“น้องชาจะรังเกียจไหม ถ้าพี่จะขอนอนด้วย...คน" ทอดเสียงนุ่มเอ่ยแทรกดังเข้ามาในความคิดทำให้หญิงสาวใจเต้นไม่เป็นส่ำ
“แคก แคก คะ!?...นอนด้วยเหรอคะ” สีหน้าเหรอหราตกใจ คิดไปไกลจนเขานึกขำด้วยความเอ็นดู
“ครับ...พี่กลัวแกตื่นมากลางดึกแล้วไม่เจอใคร” คำกล่าวอ้างของเขาทำเอาฌาร์ริญณ์ถึงกับอ้าปากค้าง พลางหรี่สายตามองหน้าชายหนุ่มตรงหน้าคล้ายกับลังเลและชั่งใจ ก่อนจะพรูลมหายใจออกมาเบาๆรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องไปชั่วขณะ
ลำพังสติสัมปชัญญะกับระบบความคิดของเธอก็ยังไม่เข้าที่เข้าทาง นี่เขายังจะมาสร้างความปั่นป่วนกับหัวใจของเธอในเวลาเช่นนี้อีก ทำไมเขาถึงได้เป็นคนฉวยโอกาสแบบนี้นะ
“แต่ห้องของคุณก็มีอยู่แล้วนี่คะ”
เธอกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกัน ถึงแม้จะเคยนอนด้วยกันครั้งหนึ่ง ก็ใช่ว่าเธอจะต้องยอมนอนร่วมห้องกับเขาง่ายๆ อีกอย่างเธอก็ยังเป็นสาวเป็นแส้ มันก็คงจะดูไม่เหมาะเท่าไหร่ แถมยังเป็นคอนโดของเขาอีก
...
คิดถึงตรงนี้ ใบหน้าสวยก็ร้อนวูบวาบ เห่อแดงขึ้นมาทันที
“น้องชาเป็นอะไรหรือเปล่า ร้อนเหรอครับ" เสียงทุ้มนุ่มคล้ายกับเป็นห่วง ทว่านัยน์ตากลับเปล่งประกายวิบวับ จนเธอประหม่า
“ปะ...เปล่าค่ะ”
“พี่แค่อยากให้หลานรู้สึกอบอุ่น แต่ถ้าน้องชารังเกียจ ก็ไม่เป็นไรครับ” คำพูดหว่านล้อมที่ทำให้เธอถึงกับคิดอะไรไม่ออก ไม่รู้ว่าจะต้องคิดหรือตอบอย่างไร ใจหนึ่งก็คิดอยากปฏิเสธ แต่อีกใจเธอก็เป็นห่วงหลานอย่างที่เขาบอก ช่วงนี้เป็นช่วงเปราะบางของวาวา ต้องการความรักและความอบอุ่นอย่างยิ่งกับความเปลี่ยนแปลงที่แม้แต่เด็กน้อยจะไร้เดียงสา แต่ก็อาจจะรับรู้ได้ และเริ่มรู้ความ คงจะคิดถึงพ่อและแม่อยู่ไม่น้อยเพราะไม่ได้เจอหน้าคนทั้งคู่มาหลายวัน
การที่พ่อและแม่หายไปแบบนี้ ก็คงเคว้งคว้าง หวาดกลัวและคิดถึงอยู่ไม่น้อย คงสงสัยว่าทำไมคนทั้งคู่หายไป
“ค่ะ ถ้าคุณจะนอน...กับหลานก็ได้ค่ะ ฉันไม่มีสิทธิ์อะไรไปห้ามคุณอยู่แล้ว”คิดใคร่ครวญดีแล้ว จึงเอ่ยตอบตกลง ไม่ใช่เพราะคำพูดของเขาเลยสักนิด
“ขอบคุณนะครับ”เมื่อได้ยินคำตอบริมฝีปากหนายกยิ้มบางๆอย่างพึงพอใจ สายตาจับจ้องบนดวงหน้าสวยหวานจิ้มลิ้มตรงหน้า
ฌาร์ริญณ์เผลอกัดริมฝีปากตัวเอง อดประหม่ากับสายตาของเขาไม่ได้
ไม่รู้ทำไม เธอถึงรู้สึกว่าอีกฝ่ายเหมือนมีเจตนาแอบแฝงอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งนัยน์ตาคู่นั้นของเขา ยิ่งทำให้หัวใจเธอเต้นไม่เป็นส่ำ
ฌาร์ริญณ์ ระบายลมหายใจดัง สบนัยน์ตาคู่นั้นที่กำลังเปล่งประกายวิบวับราวลูกบอลเล่นไฟ ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมีเจตนาแอบแฝงอย่างอื่นหรือไม่ เริ่มจะรู้สึกว่าตัวเองกำลังหลงกลเขาอย่างบอกไม่ถูก
“งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ วันนี้เหนื่อยทั้งวัน อยากไปอาบน้ำ” เธอทำท่าหมุนตัวจะไปเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าบ้วนปาก ในเมื่อไม่ได้เตรียมของใช้ส่วนตัวมา แค่ได้เอาน้ำลูบตัว ล้างหน้าบ้วนปากก็คงจะสบายตัวขึ้น ทว่า...
