ฉันอยากย้อนเวลาไปคืนนั้นจริง ๆ เลย ไม่น่าพลาดไปนอนกับอิตาบ้านี่เลยไม่งั้นหมอนี่คงไม่มาวุ่นวายกับฉันแบบนี้หรอก แถมยังซุ่มซ่ามไปลืมบัตรทิ้งไว้ที่ห้องหมอนั่นอีก เขาเลยมีข้ออ้างมาตามรังควานกันแบบนี้
“ว่าไง จะยอมหรือยัง”
“นายต้องการอะไรกับฉันกันแน่ นายเป็นใคร ชื่ออะไร ฉันยังไม่รู้จักเลยด้วยซ้ำ”
ฉันถามออกไปอีกครั้ง ไม่เข้าใจหมอนี่จริง ๆ ว่ามาวุ่นวายกับฉันทำไม
“งั้นเหรอ อืมมม เดี๋ยวแนะนำตัวเลยแล้วกัน ฉันชื่อเทวา ยินดีที่ได้รู้จัก แค่นี้ก็พอแล้วมั้ง”
“นายนี่มัน...กวนประสาทชะมัด”
“เลิกคิดเล็กคิดน้อยได้แล้ว ฉันอุตส่าห์มารับนะ”
“ฉันไม่ได้ขอร้องซะหน่อย”
“แล้วไง จะปฏิเสธจริงเหรอแน่ใจนะ”
เขาพูดพร้อมแกว่งมือถือไปมา เออ ยอมก็ได้ว่ะแค่เดตคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง....
“ก็ได้ แค่เดตนะ ระหว่างเราจะไม่มีอะไรเกินเลยกันตกลงไหม”
“เยี่ยม งั้นไปกัน หิวจะแย่”
เขาพูดเสร็จก็ถึงวิสาสะลากฉันไปขึ้นรถเลย ให้ตาย เอาแต่ใจชะมัด
“เดี๋ยวสิ นายยังไม่รับปากฉันเลยนะ นี่นาย”
เขาจับฉันยัดใส่รถโดยไม่ฟังเสียงร้องของฉันเลย ก่อนที่เขาจะเดินอ้อมไปฝั่งคนขับแล้วขับรถออกไปด้วยความเร็ว
รถแมคลาเรนสีดำพุ่งทะยานไปบนท้องถนน มุ่งสู่ภัตตาคารสุดหรูที่เขาให้คนเตรียมไว้เพื่อดินเนอร์กับหญิงสาวข้างกาย ฉันลงจากรถมายืนมองภัตตาคารก่อนจะถอนหายใจเสียงดังออกมา
“เฮ้ออ”
“เธอไม่ชอบเหรอ”
หมอนี่โง่หรือซื่อกันแน่นะ เขาไม่รู้จริง ๆ หรือไงกัน
“นายช่วยดูชุดฉันกับสถานที่หน่อยได้ไหม”
เขาลากฉันมาดินเนอร์สุดหรูในสภาพที่ฉันยังอยู่ในชุดนักศึกษาอยู่เลย
“ฮ่า ๆ ฉันลืมนึกไปโทษที ๆ ”
“ยังจะมาหัวเราะได้อีกนะ”
“เอาน่า ยังไงก็สวยอยู่แล้ว เข้าไปเถอะ ฉันหิว”
ฉันทำหน้ามุ่ยแล้วปล่อยให้เขาลากเข้าไปในร้านอาหาร
อยากทำไรก็เชิญเถอะ เหนื่อยจะขัดขืนแล้ว
“อาหารที่นี่อร่อยมากเลยนะ”
เขาพูดหลังพาฉันมานั่งที่โต๊ะริมหน้าต่างที่มองเห็นวิวแม่น้ำยามเย็น แสงอาทิตย์กระทบกับผิวน้ำจนดูสวยกว่าปกติไม่น่าเชื่อว่าในตัวเมืองยังจะได้เห็นบรรยากาศแบบนี้ได้อีก
“นายเคยมากินหรือไง ถึงกล้าบอกว่าอร่อย”
“แน่นอน ก็นี่มันร้านในเครือบ้านฉัน”
“แค่ก ๆ ”
ฉันสำลักน้ำที่กำลังยกดื่มก่อนจะวางแก้วแล้วมองหน้าคนที่นั่งยิ้มแป้นอยู่ เขาเป็นใครกันถึงได้มีภัตตาคารหรูแบบนี้ได้
“นายเป็นใครกันแน่ ภัตตาคารนี้ราคาไม่ใช่น้อย ๆ เลยนะ”
“ยังไม่ได้แนะนำตัวเต็ม ๆ เลยนี่น่า ฉันชื่อ เทวา อัครไพศาลวงศ์เป็นทายาทคนเล็กน่ะ”
‘เคล้งงงง’
ฉันปล่อยช้อนที่กำลังจะตักอาหารทันที ใบหน้าฉันซีดเผือดลงเล็กน้อย อัครไพศาลวงศ์? แบล็คดรากอน?
“เป็นอะไรไป?”
“ปะ เปล่า แค่ตกใจว่าคนระดับนายมายุ่งกับฉันทำไม”
ฉันพยายามเก็บอาการไว้ก่อนจะแสร้งเปลี่ยนเรื่อง
“ฉันก็แค่คนธรรมดาทั่วไป ไม่เห็นจะวิเศษตรงไหน”
“คงงั้น”
“หึ ฉันก็แค่สนใจเธอ แค่นั้น”
“ฉัน? มีอะไรน่าสนกัน....”
“อยากรู้จริง ๆ เหรอ”
น้ำเสียงเขาติดจะเจ้าเล่ห์ จนฉันอดหวั่นใจไม่ได้อย่าพูดถึงคืนนั้นนะ ขอล่ะ!
“มะ ไม่อยาก นายเองก็กินบ้างสิไหนบอกว่าหิวไง”
“เธอเปลี่ยนเรื่องเก่งนะ”
เขาบอกก่อนจะก้มลงกินอาหาร หลังจากนั้นฉันก็จมอยู่กับความคิดจนไม่ทันได้ฟังว่าเขาพูดอะไรบ้าง นี่มันแย่มาก ฉันไม่ควรมารู้จักกับเขาเลย ไม่ควรเด็ดขาด
ฉันไม่อยากเกี่ยวข้องกับเขา! ถ้าคนคนนั้นรู้เข้าล่ะก็.....
»»»»««««
มื้อค่ำผ่านไปอย่างเรียบง่ายก่อนที่เทวาจะอาสาไปส่งดาวที่คอนโด แม้จะอยากปฏิเสธแค่ไหนแต่อีกฝ่ายก็คงไม่ยอมแน่ ๆ
“ส่งแค่นี้ก็พอค่ะ”
เธอบอกเขาเมื่อรถมาถึงที่หน้าคอนโด
“ให้ขึ้นไปส่งไหม
“ไม่ต้องค่ะ ไม่อยากรบกวน นายกลับไปเถอะ”
ดาวรีบปฏิเสธและไล่เขากลับทันทีเธอเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว อยากพัก
“โอเค เดี๋ยวพรุ่งนี้หลังเลิกเรียน ฉันไปรับแล้วกัน”
“ทำไมล่ะ เราตกลงแค่วันนี้ไม่ใช่เหรอ”
“ฉันจำได้ว่า 1 เดือนนะ ไม่ใช่ 1 วัน”
“!!!”
ที่เธอยอมไปกับเขาวันนี้เพราะคิดว่าคงจะแค่วันเดียว ไม่คิดว่าเขาจะอยากเดตกับเธอ 1 เดือนจริง ๆ ....
“นายพูดจริงเหรอ”
“ฉันไม่เคยผิดคำพูดตัวเอง”
“นายชอบฉันหรือไง”
“นั่นสิ ถ้าอยากรู้ไว้จะบอกนะ”
พูดเสร็จเขาก็ไล่เธอลงจากรถ ก่อนจะขับออกไปด้วยความเร็วสูงทิ้งให้ดาวยืนนิ่งงันอยู่แบบนั้น
เรื่องมันชักจะยุ่งยากแล้วสิ ดาวคิด
ร่างสูงเคาะพวงมาลัยอย่างอารมณ์ดี ไม่ได้เจอใครที่ทำให้เขาอยากเข้าใกล้ขนาดนี้มานานมากแล้วตั้งแต่เลิกกับแฟนเก่าไป
เธอมีแรงดึงดูดบางอย่างที่เขาเองก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร มันทำให้เขาอยากเข้าใกล้เธอ อยากอยู่ใกล้ ๆ และอยากครอบครอง
จริง ๆ เทวาไม่ได้เป็นเพลย์บอยตั้งแต่แรก ครั้งหนึ่งเขาเป็นแค่เด็กหนุ่มที่มีความรักเหมือนคนทั่วไปตอนนั้นเขายังไม่ได้ร่ำรวยขนาดนี้
พอฝ่ายหญิงรู้เข้า เธอก็ทิ้งเขาอย่างไม่ไยดีและนั่นมันทำให้เขาเปลี่ยนไปเป็นคนล่ะคนเรื่องนี้คนที่รู้มีแค่พี่ชายเขาเท่านั้น
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเขาก็ไม่เคยเปิดใจให้ใครอีกเลย เขาปิดตายหัวใจตัวเองและทำตัวเป็นเสือผู้หญิง
ยิ่งพอเขาเริ่มมีหน้ามีตาผู้หญิงมากหน้าหลายตาก็เริ่มเข้าหาจนเขาเริ่มเบื่อหน่ายรวมทั้งคนที่เคยทิ้งเขาไปด้วย
ครืด ครืด
เทวาเหลือบมองดูสายที่โทรมาก่อนจะกดรับสายผ่านพวงมาลัย
“ครับพ่อ”
(กลับมาบ้าน)
“ได้ครับ”
เทวารับคำก่อนจะกลับรถมุ่งตรงไปที่บ้าน ต้องมีเรื่องอะไรแน่ ๆ พอถึงได้สั่งให้กลับบ้านด่วนแบบนี้
ไม่นานเขาก็มาถึง ลูกน้องของพ่อที่รออยู่เดินนำเขาไปที่ห้องทำงาน ในห้องมีพ่อกับพี่ชายเขานั่งอยู่
“มาแล้วเหรอไอ้เสือ”
“สวัสดีครับพ่อ”
“นั่งสิ เรามีเรื่องต้องคุยกัน”
“ครับ”
แล้วเขาก็ได้รู้ว่าพ่อเรียกเขามาทำไม มันสืบเนื่องมาจากที่ทิชาโดนทำร้าย ตอนนี้พวกเขารู้แล้วว่าใครเป็นคนทำพวกเขาจึงวางแผนจะไปถล่มรังมันในวันพรุ่งนี้
“แม่จะไม่ฆ่าเราก่อนใช่ไหมพ่อ”
เทวาตัดสินใจถามขึ้นเมื่อรู้แผนทั้งหมด ถ้าแม่รู้เรื่องนี้เราตายกันหมดแน่
“อย่าให้รู้สิ ไปพักกันได้แล้ว พรุ่งนี้ยังมีเรื่องต้องทำ”
พูดง่ายทำยาก แม่เขาหูตาไวยิ่งกว่าอะไรดี
“ครับพ่อ”
สองพี่น้องพยักหน้ารับก่อนจะแยกย้ายกันไปพักผ่อน
“เทวา ไปดื่มกันหน่อยไหม”
ทิวเทพเอ่ยชวนเข้าเมื่ออกมาจากห้องทำงาน ดูท่าคงมีเรื่องที่อยากพูดแล้วไม่อยากให้พ่อรู้สินะ
“ได้ดิพี่”
ทั้งคู่เดินตรงไปที่บาร์เครื่องดื่มก่อนที่เทวาจะหยิบเหล้าตัวโปรดของเขาและพี่ชายออกมา
เทวารินบรั่นดีให้พี่ชายก่อนจะรินวิสกี้ให้ตัวเองแล้วนั่งลงข้าง ๆ กัน
“มีอะไรอยากบอกหรือเปล่า”
เทวาถามขึ้นหลังนั่งดื่มเงียบ ๆ มาสักพัก
“ไวท์โรสมีเอี่ยวกับเรื่องนี้”
“หมายความว่าไง?”
“มันจัดฉากให้คนพวกนี้มาเล่นงานเรา ต้องการให้เราตีกับตำรวจ”
ทิวเทพเล่าข้อมูลทุกอย่างที่รู้ให้เทวาฟัง
“มันเริ่มแล้วสินะ”
มือหนาคลึงน้ำสีอำพันในมืออย่างใช้ความคิดก่อนจะยกดื่มจนหมด
“ใช่ หลังจากนี้ไม่จบง่าย ๆ แน่”
“นั่นสิ เมื่อไหร่จะจบ ผมเบื่อจะแย่แล้วนะ”
ปัญหานี้คาราคาซังมานานมากแล้วแม้จะหาสันติวิธีมาคุยก็มักจะจบที่นองเลือดทุกรอบไป
ทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไรอีก ต่างฝ่ายต่างนั่งดื่มเงียบ ๆ ก่อนจะแยกย้ายไปพักผ่อน ก่อนที่วันรุ่งขึ้นพวกเขาจะเดินหน้าตามแผนที่วางไว้
ในเมื่อเลี่ยงไม่ได้ ก็มีแต่จะต้องปะทะเท่านั้น
««««»»»»
วันรุ่งขึ้น
ดาวไปเรียนตามปกติ น่าแปลกที่ทั้งวันไอ้คนน่ารำคาญนั่นไม่มาตามตอแยเธออย่างที่คิดไว้ แม้แต่เวลาเลิกเรียนที่เขาบอกว่าจะมารับเทวาก็ไม่ได้โผล่มา
แม้จะแปลกใจเล็กน้อยแต่เธอก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เขาอาจจะอยากแหย่เธอเล่น ๆ ก็ได้ใครจะไปรู้ คนระดับเขาแค่กระดิกนิ้วเรียกก็มีสาว ๆ มากมายต่อแถวพลีกายให้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องมาตามตื้อเธอเลยด้วยซ้ำ
เธอเลิกเรียนและตรงดิ่งกลับห้องตามปกติในตอนที่อาบน้ำเตรียมเข้านอนก็มีคนมาเคาะที่หน้าห้อง ดาวเดินไปเปิดประตูอย่างสงสัย
ใครกันที่มาหาเธอเวลานี้
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“มาแล้วค่ะ ๆ ”
‘แกร๊ก’
“นาย ไปทำอะไรมา!”
ดาวร้องออกมาอย่างตกใจที่เห็นสภาพเขา
“ไง โทษทีนะ ไมได้ไปรับเลย พอดีติดธุระนิดหน่อย”
เทวาที่อยู่ในสภาพยับเยินไปทั้งตัว เสื้อผ้าขาดบางจุด แถมตามใบหน้ายังมีรอยฟกช้ำหลายรอย เอ่ยขอโทษด้วยสีหน้ายิ้ม ๆ
“เข้ามาก่อนเถอะ เดี๋ยวทำแผลให้”
ดาวถอนหายใจก่อนจะเปิดประตูให้กว้างขึ้นเพื่อให้เขาเข้าไป