“ไอ้จิณณ์ น้องคนสวยเค้าอุตส่าห์นั่งด้วยมึงก็ชวนเค้าคุยหน่อยสิวะ เดี๋ยวเค้าก็คิดว่าพวกกูให้ไปนั่งกับพระอิฐพระปูนหรอก”
“มึงนี่เรื่องมากฉิบ ไอ้ซัน” จิณณ์บ่นเพื่อนรักเจ้าของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างอย่าง ซัน หรือ อาทิตย์ คนที่ส่งสาวเสิร์ฟแสนสวยให้มานั่งข้างเขา
“ไอ้ซันมันก็หวังดีไง เห็นว่ามึงเฮิร์ตหนักเลยอยากให้มึงรู้ว่าบนโลกนี้ไม่ได้มีผู้หญิงคนเดียว” กุล หรือ กุลวุฒิ เจ้าของธุรกิจค่ายมวยชื่อดังบอกยิ้มๆ ก่อนจะหันไปสบตากับอาทิตย์อย่างรู้กัน
“กูไม่ได้เฮิร์ต แค่คิดเรื่องที่ปู่บอกเมื่อตอนเย็นต่างหากล่ะ”
ทายาทธุรกิจจำหน่ายเบียร์และน้ำดื่มบริษัทยักษ์ใหญ่บอกอย่างหงุดหงิด ส่วนคนข้างๆ ก็ได้แต่นั่งฟังพวกเขาคุยไปเงียบๆ อย่างน้อยวันนี้งานของเธอก็ดูจะสบายกว่าทุกวันเพราะไม่ต้องเดินเสิร์ฟให้เหนื่อย
“ปู่มึงทำไมวะ” อาทิตย์ถามอย่างสนใจ
“ปู่บอกให้กูพาแฟนไปเจอพรุ่งนี้น่ะสิ”
“เวรล่ะ แต่มึงเพิ่งเลิกกับยัยหมอคนนั้นเมื่อเช้าไม่ใช่เหรอ”
“ยังไม่ได้เลิก แค่...ห่างกันสักพักเพราะระยะทางหรอก อีกปีนึงเค้าจะกลับมา” จิณณ์บอกอย่างเหนื่อยใจความจริงจะใช้คำว่าเลิกกันก็คงไม่ผิดนัก เพราะคำว่าห่างกันสักพักมันก็คือข้ออ้างของคนที่หมดใจ และเขาก็ไม่คิดจะรั้งคนแบบนั้นเอาไว้เหมือนกัน
“มึงก็บอกปู่ไปตามตรงสิ ยากตรงไหนวะ”
“ก็ยากตรงที่ปู่ไม่เชื่อไงว่ากูมีแฟนแล้ว ปู่บอกว่าถ้าพรุ่งนี้พาแฟนไปเจอไม่ได้ ท่านจะจับคู่ให้กูเองด้วย”
“งั้นมึงก็บอกให้ยัยหมอคนนั้นไปเจอปู่ก่อน”
“จะเจอยังไงวะ เค้าบินไปอเมริกาแล้วตั้งแต่เมื่อเช้าน่ะ”
“เออ ให้มันได้อย่างนี้สิ” กุลวุฒิถอนหายใจเฮือก
“งั้นมึงก็คงต้องยอมให้ปู่จับคู่แล้วว่ะ มันอาจจะไม่ได้แย่อย่างที่มึงคิดก็ได้นะ หลานสะใภ้ทั้งคนท่านก็คงคัดอยู่หรอก”
“กูรู้ว่าท่านคัดแน่ คัดมาให้กูเลือกเป็นสิบๆ คนเลยล่ะ แต่กูไม่ถูกใจใครเลยนี่แหละ น่าเซ็งเป็นบ้า ทำไมปู่คิดจะหาคู่ให้กูแทนที่จะเป็นพี่ชายกูวะ”
“พี่เจษฎ์น่ะเหรอ กูนึกว่าเค้ามีแฟนแล้วซะอีก เหมือนกูเคยเจอเค้าที่มัลดีฟครั้งนึง ตอนนั้นกูไปกับเด็กน่ะ แต่กูไม่ได้ทักหรอกกลัวเค้าเขิน”
อาทิตย์บอกอย่างอารมณ์ดี
“เด็กคนไหนของมึงล่ะไอ้ซัน มึงมีเด็กเป็นร้อย” กุลวุฒิแกล้งเย้า
“ไม่รู้ว่ะ กูก็จำไม่ได้เหมือนกัน เอาเรื่องพี่เจษฎ์ก่อนสิ อย่าเพิ่งมาสนใจเรื่องกู” อาทิตย์มองค้อนเพื่อนที่ชวนออกนอกประเด็นอยู่เรื่อย
“นั่นไม่ใช่แฟนพี่เจษฎ์ แต่ก็นะ...คิดไปคิดมาต่อให้ปู่หาแฟนให้เค้าจริง เค้าก็คงไม่สนใจหรอก”
