก จะไม่มีใครต้องรับรู้ว่าเด็กคนนี้จะยังมีชีวิตอยู่ยังไม่ได้ล้มหายตายจากอย่างที่เข้าใจ เธอจะไม่เรียกร้องให้พ่อของลูกต้องมารับผิดชอบอะไรในวันข้างหน้า จะไม่มีใครรับรู้ว่าลูกของเธอเป็นลูกที่เกิดมาจากความผิดพลาดและจะไม่มีใครรับรู้ว่าพ่อของลูกเธอชื่ออะไร จะมีเพียงแค่เธอเท่านั้นที่รู้ความจริงทุกอย่างอยู่เต็มอก ไม่ว่าวันข้างหน้าจะลำบากมากแค่ไหนสิ่งที่เธอเลือกจะไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องเสียใจไปตลอดชีวิต เพราะถ้าหากว่าแม่ของเธอสามารถเลี้ยงเธอมาได้จนเติบใหญ่ขนาดนี้ กับลูกในท้องของเธอเพียงคนเดียวเธอจะไม่มีปัญญาเลี้ยงดูให้เติบโตได้ เธอจะไม่มีปัญญาเป็นแม่ที่ดีของใครได้ขนาดนั้นเลยหรืออย่างไรกัน ถ้าชีวิตนี้ไม่ลองดูสักตั้งเธอก็คงจะไม่รู้ว่าอนาคตในวันข้างหน้า จะเข้มแข็งอยู่ได้เพื่อเห็นวันที่ลูกน้อยซึ่งเธอเองก็ไม่รู้ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เขาอาจจะเป็นอีกหนึ่งความสุข เป็นอีกหนึ่งความหวัง เป็นอีกหนึ่งกำลังใจ ที่จะทำให้ชีวิตของเธออยากมีชีวิตอยู่เพื่อใครสักคนก็ได้ แค่คิดถึงวันพรุ่งนี้ที่ยังมาไม่ถึงวาสิตาก็ต้องสะอื้นไห้ออกมาอย่างอดไม่ได้อีกครั้ง นางมาลาได้แต่ลูบหลังปลอบประโลมหลานสาวไปมาเบา ๆ นางไม่อยากซ้ำเติมกับชีวิตที่ยังอ่อนต่อโลกที่วาสิตายังคงมองว่ามันสวยงามไร้พิษภัย ทั้งที่โลกกว้างใบใหญ่มันไม่ได้สวยหรูและเต็มไปด้วยขวากหนามให้ต้องฟันฝ่ากับอุปสรรคที่จะเข้ามาทดสอบกับชีวิตในทุก ๆ วัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD