“พ่อ ไม่ต้องยุ่งเรื่องของผมได้ไหม?” ท่าทางของภูวดล แสดงความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด ไม่เพียงแต่น้ำเสียงฉุนเฉียวเท่านั้น แต่ทั้งสีหน้าและแววตาก็แสดงออกมาหมด
นิสัยเอาแต่ใจอย่างร้ายกาจของลูกชายคนนี้ แม้ไม่อยากจะยอมรับ แต่ภูมดิศักดิ์ก็รู้ตัวดีว่า นิสัยเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ได้มาจากเขาทั้งหมด รวมไปถึงนิสัยความเจ้าชู้ ชอบหว่านเสน่ห์ใส่ผู้หญิงนั่นด้วย
ชายร่างใหญ่ผู้เป็นนายท่านของบ้านหลังนี้จ้องมองหน้าลูกชายนิ่งงัน ดวงตาคมเข้มวาวโรจน์ด้วยความหงุดหงิดไม่ต่างจากคนเป็นลูกชาย เพียงแค่เขาเก็บอารมณ์ได้ดีกว่า
“ภู ฉันเป็นพ่อแกนะ ทำไมจะยุ่งไม่ได้” เขากล่าวด้วยเสียงเคร่งขรึม คล้ายว่าพยายามจะบีบบังคับให้เจ้าลูกชายตัวดียอมรับในการกระทำของตัวเอง
แต่ทว่าเปล่าประโยชน์ พอภูวดลได้ยินเหตุผลเดิม ๆ เพื่อใช้สำหรับการคาดคั้นจากผู้เป็นพ่อบังเกิดเกล้า ชายหนุ่มก็พลันถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย
สุดท้ายก็ตอบปัด ๆ ไปอย่างเสียไม่ได้เหมือนทุกครั้ง
“ผมก็แค่ให้เธอขึ้นไปจัดที่นอนให้ใหม่ก็แค่นั้น พ่อจะอะไรนักหนา”
แน่นอนว่าชายหนุ่มกระแทกเสียงตามประสาคนเจ้าอารมณ์ ไม่คิดว่าเรื่องที่ตัวเองทำมันจะมีปัญหาอะไร หรือต่อให้มี เขาก็เชื่อว่า ตนเองจะสามารถหาทางรับมือ และจัดการมันได้
ทางด้านภูมดิศักดิ์ยิ่งได้ฟังเหตุผลจากลูกชายคนเดียว เขายิ่งขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น
พูดตามตรงคือเขาไม่เชื่อในคำพูดของลูกชายคนนี้เลยสักนิด
จัดที่นอนให้ใหม่อย่างนั้นเหรอ? มันออกจะไม่สมเหตุสมผลเกินไปหรือเปล่า...
