ก๊อก..ก๊อก...ก๊อก...
หญิงสาวเคาะประตูห้องประธานกรรมการด้วยอาการสั่นเทา หลังจากที่เคาะไปไม่นาน เสียงของเจ้าของห้องก็อนุญาตให้เธอเข้าไปในห้อง ธัญสิตาก้าวขาเข้าไปด้วยความรู้สึกหวาดกลัว เธอหวังว่าท่านประธานจะเมตตาเธอ ธัญสิตาขอแค่นั้นจริงๆ แต่เมื่อหญิงสาวก้าวเข้ามาด้านในเท่านั้น เก้าอี้ที่กำลังหันหลังให้เธออยู่กำลังหมุนกลับมา เพียงแค่เห็นหน้าของประธานกรรมการเท่านั้น หญิงสาวก็รู้สึกชาไปทั้งหัวใจ
“พี่ว่าน...” หญิงสาวเอ่ยชื่อชายที่อยู่ในดวงใจเธอมาตลอดด้วยความยากลำบาก
“คุณไม่ควรเรียกผมแบบนั้นอีก เพราะเราไม่ได้สนิทกันเหมือนเมื่อก่อนแล้ว” ภาวิตกล่าวเสียงเย็นเยือก มันทำให้คนฟังรู้สึกปวดร้าวไปทั้งหัวใจ
“ค่ะท่านประธาน” ธัญสิตาก้มหน้าลงด้วยความเสียใจ ใจจริงของเธออยากจะถามเขาเหลือเกินว่าเธอทำผิดอะไร ทำไมเขาต้องทำท่าทีเมินเฉยแบบนี้กับเธอ
“คุณยังจำสัญญาที่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งเคยให้ไว้กับผมได้มั้ย” ภาวิตเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเหยียดหยัน ซึ่งบ่งบอกถึงความเจ็บปวดที่สั่งสมอยู่ในใจของชายหนุ่มเป็นอย่างมาก
“จำได้ค่ะ” ธัญสิตาเอ่ยออกไปเสียงเบา แต่ทว่าในใจของหญิงสาวกลับเต้นไม่เป็นจังหวะ เพราะเธอไม่รู้ว่าทำไมชายหนุ่มถึงเลือกที่จะยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดอีก
“ผมมีขอเสนอ” เสียงของชายหนุ่มเย็นยะเยือกขึ้นเรื่อยๆ
“ข้อเสนออะไรคะ” ธัญสิตาคิ้วขมวดด้วยความสงสัย เธอไม่รู้ว่าชายหนุ่มกำลังจะสื่ออะไรกับเธอ
“ในเมื่อคุณไม่รักษาสัญญา ผมก็มีแค่ตำแหน่งเมียเก็บที่ผมจะมอบให้คุณ “ ภาวิตกล่าวด้วยแววตาแข็งกร้าว ความเจ็บปวดในหัวใจยังคงฝังแน่น
“คุณจะบ้าไปแล้วเหรอ ในเมื่อคุณกล่าวหาว่าฉันไม่รักษาสัญญา แล้วคุณจะมายุ่งกับฉันทำไม” ธัญสิตาน้ำตาคลอทันทีที่ได้ยินชายหนุ่มเอ่ยความประสงค์ของเขาให้เธอได้ยิน
“ผมรู้มาว่าพ่อของคุณป่วยต้องการเงินผ่าตัดไม่ใช่เหรอ ผมช่วยคุณได้นะ” ภาวิตกล่าวอย่างถือไพ่เหนือกว่า
“ทำไมต้องเหยียบย่ำศักดิ์ศรีฉันขนาดนี้ คุณไม่ใช่พี่ว่านที่ฉันเคยรู้จัก” ธัญสิตาน้ำตาคลอด้วยความเสียใจ ทำไมชายหนุ่มที่เธอเฝ้ารอเขามาตลอดต้องทำร้ายจิตใจของเธอขนาดนี้
“ถ้าไม่รับข้อเสนอก็ตามใจนะ เพราะที่นี่ไม่ต้องการนางวันทองสองใจ” ภาวิตกล่าวดูถูกหญิงสาวอีกครั้ง