หลุมพราง

970 คำ
ตอนที่ 8 ภายในห้องอาหารทิวัตถ์ทักทายกับคนรู้จักที่เป็นชายสูงวัย เขาแนะนำว่าเธอกำลังจะมาเป็นเลขาฯ คนใหม่ของเขาเร็ว ๆ นี้ ทั้งที่เธอยังไม่ได้ตกลงกับเขาด้วยซ้ำ ชายสูงวัยคนดังกล่าวส่งรอยยิ้มและสายตาเจ้าชู้มาให้เธอ พอประชุมเสร็จในช่วงเช้า ทิวัตถ์ก็พาเธอไปทานอาหารกลางวันและไปดูหนังด้วยกันในช่วงบ่าย ช่างไม่ต่างอะไรจากคู่รักเลย พอทั้งสองเดินออกจากโรงหนังเขาหายตัวไปชั่วครู่และบอกให้เธอนั่งรอเขาก่อน ไม่นานทิวัตถ์ก็เดินมาพร้อมกับกล่องขนมใบหนึ่ง เขายื่นให้เธอแล้วเอ่ยถาม “คุณชอบทานเค้กมั้ย” “ชอบค่ะ” หญิงสาวยิ้ม “ผมก็คิดว่าคุณกลัวอ้วนซะอีก ก็เลยซื้อมาให้แค่กล่องเดียว” “อันที่จริงก็กลัวนะคะ แต่กลัวคุณเสียน้ำใจมากกว่า” เธอตอบกลับอย่างเกรงใจ “แต่กล่องเดียวคงไม่ทำให้คุณถึงกับอ้วนหรอกมั่ง” เขาพูดพร้อมกับสำรวจเรือนร่างของเธอ หญิงจึงรีบเปลี่ยนเรื่องแล้วลุกขึ้นทันที “แล้วพรุ่งนี้คุณมีประชุมอีกมั้ยคะ” ทั้งสองเดินกันไปคุยกันไป “ไม่มีแล้วครับ” หญิงสาวทำท่าโล่งอก “เหมือนคุณดีใจเลยนะ” ทิวัตถ์แซวเธออย่างอารมณ์ดี “ฉันไม่อยากมาเจอเค้าที่โรงแรมของคุณ” “ผมรู้ แต่ถึงยังไงผมก็เป็นผู้บริหารที่นั่น ดังนั้นคุณจะหลีกเลี่ยงไม่ได้หากเราต้องทำงานด้วยกัน คุณเข้าใจผมใช่มั้ย” “ค่ะ ฉันจะพยายามไม่เอาเรื่องส่วนตัวมาปนกับเรื่องงาน” หญิงสาวตอบด้วยความมั่นใจ ศรันย์อดีตแฟนหนุ่มของเธอ อีกไม่กี่วันเขาก็คงกลับไปพร้อมกับรุ้งระวีย์ เตยหอมตัดสินใจแล้วว่าจะไม่กลับไปง้อหรือไปให้เขาเห็นหน้าอีก “ดีแล้วครับ” เขาตอบสั้น ๆ เย็นวันนั้นหลังจากกลับเข้าห้องพักภายในโรงแรม เตยหอมก็นอนคิดทบทวนเรื่องนี้อยู่เกือบทั้งคืน เธอยอมรับว่าเขาดูดีและมีฐานะที่มั่นคง แต่เธอก็เพิ่งจะรู้จักเขา ถ้าแค่พอไปทำงานด้วยกันมันก็พอไหว แต่ถ้าจะให้เธอถึงขั้นต้องไปเป็นเมียลับ ๆ บอกเลยว่าเธอยังไม่พร้อมจริงๆ มันช่างไม่ต่างจากพวกผู้หญิงขายตัวด้วยซ้ำ หลังจากเตยหอมถูกแฟนหนุ่มหักหลังอย่างแสนสาหัส เธอก็ไม่เชื่อในสิ่งที่เรียกว่าความรักบนโลกนี้อีกเลย เขาก็แค่อยากนอนกับเธอสินะ ถึงยื่นข้อเสนอมาแบบนี้ เตยหอมนอนคิดเรื่องนี้ทั้งคืนจนไม่ได้หลังไม่ได้นอน พอเช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากหญิงสาวมานั่งรับประทานอาหารกับทิวัตถ์เสร็จเธอก็ตอบตกลงที่จะทำงานกับเขาในฐานะผู้ช่วย