ภูวดลเป็นเสือผู้หญิงตัวพ่อ และมะนาวก็เป็นสาวสวย แถมยังเป็นเด็กรับใช้ในบ้าน
ผู้ชายที่ผ่านอะไรมามากอย่างเขา อีกทั้งยังเป็นพ่อแท้ ๆ ของเจ้าภูวดลคนนี้ มีหรือที่จะดูไม่ออกว่าตอนชายหนุ่มใกล้ชิดกับหญิงสาว มันจะกำลังคิดอะไรอยู่ นอกจากเรื่องอย่างว่า
ที่เหลือก็แค่เพียงว่า เขายังไม่สามารถจับได้แบบคาหนังคาเขาเท่านั้นเอง
“ปกติทุก ๆ เช้า แม่บ้านจะขึ้นไปจัดที่นอนให้ด้วยตัวเองตลอดไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมถึงยังต้องให้เธอขึ้นไปอีก ไม่สมเหตุสมผลเลยนะ เจ้าภู” คนเป็นพ่อเริ่มใช้คำพูดคาดคั้น
ทำเอาภูวดลถอนหายใจออกมาซ้ำสอง เพราะความรำคาญใจ
“คือ พอดีมะนาวทำน้ำหกใส่ ก็เลยให้ขึ้นไปเปลี่ยนให้ใหม่น่ะครับ พ่อเลิกถามสักทีเถอะ ผมหิวข้าวแล้ว ไปนะครับ” พูดประโยคนี้จบ ชายหนุ่มก็เดินหนีไปในทันที
โดยไม่สนใจเลยว่า คนเป็นพ่อจะอ้าปากเตรียมถามต่อหรือไม่
“ไปได้แล้ว มะนาว”
ร่างสูงของคุณชายคนเดียวของบ้านบอกหญิงสาวที่ยืนค้างอยู่บนบันไดเกือบขั้นสุดท้าย เขาจับข้อมือของมะนาวแล้วกึ่งลากกึ่งจูง เพื่อพาเดินเข้าไปถึงในครัว แล้วค่อยปล่อยมือเธอ
ภายในนั้น มีแม่บ้าน แม่ครัวอยู่จำนวนหนึ่ง และพวกเขาก็มองมาที่ชายหญิงทั้งสองด้วยความประหลาดใจ แต่ทว่าเพราะเป็นภูวดล คุณชายของบ้านหลังนี้ จึงไม่มีใครกล้าถาม
“ฉันหิวข้าวแล้ว เตรียมอาหารไปให้ด้วย” ชายหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงเอาแต่ใจ ก่อนจะเดินปลีกตัวออกจากห้องตัวไป ทิ้งให้มะนาวยืนอยู่ตรงนั้นแค่เพียงคนเดียว
และนั่นก็ทำให้ป้าวรรณรีบปรี่เข้ามาถามไถ่หลานสาวด้วยความเป็นห่วง
“มะนาว เกิดอะไรขึ้นเหรอลูก?”
หญิงสาวที่ชื่อมะนาวมองหน้าป้าแท้ ๆ ของตนเอง แล้วคลี่ยิ้มบางออกมา
แม้ว่าร่างกายของเธอจะบอบช้ำไป แต่เธอก็ไม่ได้นึกโกรธคนทำ
มิหนำซ้ำ เมื่อครู่เธอยังรู้สึกสุขสมอย่างมาก ทั้งในแง่ของร่างกายและความรู้สึกในใจของเธอ โดยเฉพาะความรู้สึกลึก ๆ ที่เธอมีต่อเขาคนนั้น มาตลอดระยะเวลาหลาย
เพราะฉะนั้น เธอจึงแสดงใบหน้ายิ้มแย้มออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ หนูแค่ไปจัดที่นอนให้คุณภูก็แค่นั้นเอง”
ป้าวรรณเห็นแบบนั้น ก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้าง “ถ้างั้น กินอะไรหน่อยไหมลูก หิวหรือยัง”
พอได้ยินคำถามของป้า ก็เหมือนว่าท้องของมะนาวจะร้องขึ้นมาทันที อาจเพราะเมื่อกี้นี้ เธอใช้พลังงานในการรับมือกับภูวดลจนแทบหมดแรง ขาแข้งสั่น จึงรีบพยักหน้ารับทันที
“หิวแล้วค่ะป้า วันนี้มีอะไรกินบ้างคะ?” เธอกล่าวด้วยเสียงสดใส
