“มึงไม่ชอบ?” ปิ่นญาดาเลิกคิ้วถาม มุมปากยกยิ้ม “แต่พระเอกไทป์นี้กำลังฮอตเลยนะ นักอ่านหลงกันตรึม”
“หมายถึงตัวร้ายที่จับฉลากได้เป็นพระเอกอะนะ?” เอียงหน้าถาม ก่อนแสยะยิ้มพิมพ์ใจที่คนมองเห็นแว็บแรกก็รู้ได้ทันทีว่าเสแสร้ง สำหรับนารินรดาแล้วถ้าต้องเลือกระหว่างคุณหมอมาเฟียกับคานทองนิเวศน์ บอกเลยว่าคานทองก็ไม่ได้แย่ ส่วนนักอ่านก็คงหลงจริงๆนั่นแหละ หมายถึงหลงเข้ามาด่าอะนะ
ปิ่นญาดายกยิ้ม ส่ายหน้าให้กับคำพูดของเพื่อน ก่อนจะถามต่อด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ
“แล้วนางเอกล่ะมึงคิดว่าเป็นไง?” ที่นารินรดาพูดก็ไม่ผิด เพราะนายแพทย์วีรินทร์ที่เธอสร้างขึ้นมาก็คือตัวร้ายที่จับฉลากได้บทพระเอกจริงๆนั่นแหละ
“ดีสิ ดีมากๆเลยแหละ คงไม่มีใครโชคดีไปกว่านางเอกนิยายเรื่องนี้อีกแล้ว วันวันไม่ต้องทำอะไรเลยพระเอกจัดการให้หมด โคตรสบาย”
“พระเอกมาเฟียก็ต้องคู่กับนางเอกเรียบร้อยก็ถูกแล้วไง พระเอกร้ายกาจมีอำนาจล้นฟ้าขนาดนั้น นางเอกก็ต้องเรียบร้อยอ่อนหวานสิ... หรือมึงว่าไม่ใช่?”
“ก็คงงั้นมั้ง” ไม่อย่างนั้นนิยายคงไม่ฮอตฮิตเป็นกระแสโด่งดังมาแรงขึ้นฮอตเซิร์ชทุกแพลตฟอร์มแบบนี้หรอก ที่สำคัญคอมเมนต์เกินเก้าสิบเปอร์เซ็นต์อยากจะเป็นนกน้อยในกรงทองแบบหนูบัวบุษบากันทั้งนั้น จะมีก็แต่เธอนี่แหละที่ไม่เคยอยากเป็น ไม่แม้แต่จะคิด
นกน้อยในกรงทอง?
หลายคนก็คงอยากเป็นนกน้อยตัวนั้น อยากลองใช้ชีวิตในกรงทองหรูๆ
ส่วนเธอ...
บอกได้คำเดียวว่าเอือมระอาชีวิตแบบนั้นจะแย่ อิสรภาพและโลกอันกว้างใหญ่ไพศาลต่างหากคือสิ่งที่เธอต้องการ ไขว่คว้าอยากได้มันมาครอบครอง
และเธอก็กำลังจะได้มันมา
ปิ่นญาดาอมยิ้ม ดวงตาทอประกายบางอย่าง การเป็นเพื่อนกันมานานทำให้รู้นัยยะคำตอบได้ไม่ยาก ซึ่งคำตอบของไฮโซสาวสวยเพื่อนสนิทก็ไม่ได้ทำให้เธอแปลกใจ นอกจากจะไม่ปลื้มพระเอกแล้ว บทนางเอกก็คงขัดใจเพื่อนไฮโซของเธออยู่มากไม่น้อย
“แล้วถ้าเป็นมึงล่ะนะนาว ถ้าเป็นมึงมึงจะทำยังไง”
“หมายถึงอะไร?”
