แค่เพื่อนร่วมเตียง...2 nc+++

643 Words
“อ่าส์.....” เสียงหวานครวญครางออกมาด้วยความสุขสม เธอมีความสุขเป็นอย่างมาก ในขณะที่ภาริชก็ไม่ต่างกัน เขาหลุดเสียงคำรามออกมาลั่นห้อง และความอุ่นร้อนที่เกิดขึ้นที่ส่วนล่างของเธอ ทำให้เธอรับรู้เป็นอย่างดีว่าเขาไปถึงปลายทางแห่งความสุขสมแล้ว ความสุขที่เธอต้องการมอบให้เขา เขาได้รับมันตามที่เธอต้องการแล้วสินะ ว่าแล้วร่างบางก็จัดการถอดถอนสะโพกมนของตนเองออกจากการครอบครองเจ้าความใหญ่โตของเขา และฝ่ายชายก็ยอมให้เธอถอดถอนมันออกอย่างง่ายดาย พร้อมกับรอยยิ้มที่มองไปที่หญิงสาว ซึ่งมันบ่งบอกความสุขสมเป็นอย่างมาก “เดี๋ยวนี้เก่งขึ้นเยอะเลยนะตะวัน” ชายหนุ่มเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม ส่วนลำแขนแกร่งก็โอบรัดร่างบางของเธอเอาไว้ ยังไม่ยอมปล่อยให้เธอไปไหน ทั้งที่ส่วนล่างของหญิงสาวเฉอะแฉะไปหมดแล้วเถอะ “แน่นอนอยู่แล้ว คนเรามันก็ต้องพัฒนาขึ้นสิ ไม่ใช่พัฒนาลง” ตามตะวันเอ่ยออกมาด้วยท่าทางโอ้อวด “โม้หรือเปล่าเนี่ย” ภาริชเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม “แล้วเมื่อกี้น่ะโม้หรือเปล่าล่ะ” ฝ่ายหญิงเอ่ยถามออกไปด้วยท่าทางยั่วๆ งานนี้เหมือนว่าจะเสียตัวอีกรอบยังไงอย่างงั้น ของเก่ายังแฉะอยู่เลย อย่าบอกนะว่าเขาต้องการอีกแล้ว เธอไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ “ไม่ได้โม้ อย่ามาหาเรื่องกินอีกเถอะ” ตามตะวันเอ่ยออกมาอย่างรู้ทัน ที่พูดอย่างนี้ แน่นอนว่าเขาต้องการอีก แต่คนที่ฟอร์มจัดอย่างเขาไม่มีทางที่จะเอ่ยออกมาตรงๆ ให้เธอได้ใจหรอก ก็ใช่สิเธอมันแค่เพื่อนร่วมเตียง เธอไม่ใช่คนในหัวใจ ที่เขาจะทำยังไงกับเธอก็ได้ “รู้ใจตลอดเถอะ” ชายหนุ่มตอบออกมา ในขณะที่มือของเขาไม่อยู่นิ่งเลยสักนิด มันเริ่มลูบไล้ที่เรือนร่างของหญิงสาวอย่างช้าๆ เพื่อที่จะปลุกเร้าความปรารถนาของเธอ ที่มันจบลงไปแล้ว ให้มันลุกขึ้นมาใหม่อีกครั้ง “แต่ก็ไม่เคยอยู่ในใจเลยสินะ” หญิงสาวแกล้งเอ่ยออกไปทีเล่นทีจริง “ไม่ได้อยู่ในใจแต่ก็ขาดไม่ได้นะ” ภาริชเอ่ยออกมาด้วยความเจ้าเล่ห์ เขารู้ดีว่าเธอต้องการอะไรจากเขา แต่เขาให้ไม่ได้จริงๆ ความรู้สึกที่เขามีต่อเธอ มันมีเพียงแค่ความต้องการเท่านั้น แต่ไม่ใช่ความรักอย่างที่เธอต้องการ “เหมือนพูดเพื่อเอาใจแหล่ะนะ แต่ก็ช่างเถอะ เพราะเราสองคนมันต้องการแค่ความสุขจากร่างกายของอีกฝ่ายนี่นา” แม้ว่าจะมีความน้อยใจอยู่บ้าง แต่ตามตะวันก็ต้องยอมรับความจริง แล้วก็ใช้เวลาที่อยู่กับเขาให้มีความสุขมากที่สุด แล้วจะได้ไม่ต้องเสียดายหากว่าวันข้างหน้าเธอทำไม่สำเร็จอย่างที่ใจต้องการ “อย่าน้อยใจสิ เรามาหาความสุขกันต่อดีกว่าอย่าพูดเรื่องเครียดๆ เลย” ฝ่ายชายรับรู้ทุกอย่าง แต่ทว่าเขาก็ให้เธอไม่ได้ เขาก็เลยเอ่ยออกมาเพื่อเปลี่ยนสถานการณ์ที่ตึงเครียดให้มันเริ่มดีขึ้น ส่วนฝ่ายหญิงที่กำลังปรับอารมณ์อยู่ เมื่อได้ยินดังนั้นก็ต้องจัดการกับตนเอง แล้วก็เดินหน้าต่อไปกับเขาให้ได้ “อย่าถือสาสิ่งที่เราพูดออกไปเมื่อกี้เลย มาหาความสุขกันดีกว่า” ตามตะวันเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มหวาน การละครของเธอเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง เธอต้องควบคุมความรู้สึกของตนเองให้มากกว่านี้ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะจบความสัมพันธ์กับเธอเมื่อใดก็ได้ หากว่าเธอข้ามเส้นไปหาเขาบ่อยๆ แบบนี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD