ใบหน้าของเลขาสาวทำเอือมก่อนจะถอนหายใจเฮือกยาว
ทั้งคู่นัดหมายบอดีการ์ดให้มารับแถวสถานที่จอดรออยู่ ดีที่สามล้อพ่วงคันนี้เป็นของบริษัท จึงให้คนงานกลับมาเอาไปไว้ในที่เดิม
บนรถ
"นี่ทำเฟอร์นิเจอร์หรือค้าย***าคะ" กิ่งสบถ "นึกว่าฉากบู๊ในหนังมาเฟีย!!"
"อย่าลืมว่าเราหนุนหลังพรรคการเมืองใหญ่ ย่อมมีศัตรูรอบด้านเป็นธรรมดา"
"เอาล่ะ ต่อไปกิ่งจะ.."
"ระวังตัว"
"เปล่าค่ะคิดเงินเพิ่มค่าเสี่ยงชีวิตด้วย"
ใบหน้าหล่อเหลาทำนิ่งแต่แอบอมยิ้ม
ตอนสัมภาษณ์งานครั้งแรกกิ่งแก้วไม่ผ่านกฎระเบียบของบริษัท แต่สุดท้ายทินกรก็ต่อสายตรงเพื่อเรียกเธอเข้ามาทำงาน
"รู้ไหมว่าทำไมฉันถึงรับเธอเป็นเลขา" ทินกรเอ่ยถาม "ไหนลองตอบมาสิ"
"เพราะกิ่งตายยากมั้งคะ! นอกจากความสวยก็มีระเบียบมีวินัย เหตุผลข้อนี้จึงสำคัญ"
"เพราะเธอโสดต่างหาก คนที่มาสมัครในวันนั้น..มีแต่แม่หม้าย บ้างก็เพิ่งแต่งงาน หรือบางคนก็เลี้ยงลูก ฉันไม่ชอบพันธะสัมพันธ์"
"ไม่ต้องเน้นย้ำคำว่าโสดก็ได้ค่ะ ที่กิ่งยังโสดจนถึงทุกวันนี้เพราะท่านประธานไม่ยอมให้กิ่งได้พัก เสาร์อาทิตย์จะไปตีกอล์ฟ วันหยุดไปนั่งเรือยอร์ช วันฝนตกไม่อยากเปียกตอนเดินเข้าคอนโดก็โทรเรียกให้กิ่งนำร่มไปให้"
ตัวเล็กเผลอบ่นจัดเต็มก่อนจะชะงักไป ท่านประธานจึงถามสงสัย
"ฉันจ่ายเงินเดือนเธอไม่คุ้มค่าเหนื่อยหรือไง"
"ถามว่าคุ้มไหมเดือนละห้าหมื่นก็คุ้ม แต่ท่านประธานควรให้วันลาวันหยุดกิ่งบ้างก็ได้ กิ่งไม่ได้เห็นแก่เงินขนาดนั้น"
"เสาร์นี้มีนัดประชุมที่รีสอร์ตถ้าเธอไปด้วยฉันจ่ายสดพิเศษให้สองหมื่น"
"บอกเวลามาได้เลยค่ะ กิ่งพร้อมมาก ช่วงนี้กิ่งเหง๊าเหงา อยากออกจากบ้านทำงานที่สุดแสนจะรัก"
ความน่ารักสะกดใจชายจนอยู่หมัด กระทั่งทั้งคู่เผลอสบตาพร้อมกับรถที่แล่นมาจอดยังบริษัท
"เธอกลับเองได้แน่นะกิ่งแก้ว" ท่านประธานเอ่ยถาม
"ได้ค่ะเดี๋ยวกิ่งจะนั่งแท็กซี่ไปรับน้องที่โรงเรียนด้วย"
"อืมมม ไว้เจอกันวันเสาร์"
รถหรูขับเคลื่อนออกไปไกลกิ่งแก้วได้แต่พึมพำ "เหอะ วันเสาร์ก็คือพรุ่งนี้ไง!"
โรงเรียนมัธยม
"กานดา" กิ่งแก้วยกมือโบกเพื่อเรียกน้องสาวแต่ใบหน้าอีกฝ่ายกลับไม่ชอบใจ
"วันนี้ทำไมพี่มารับได้"
"ท่านประธานมีนัดกับครอบครัว พี่ก็เลยออกงานก่อนเวลา"
"อาทิตย์หน้าหนูจะเรียนจบแล้วนะ"
"อยากได้อะไรเป็นของขวัญ"
พี่สาวยิ้มหน้าบานเนื่องจากเป็นคนส่งเสียค่าเทอมน้องตั้งแต่พ่อติดคุก ส่วนผู้เป็นแม่เสียชีวิตไปเมื่อตอนทั้งคู่ยังเด็ก
"ไม่ต้องการของขวัญอะไรแค่อยากเรียนมหาวิทยาลัยเหมือนกับเพื่อนๆ" กานดาพูดแผ่ว "เพื่อนเขาไปเรียนมหาวิทยาลัยในเมืองกันหมด คงมีแต่หนูที่ได้เข้ามหาลัยนอกเมืองต้องจับฉลากเอา"
"ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ..ถ้ากานดาอยากเรียนพี่ก็ส่งค่าเทอมให้"
"ลำพังใช้หนี้ที่พ่อค้างไว้ก็แทบจะไม่เหลือกินข้าวแต่ละมื้อแล้ว พี่จะเอาปัญญาที่ไหนมาส่งเรียน"
ทางบ้านของกิ่งแก้วมีฐานะยากจนกระทั่งพ่อไปขโมยของสำคัญนำมาขายเป็นเศษเงินจึงทำให้ต้องชดใช้หนี้หลายสิบล้าน
ทาวน์เฮ้าส์เก่าซอยแปด
แกร๊ก
"เดี๋ยวพี่จะลองไปยืมเงินท่านประธานดู" พี่สาวตัดสินใจพูดอย่างจริงจัง
"ท่านประธานของพี่ถึงจะรวยแต่เขาก็เกรงใจพ่อแม่มากไม่ใช่หรือไง...เงินตั้งหลายสิบล้านใครจะให้ยืมง่ายๆ"
"เราก็ไม่ต้องยืมเยอะสิ เอาแค่ส่งกานดาเรียนมหาวิทยาลัยได้ก็พอแล้ว"
ใบหน้าน้องสาวบูดบึ้งไม่ตอบกลับ รีบถือกระเป๋านักเรียนหอบหนังสือขึ้นบนห้องนอนชั้นสองของบ้าน
กิ่งแก้วนั่งลงบนโซฟาในห้องโถงคับแคบ พยายามใช้สตินึกคิด สักพักก็ขึ้นห้องไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้านอนหลับเพื่อสู้ในวันต่อไป
เช้าตรู่
"ตั้งใจเรียนนะ" กิ่งโบกมือให้ มองน้องสาวเดินไปยังปากซอยเพื่อขึ้นรถเมล์ "เหลือเวลาอีกสามชั่วโมง เฮ้อออ"
เสียงถอนหายใจเมื่อนึกถึงงานตรงหน้า วันนี้ท่านประธานสั่งให้เธอไปร่วมงานซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่ก็ยังดีที่เงินพิเศษกลับมา
รีสอร์ตชายฝั่ง
"ยินดีมากเลยครับคุณทินกร" ชายวัยอาวุโสของบริษัทคู่ค้าจับมือยิ้มอย่างจริงใจ "ตั้งแต่คุณมาบริหารงานแทนท่านยอดขายของเราพุ่งสูงมาก"
"แน่นอนครับเพราะผมอุทิศเวลาให้กับงานเป็นหลักเสมอ"
"ทั้งหล่อทั้งเก่งแบบนี้ไม่ทราบว่ามีคู่หมายหรือยัง ฮ่าๆ ถ้ายังไม่มีจะจองให้ลูกสาวผม"
"ขอบคุณมากครับแต่ผมยังไม่คิดถึงเรื่องนั้นตอนนี้"
บทสนทนาของนักธุรกิจชื่อดังทำให้เลขาอย่างกิ่งแก้วกลอกตาไปมา สักครู่เธอจึงขออนุญาตเดินไปเข้าห้องน้ำซึ่งอยู่ด้านหลัง
ห้องVIP
"ไม่เจอกันนานนึกว่าเส้นเลือดในสมองแตกตายห่าไปแล้วไอ้คนบ้างาน"
"มาถึงก็ปากดีเลยนะมึง"
"ใจเย็นสิครับคุณทินกร"
"กวนตีน"
เจฟ เพื่อนสนิทคนเดียวของทินกร พวกเขามีฐานะเท่าเทียมกัน เติบโตมาในโรงเรียนไฮสคูลตั้งแต่อนุบาล ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันกระทั่งเติบโตในวัยสามสิบ จึงแยกกันไปบริหารธุรกิจของที่บ้าน
ทินกร บริษัท เฟอร์นิเจอร์หรูหรา
เจฟ บริษัท โชว์รูมรถสปอร์ตนำเข้าจากต่างประเทศ
"เลขาของมึงเดินสวนทางกันเมื่อกี้อย่างแจ่ม" เจฟหยิบไวน์ขึ้นมาพร้อมพูดเสียงมีเลศนัย "เสร็จมึงหรือยัง..."
"มึงจะบ้าหรือไง เด็กเพิ่งจบมหาลัยอายุยี่สิบสี่ปีเองมั้ง"
"โอ๊ยยย พ่อคุณ เกินวัยสิบแปดปีก็ถือว่าใช้ได้แล้ว!"
"ผู้หญิงไม่ใช่มะม่วงสุกจะหากินได้ง่ายขนาดนั้น ไม่น่าที่ช่วงก่อนมึงเข้าโรงพยาบาลบ่อย แดกไม่เลือกนี่เอง"
หน้าของเจฟสื่ออารมณ์อยากตบกบาลเพื่อน แต่ก็ต้องอดกลั้นเอาไว้ก่อนที่จะเลิกคิ้วแล้วพูด "มึงบอกว่ากูกินไม่เลือก ถ้าอย่างนั้น..เลขาสาวสวยวัยขบเผาะของมึงกูขอนะ"