“ถ้ามึงเป็นนางเอกนิยายเรื่องนี้... มึงจะทำยังไง”
นารินรดาจำได้ว่าหลังจากที่แยกจากปิ่นญาดาเธอก็ตรงดิ่งกลับบ้านทันที ตั้งใจจะเดินไปคุยกับคุณปู่ที่เรือนปั้นหยาสักชั่วโมงรอให้แดดร่มลมเย็นกว่านี้อีกหน่อยค่อยกลับมาว่ายน้ำในช่วงเย็น แต่ทว่าพอกลับถึงบ้านเธอกับรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวแปลกๆเหมือนจะเป็นไข้ก็เลยเปลี่ยนใจไม่ไปที่เรือนปั้นหยาแต่เลือกที่จะขึ้นห้องไปพักผ่อนแทน ก่อนขึ้นห้องนอนยังเรียกให้พี่เลี้ยงที่ดูแลเธอมาตั้งแต่เด็กหายาแก้ปวดหัวพาราเซตามอลให้อยู่เลย
แต่ไฉนพอลืมตาตื่นขึ้นมาเธอถึงไม่ได้นอนอยู่ที่ห้องนอนตัวเอง กลับมานอนอยู่ในห้องนอนหรูหราราวกับอยู่ในเทพนิยายของใครก็ไม่รู้ ห้องนอนของเธอที่ว่าหรูหราชนิดที่เฟอร์นิเจอร์ในห้องสามารถซื้อบ้านเดี่ยวได้ทั้งหลังยังเทียบไม่ได้เลยกับความหรูหราโอ่อ่าของห้องนี้
ทว่าความงวยงงของเธอยังไม่หมดแค่นั้น...
บุคลากรในชุดเสื้อกาวน์สีขาวและชุดเครื่องแบบพยาบาลสีเดียวกันทำให้หญิงสาวรู้สึกงวยงงยิ่งกว่าเดิม
นารินรดาอยากจะพูดอะไรบางอย่างกับคนตรงหน้าแต่ทว่าอาการปวดหัวฉับพลันทำให้เธอต้องหลับตาลง กำหนดลมหายใจเข้าออกลึกๆ และพยายามคิดทบทวนว่ามันเกิดอะไรขึ้น ก่อนจะลืมตาขึ้นมาอีกครั้งให้กับคำถามที่ดังมาจากข้างเตียง
“ฟื้นแล้วเหรอคะ”
“ขะ... ขอน้ำฉันกินหน่อยได้มั้ย” นารินรดาพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง หลังจากที่เธอพูดจบพยาบาลที่ยืนอยู่ข้างเตียงก็รีบกุลีกุจอเข้ามาช่วยประคองให้เธอนั่งพิงหัวเตียง ช่วยถือแก้วน้ำให้เธอดูดดื่มจากหลอด และไม่ลืมที่จะบอกให้เธอค่อยๆดื่ม
“คุณนะนาวค่อยๆดื่มนะคะ ไม่ต้องรีบ”
นารินรดาทำตามคำแนะนำ ค่อยๆดูดน้ำจากหลอดช้าๆไม่ได้รีบร้อนเหมือนคราแรก เมื่อดื่มน้ำเสร็จจึงถามในเรื่องที่สงสัย
“คุณรู้จักชื่อฉันด้วยเหรอคะ?” อาการชุ่มคอจากการดื่มน้ำอุ่นทำให้น้ำเสียงของเธอดีขึ้นกว่าเดิมค่อนข้างมาก
“รู้จักสิคะ คุณคือคุณนะนาว นารินรดา”
นารินรดายิ้มน้อยๆให้กับคำตอบของพยาบาลสาวที่พูดชื่อเล่นและชื่อจริงเธอได้ถูกต้อง เธอเองก็พอจะรู้ว่าตัวเองค่อนข้างมีชื่อเสีย(ง)พอสมควร โดยเฉพาะข่าวก็อปซิปล่าสุดที่มีการแชร์คลิปวิดีโอที่เธอสาดไวน์ใส่หน้าลูกชายนักการเมืองคนดังที่เมาแล้วเลื้อนทำตัวรุ่มร่ามใส่เธอกับเพื่อนในผับดังย่านทองหล่อ
“...เป็นภรรยาของ ผอ.คีท”
คำพูดต่อมาของพยาบาลสาวทำให้นารินรดานิ่งงัน เกิดอาการงวยงงหนักยิ่งกว่าตอนที่ลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วไม่รู้ว่าตันเองอยู่ที่ไหน อาการของเธอตอนนี้ไม่ต่างอะไรจากคนที่ถูกค้อนปอนด์ขนาดใหญ่ทุบหัว ทั้งมึน ทั้งงวยงง ทั้งปวดหัว เริ่มรู้สึกว่าเหตุการณ์ชักจะไม่ชอบมาพากล
“ผอ.คีท?” เธอยังไม่แต่งงาน ตั้งแต่เลิกกับแฟนหนุ่มทายาทศูนย์การค้านามสกุลดังเมื่อสองปีก่อนเธอก็ยังไม่ได้คบใครใหม่ อีกอย่างเธอมั่นใจว่าไม่เคยรู้จักผู้ชายหรือว่าใคร
ที่ชื่อ... ผอ.คีท
“ดิฉันหมายถึงท่านผู้อำนวยการน่ะคะ นายแพทย์วีรินทร์ พวกเราติดเรียกท่านว่า ผอ.คีท”