จิณณ์นึกไปถึงพี่ชายกับผู้หญิงคนที่เพื่อนเจอแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ เพราะรู้ว่าความสัมพันธ์ของสองคนนั้นมันไม่ธรรมดาเลยสักนิด
“แล้วมึงจะเอาไงต่อ พรุ่งนี้แล้วนะที่ปู่มึงกำหนดเดดไลน์ไว้น่ะ”
อาทิตย์ถามต่อ
“ถ้ากูคิดออกจะมานั่งปวดหัวอยู่แบบนี้เหรอ”
จิณณ์ยกเหล้าราคาแพงขึ้นดื่มพรวดเดียวจนหมดแก้ว เห็นอย่างนั้นสาวเสิร์ฟก็รีบทำหน้าที่ของตัวเองด้วยการรินเหล้าลงในแก้วให้เขาอีกครั้งก่อนจะนั่งเงียบๆ ต่อไป พอเหล้าในแก้วเพื่อนของเขาหมดเธอก็คอยเติมให้เช่นกัน
“มิน่าล่ะ มึงถึงทำหน้าเหมือนแบกโลกไว้ทั้งใบ”
“เป็นพวกมึงจะทำยังไงล่ะ คราวนี้ปู่กูเอาจริงด้วย บอกว่ายังไงก็ต้องหาคู่ให้กูให้ได้”
“เฮ้อ...งั้นเอางี้” กุลวุฒิถอนหายใจก่อนจะทำหน้าจริงจัง
“เอาไงวะ” จิณณ์ถามอย่างสนใจ
“มึงก็จ้างใครสักคนไปเป็นแฟนปลอมๆ เอาไปหลอกปู่มึงก่อน ถือว่าแก้ปัญหาเฉพาะหน้า อย่างน้อยก็อาจจะรอดไปได้อีกสามสี่เดือน ถึงตอนนั้นแฟนมึงคงจะพอบินกลับมาได้อยู่มั้ง เค้าคงไม่ไปเป็นปีแล้วกลับมาทีเดียวหรอก”
“เข้าท่าดีนี่หว่า เอาแบบนี้แหละจิณณ์” อาทิตย์เห็นด้วยกับเพื่อน
“แล้วกูจะไปจ้างใครทันวะ นี่มันสี่ทุ่มกว่าแล้ว ปู่นัดกูสิบโมงเช้าพรุ่งนี้นะ” แม้จะมองว่าความคิดนี้พอใช้ได้ แต่เขาก็ยังไม่รู้ว่าจะไปจ้างใครดี
“เอ่อ...งั้นก็...คงไม่มีใครแล้วล่ะ นอกจาก...”
กุลวุฒิกับอาทิตย์หันมองหน้ากัน ก่อนจะชี้ไปที่ผู้หญิงหนึ่งเดียวในห้อง และนั่นก็ทำให้ดารภาถึงกับเหวอไปเลย
“เฮ้ย พวกมึงจะให้กูเอาจริงดิ”
จิณณ์หันมามองคนข้างๆ ที่ดูจะทำหน้าไม่ถูกนัก
“กูไม่ได้ให้มึงเอา แต่จะให้มึงจ้างน้องเค้าไปเป็นแฟนต่างหากล่ะ แต่ถ้ามึงจะเอาด้วยก็คงต้องไปคุยกับน้องเค้าเอง”
สองหนุ่มกลั้นยิ้มเพราะมั่นใจว่ารู้จักเพื่อนคนนี้ดี และสาวเสิร์ฟคนนี้ก็ดูจะตรงสเปคของจิณณ์ทุกอย่าง
“ไม่นะคะ หนูไม่ได้ขายตัว หนูแค่มาเป็นเด็กเสิร์ฟ”
ดารภารีบส่ายหน้าปฏิเสธทันทีเมื่อถูกสามหนุ่มหมายตาเอาไว้
“ใจเย็นน้อง พวกพี่ก็ไม่ได้จะให้น้องมาขายตัว แค่อยากจ้างน้องให้มาเป็นแฟนเพื่อนพี่แค่วันเดียว เอางี้ ไอ้จิณณ์มึงจะให้น้องเค้าเท่าไหร่สำหรับการจ้างเป็นแฟนหนึ่งวัน” กุลวุฒิรีบหันไปถามเพื่อนที่ดูจะลังเลใจไม่น้อย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่สนใจเสียทีเดียว
“เอ่อ...”
“เร็วสิมึง เงินถึงงานก็ถึงนะ จริงมั้ยน้อง” อาทิตย์รีบหันไปยิ้มให้สาวสวยที่ยังดูงงๆ อยู่เหมือนกัน
“คือ...หนู...”
ไอ้เงินน่ะเธอก็อยากได้อยู่หรอก แต่จะให้จ้างไปเป็นแฟนกับคนที่เพิ่งเจอกันไม่ถึงชั่วโมง มันก็ดูแปลกๆ ไปหน่อย