“อืม ก็มีหลายอย่างเลยลูก เดี๋ยวป้าไปตักให้นะ” ป้าวรรณพูดพลางผละออกจากร่างของมะนาว แล้วเดินย้อนกลับไปยังตู้กับข้าว เพื่อดูกับข้าวของแม่บ้านที่เหลืออยู่ และยังมีกับข้าวที่คุณท่านกับคุณนายรับประทานเหลือไว้เมื่อเช้านี้ ในครัวจึงมีแต่ของอร่อย ๆ หลายอย่าง
หลังจากป้าวรรณตักของที่คิดว่าหลานสาวน่าจะชอบใส่จานเรียบร้อยแล้ว ก็นำกลับมาให้เธอได้กิน ซึ่งแน่นอนว่ามันอร่อยมาก และทำให้เธอรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นกว่าตอนแรกด้วย
“กับข้าวนี้ ทำให้หนูคิดถึงสมัยเด็ก ๆ เลยค่ะ รสมือป้าไม่เปลี่ยนเลยจริง ๆ”
มะนาวกล่าวกับป้าวรรณ ซึ่งเป็นคนที่คอยอุ้มชูดูแลเธอมาตั้งแต่ยังเล็ก
พอเวลาบ่ายคล้อย จวบจนเข้าช่วงเย็น ทางด้านป้าแม่บ้านคนอื่น ๆ ก็พากันขอตัวกลับที่พัก จนกระทั่งหลงเหลือเพียงแค่ป้ากับหลานสาวสองคนที่ยังคงนั่งอยู่ภายในครัว
“เป็นยังไงบ้างลูก อิ่มหรือเปล่า” ป้าวรรณถาม เมื่อเห็นมะนาวกินข้าวหมดจาน
“อิ่มแล้วค่ะป้า อร่อยมาก ๆ เลย หนูอยากกินอีกเยอะ ๆ เลย แต่กินไม่ไหวแล้ว”
มะนาวไม่พูดเปล่า แถมยังยิ้มกว้างส่งให้กับป้า ก่อนจะรีบนำจานไปล้างให้เสร็จสรรพ พลันป้าวรรณก็ส่งเสียงบอกเธอที่กำลังเช็ดโต๊ะอาหารเก่า ๆ ของบรรดาแม่บ้านอยู่
“มะนาว เดี๋ยวเอ็งช่วยไปดูแลคุณภูที ไม่รู้ว่าทานข้าวเสร็จหรือยัง”
มะนาวชะงักไป แต่สุดท้ายก็พยักหน้า เพราะนอกจากเธอ ตอนนี้ก็ไม่มีใครอยู่แล้ว
“ได้จ้ะป้า” เธอรับปาก แล้วเดินออกจากห้องครัวไปยังโต๊ะอาหาร
ทันใดนั้นก็พบว่า ภูวดลเองก็เพิ่งจะทานอาหารเสร็จพอดี และกำลังดื่มน้ำ แต่เมื่อเขาเหลือบมาเห็นเธอกำลังยืนอยู่ใกล้ ๆ ก็วางแก้วน้ำลงข้างตัว แล้วกระดิกนิ้วเรียกเธอ
มะนาวเห็นท่าทางของเขา ก็เข้าใจได้ทันที จึงรีบรินน้ำเติมให้
โดยในระหว่างนั้น ท่าทางของทั้งสองคนก็เหมือนเจ้านายกับคนใช้ธรรมดา ไม่มีอะไรให้ดูน่าสงสัย แต่ทว่าในระหว่างที่เธอกำลังโน้มตัวอยู่นั้น ก็ได้เห็นสายตาวาบหวิวจากภูวดล
เป็นสายตาที่ได้พบเห็นกันเพียงแค่สองคน และมันก็ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรง
หลังจากชายหนุ่มลุกออกจากโต๊ะอาหาร เธอก็รีบเก็บกวาดจนสะอาดเอี่ยม ก่อนจะนำเครื่องใช้ทั้งจานชาม ช้อนส้อม มาล้างทำความสะอาดจนหมดจดแล้วเก็บเข้าที่เข้าทาง
ซึ่งพอทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวก็รีบเดินออกมาจากครัว เพื่อกลับห้องพักของตัวเอง ที่อยู่ด้านหลังคฤหาสน์หลังใหญ่อันเป็นบ้านของคุณภูวดล
เปรียบเสมือนเครื่องบ่งบอกฐานะ ว่าเธอต่างจากเขามากเพียงไร