“ครับ งั้นชาขึ้นไปใช้ห้องน้ำในห้องนอนพี่ได้เลยนะ เสื้อผ้าพี่ น้องน้ำชาเลือกใช้ได้ตามสบายเลยนะครับ” คำพูดสบายๆเหมือนไม่คิดอะไร กลับทำให้เธอถึงกับชะงักขาที่กำลังก้าวเดิน
ในขณะที่ชายหนุ่มเจ้าของห้อง กลับแสร้งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดเลื่อนดูเสมือนไม่มีอะไร
ใบหน้าสวยเห่อร้อน ชำเลืองมองหน้าเขา เม้มปากเป็นเส้นตรง จนคนที่ถูกจ้องละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์ขึ้นมองหน้าหญิงสาว ทำสีหน้าคล้ายกับแปลกใจ ทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอก
“ทำไมครับ พี่พูดอะไรผิด” ทว่า เมื่อได้เห็นสีหน้าแดงก่ำ กอปรกับท่าทางของเธอ ก็อดนึกขำในใจไม่ได้ แสร้งถามออกไปว่า
“น้องชา แอบคิดอะไรอยู่หรือเปล่าครับ ทำไมหน้าแดงเชียว”
“งื้อเปล่านะคะ อย่าพูดมั่วๆสิ” ปฏิเสธเสียงสูงอย่างลืมตัว ใบหน้าสวยเห่อร้อนวูบวาบ ขาวสลับแดงก่อนจะเหลือบสายตามองค้อน นึกขึ้นได้แล้วว่าตกหลุมพรางคนเจ้าเล่ห์เข้าให้แล้ว
รีบหมุนตัวจะเดินไปเข้าห้องน้ำ แต่กลับเลี้ยวผิด ฝีเท้าชะงักกึกเมื่อได้ยินประโยคต่อมา
“ทางโน้นครับ” เขมกรยกยิ้มเล็กน้อย พร้อมกับชี้นิ้วไปยังทิศทางที่ถูก เอ่ยท้วงเสียงนุ่ม ทว่านัยน์ตากลับเปล่งประกายจนร่างเล็กที่เหลือบสายตามามองสบเข้า ยิ่งรู้สึกเหมือนกำลังถูกเขาปั่นหัวอยู่อย่างนั้นแหละ
“จำทางไปห้องพี่ได้ไหม หรือว่าต้องให้พี่พาไป”
“ไม่ต้องค่ะ ฉันไปเองได้!” ได้แต่เข่นเขี้ยวอยู่ในใจ กระแทกเสียงตอบ แล้วรีบสาวเท้าขึ้นชั้นบนไปทันที ในขณะที่ชายหนุ่มเจ้าของห้องถึงกับขำพรืดออกมาด้วยความชอบใจ
คอนโดของเขาเป็นห้องชุดขนาดใหญ่ แบ่งเป็นสองชั้นมีพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างมากพอสมควร ห้องนอนใหญ่สองห้องอยู่ติดกัน และห้องนอนสำหรับแขกอีกหนึ่งห้องอยู่ด้านล่าง ซึ่งเวลานี้ยกให้เป็นห้องของหนูวาวา
ฌาร์ริญณ์เปิดประตูห้องนอน หัวใจเต้นกระหน่ำ แรงเร็ว ทุกขณะที่ก้าวเดิน กับสายตากวาดมองไปรอบๆจนไปจบที่เตียงนอนหลังใหญ่ตั้งเด่นอยู่กลางห้อง
หล่อนพรูลมหายใจออกมาเบาๆ วูบวาบไปทั่วทั้งตัว ยังรู้สึกได้ถึงสัมผัสที่เขามอบให้ ความเร่าร้อนที่เกิดขึ้นในค่ำคืนนั้นไหลย้อนกลับมา เป็นฉากๆ ทุกคำพูดทุกท่าทาง เสียงกระซิบชิดริมหูยังแจ่มชัดราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำ
สายตากวาดมองรอบๆ ใจเต้นไม่เป็นส่ำ เมื่อได้กวาดสายมองทุกมุมของห้อง ไหนจะเตียงหลังนั้น หรือโซฟาตัวนี้ ระเบียงข้างนอกนั่น
โอ้ย! ทำไงดี อยากจะกัดลิ้นตาย!
ตลอดทั้งวันตั้งแต่เช้า จนถึงตอนนี้ ต้องรวบรวมสติมากขนาดไหน ต้องปั้นหน้าทำเหมือนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้นเป็นเรื่องปกติทั่วไป ไม่ได้พิเศษอะไรกับเธอเลยสักนิด ทว่า ความจริงแล้วไม่ใช่เลย
ครั้งแรกกับใครสักคนเพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบ และความอยากรู้อยากลอง แต่กลับผนึกอยู่ในความรู้สึกฝังแน่นจนตัวเธอเองก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ทุกสายตาที่เขาใช้มองเธอ จังหวะและน้ำเสียงที่เขาใช้พูด ยังอยู่ในความคิดของเธอตลอดเวลา จนถึงนาทีนี้
เฮ้อ!
มีแต่เธอที่หมกมุ่นคิดถึงเขาใช่ไหมเนี่ย! บ้าจริง แล้วเขายังให้เธอเข้ามาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องนี้อีก ตั้งใจจะแกล้งกันใช่ไหม
ยิ่งพอเดินเข้ามาในห้องน้ำ กลับยิ่งร้อนรุ่ม วูบวาบทั่วสรรพางค์
ทำไมวันนั้นต้องใช้พื้นที่เปลืองขนาดนี้ ใจคอจะไม่ให้เธอหายใจหายคอกันบ้างเลยหรือไง
ขณะนึกก่นด่าอยู่นั้น เสียงเคาะประตูห้องกลับดังขึ้น จนสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ
“คะ!?”