หลังจากจัดการทำแผลเสร็จพวกผมก็ลงมาเดินถนนคนเดินด้านล่าง ที่นี่มีตลาดยาวจนไปถึงวัด ระหว่างทางมีทั้งของกินของใช้ เสื้อผ้าและของที่ระลึกเต็มไปหมด ผมไม่ค่อยเน้นพวกเสื้อผ้าหรอกนะ ผมไม่ใช่สายนั้น ผมเดินติดแถบของกินแวะชิมทุกร้านโดยมีไอ้คาลหิ้วถือของกินให้ผมจนเต็มไม้เต็มมือ “อันนี่ไม้จักบาทครับ” (อันนี้ไม้เท่าไหร่ครับ) “ไม้ละซาวบักหล่า” (ไม้ละ 20 พ่อหนุ่ม) “เอาสองไม้ครับ” ผมหันไปกระดิกมือขอตังค์กับไอ้คาล มันก็รีบควักจ่ายอย่างไว “เขาว่าอันนี่ล่ะทีเด็ดเซียงคาน มาเซียงคานบ่ได้กินกุ้งเสียบไม้เขาว่ามาบ่ฮอดตั๊ว” (เขาว่าอันนี้ล่ะทีเด็ดเชียงคาน มาเชียงคานไม่ได้กินกุ้งเสียบไม้เขาว่ามาไม่ถึง) ผมว่าแล้วก็ทำการหยิบกุ้งสีส้มขึ้นมากัดชิมดู “แซ่บตั๊วล่ะ ซิมเบิ่ง” (อร่อยนะ ชิมดู) ผมว่าแล้วก็ยื่นไม้ส่งให้ไอ้คาลชิมบ้าง “อื้อ อร่อยดีนะ” มันกัดชิมดูแล้วพยักหน้าเห็นด้วย “อย่าฟ่าว ๆ กูว่าแล้วมันต้องมีว