เธอไม่มีทางเลือกมากนัก ต้นทุนชีวิตเธอก็ไม่ได้มีเหมือนคนอื่น อย่างน้อยถ้าเธอปรนนิบัติเขาดี ๆ เขาก็อาจจะเอ็นดูยกระดับฐานะให้เธอเป็นเมียออกหน้าออกตาก็เป็นได้ ทิวัตถ์เล่าให้เธอฟังว่าเลขาฯ ของเขาจะลาออกไปเรียนต่อที่เมืองนอกภายในต้นเดือนหน้านี้ และช่วงนี้เขาก็จะให้เธอฝึกหัดเป็นผู้ช่วยของเขาไปก่อนโดยการเรียนรู้งานจากเลขาฯ ของเขา เตยหอมบอกกับทิวัตถ์ว่าเธอจบคณะบริหารธุรกิจมา และเล่าประวัติส่วนตัวคร่าว ๆ ให้เขาฟัง เธอมีเพื่อนสนิทอยู่หนึ่งคนที่มาจากโรงเรียนประจำด้วยกัน ทิวัตถ์สงสารชีวิตในวัยเด็กของเธอ พอฟังจบชายหนุ่มก็อดที่จะถามไม่ได้ “คุณไม่คิดจะตามหาพ่อแม่ที่แท้จริงเหรอครับ” “ไม่แล้วค่ะ ถึงแม้จะเจอ ก็กลัวท่านลำบากใจเปล่า ๆ อีกอย่างตอนเด็ก ๆ ฉันอยู่กับ พ่อแม่บุญธรรมที่รับฉันมาเลี้ยงจนถึงสิบขวบ แต่สุดท้ายพวกท่านก็แยกทางกัน ฉันก็เลยต้องไปอยู่สถานสงเคราะห์เด็กที่เป็นโรงเรียนประจำ” “คุณเก่งมากนะครับ ที่ใช้ชีวิตตัวคนเดียวมาได้จนโตขนาดนี้” เขาชื่นชมเธอ พร้อมกับเอ่ยถาม “คุณพร้อมที่จะทำงานกับผมแล้วใช่มั้ย” เขาถาม “ค่ะ” หญิงสายเอ่ยตอบสั้น ๆ จากนั้นผู้บริหารหนุ่มก็พาเธอเดินไปที่ห้องของทำงานของเขาภายในโรงแรม ก่อนจะยื่นสัญญาฉบับหนึ่งให้เธอ “คุณอ่านสัญญาฉบับนี้ให้ดีก่อนนะ แล้วค่อยเซ็นต์” เธอรับไปแล้วถามขึ้นด้วยความสงสัย “ฉันต้องเซ็นต์ด้วยเหรอคะ” “ครับ เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาภายหลัง” หญิงสาวรีบหยิบปากกาบนโต๊ะทำงานของเขา “คุณจะไม่อ่านหน่อยเหรอครับ เผื่อว่ามีอะไร” “ไม่แล้วค่ะ แค่คุณช่วยปลดหนี้ให้ฉัน แล้วฉันทำงานให้คุณ..มันก็น่าจะโอเคแล้ว” “ก็นั่นแหละครับ...ที่ผมอยากให้คุณอ่าน” “ฉันยอมค่ะ หากว่าคุณต้องการจะนอนกับฉัน” “คุณแน่ใจนะ” “แค่ฉันแน่ใจ แต่คุณช่วยเล่าสาเหตุที่คุณเลิกกับแฟนให้ฉันฟังหน่อยได้มั้ยคะ เพราะฉันก็ไม่อยากมีปัญหาภายหลังเหมือนกัน” “เรื่องมันยาวครับ ให้ผมเล่าสามวันก็ไม่จบ หรือคุณอยากจะฟัง” “งั้นคุณช่วยยืนยันได้มั้ยคะ ว่าแฟนเก่าของคุณจะไม่เข้าใจผิดเรื่องของเรา” “แน่นอนครับ” สิ้นเสียงหญิงสาวก็ตัดสินใจเซ็นต์สัญญาฉบับนั้น โดยไม่ได้อ่านอย่างละเอียด เพราะเธอไว้ใจเขา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม