ฉันชมเปาะ แต่ดูเหมือนอีกคนไม่พอใจปิดประตูกระแทกใส่หน้าเราสองคน
ชิ! ร้ายแบบนี้อย่ามารักอีพริกคนนี้วันไหนแล้วกัน จะปั่นให้หัวหมุนเลย
เนื่องจากพี่แฝดมีรหัสเข้าห้องฉันก็เลยไม่ต้องรอพี่รินมาเปิดให้ ก่อนจะสวัสดีด้วยมารยาทอันงดงาม แล้วก็หลบเข้าครัวไปช่วยพี่รินทำอาหาร
“พี่รินทำอะไรคะ...พริกช่วยค่ะ”
“ทำยำไข่ดาว ยำไข่เยี่ยวม้า หอยแครงลวก แล้วก็ต้มโคล้ง กุ้งแช่น้ำปลา”
ฟังจากเมนู คืนนี้น่าจะเมาแน่ ๆ ส่วนใหญ่เป็นพวกกับแกล้มทั้งนั้น เน้นกินเล่น
“เริ่ด...เดี๋ยวพริกจะโชว์ฝีมือยำสูตรคุณนายงามพริ้งนะคะ” ฉันบอกก่อนจะหั่นเครื่องยำให้พร้อม เพราะยำน่ะทำง่าย ส่วนพี่รินทอดไข่ดาวอยู่
“แม่เป็นแม่ค้าขายข้าวแกงนี่ดีเนอะ ทำอาหารเก่ง”
“ไม่เก่งไม่ได้ ตอนเด็ก ๆ ต้องช่วยแม่” ฉันว่าก่อนที่ภาพความทรงจำในวัยเด็กระหว่างแม่กับฉันจะค่อย ๆ โผล่ขึ้นมา
และมีแค่ฉันกับแม่โดยไม่รู้ว่าพ่อของฉันเป็นใครด้วยซ้ำ
พวกเราจะว่าลำบากก็ไม่ใช่ สบายก็ไม่เชิงแค่พอมีพอกิน แม่เป็นคนประหยัด แต่สำหรับฉันแม่ไม่เคยประหยัดสักอย่าง แต่ฉันรู้ว่าแม่เหนื่อยมากจึงไม่ได้สุรุ่ยสุร่ายมากนัก มีแค่ช่วงเทศกาลบ้างที่กินของอร่อย อันที่จริงฉันไม่มีของเล่นเลยด้วยซ้ำ เพราะมันเปลืองเงินโดยใช้เหตุ
“แต่น้างามพริ้งทำหมูกรอบเด็ดมาก แล้วนี่น้างามไปไหนล่ะ”
“ช่วงนี้แม่มีพบปะสังสรรค์บ่อย เห็นบอกว่าเลี้ยงรุ่นอะไรประมาณนั้นเลยไม่ได้กลับบ้าน”
“ก็เลยโดนทิ้งให้อยู่คนเดียว”
“ใช่...นอนคอนโดลูกฟูกด้วย กลัวผีมาก” ฉันเสริมอีกหน่อย ที่จริงเกลียดการนอนคนเดียวมาก ๆ ถ้านอนคนเดียวต้องเปิดไฟนอน
“กลัวผีเหรอ”
“ใช่...กลัวผีมาจับหัว” น้ำเสียงทะเล้นซ่อนเร้นความในส่งไป ทำให้เราทั้งคู่มองสบตากัน
แล้วเสียงหัวเราะของพี่รินก็ดังขึ้น จากนั้นคำสองแง่สองง่ามก็หลุดมาเป็นพรวน ที่จริงฉันไม่ใช่คนลามกจกเปรตนะ แต่ว่าฟีลลิ่งมันพาไป จนกระทั่งพี่รินทำกุ้งแช่น้ำปลาเสร็จ น้ำจิ้มซีฟู้ดสีเขียวสดราดลงบนตัวกุ้งจานโตท้อปด้วยหอมเจียว น่ากินมาก ๆ
“โอ้โห้ทำไมน่ากินแบบนี้”
“นี่แหละเมนูเลียนิ้วของไอ้พวกสามป. ไอ้ปัณณ์ชอบเป็นพิเศษ”
อู้หู...นี่รู้เรื่องของเฮียปัณณ์เพิ่มอีกเรื่องแล้วนะ กุ้งแช่น้ำปลาเขาชอบ เอาไว้จะให้คุณนายงามพริ้งสอนให้ทำจะได้ทำไปฝากเฮียปัณณ์บ่อย ๆ หรือตกลงเป็นแฟนกันเมื่อไหร่จะได้ทำให้กินแบบเอาอกเอาใจ หลังจากเอากัน
อิอิ...ทะลึ่งแหละฉันน่ะ
“แล้วเฮียปัณณ์ชอบอะไรอีกคะ”
“ก็มีหมึกผัดไข่เค็ม ปูผัดผงกะหรี่แต่เครื่องเทศ น้อย ๆ นะ กุ้งเผาอื่น ๆ ก็...” พี่รินเล่าไปเรื่อย ๆ ฉันก็เก็บเอาไว้ในสมองแล้ว จำแม่นกว่าเลขประจำตัวประชาชนตัวเองอีกนะไม่อยากจะคุย
“เฮียปัณณ์นี่กินง่ายดีเนอะ” ฉันว่ายิ้ม ๆ แต่ทว่าเสียงจากตู้เย็นที่อยู่ใกล้ ๆ ที่เปิดออกพร้อมเสียงกรุ้งกริ้งของขวดเบียร์ และเหล้ากระทบกัน โดยมีเสียงเจ้าของชื่อตอบกลับมา
“แต่ใจไม่ง่ายเหมือนใครบางคน”
“....”
โอ๊ย...เจ็บมาก...ทำไมปากเสียอย่างนี้
คำพูดของเขาคมเหมือนมีด ที่มันเฉือนอะไรบางอย่างในอกฉันจนชา แต่แววตาที่วูบขึ้นมานั้น…มันไม่ได้ไร้ความรู้สึกอย่างปากเลย
หรือเขาจะเป็นคนปากอย่างใจอย่าง?
“อย่าว่าน้อง” พี่รินปรามเพื่อนนั่นทำให้ฉันบิดปากคว่ำรีบดึงน้ำตากลับไปก่อนมันจะหยดลงมาให้อับอาย
ใช่ฉันแสดงแหละ ให้ดูน่าสงสาร
“สนใจขนาดนี้เอาสมุดมาจดเลยไหม...เรื่องเรียนสนใจเท่านี้หรือเปล่า” ดอกนี้สะเทือนบอกเลย เคยมีใครบอกไหมว่าพี่เขาน่ะปากปีจอสุด ๆ
แต่ใครจะสนทำหูดับต่อไป
“แล้วหมูกรอบล่ะชอบไหม” ฉันหันไปถามพี่รินไม่อยากคุยกับคนปากไม่ดีแถวนี้แล้ว ช้ำใจ
“ถามมันเองเลยชอบไหม” พี่รินชงเข้มมาก โยนให้เจ้าตัวที่มาเอาเครื่องดื่มที่แช่เอาไว้เป็นคนตอบ ส่วนฉันยกหางคิ้วเชิงถามว่าชอบหรือเปล่า
“ชอบสิ” พี่ปัณณ์ตอบพลางยกยิ้มมุมปากแบบไม่น่าไว้ใจเลย จะด่าอะไรอีกหรือเปล่านะ
แต่เมื่อฉันจะอ้าปากถามอีกคำเขาเอ่ยขึ้นก่อน
“ที่จริงก็ชอบทุกอย่าง...ยกเว้นอยู่อย่างเดียว”
“แล้วอะไรคะ...ที่เฮียไม่ชอบเดี๋ยวพริกจะจำเอาไว้ให้ขึ้นใจเลย” ฉันทำเสียงเล็กเสียงน้อยให้ดูน่ารัก
“คนชื่อพริกแกง!”
ตอบเสร็จยิ้มชั่วร้ายแล้วเดินออกไป...ร้ายมาก...ร้ายสุด ๆ ทำเอามือที่หั่นพริกอยู่สั่นและพลาดจนได้
ชึบ! 🔪🩸
เลือดไหลจากปลายนิ้ว แต่ทำไมมันเจ็บไปถึงใจ… ตอนนี้ความเจ็บปวดที่ได้รับไม่รู้ว่าเพราะมีด หรือเพราะคำพูดเฮีย ฉันก็ไม่รู้แล้ว
ไม่ได้ใจแต่ได้เลือดแทน