ฉันร้องเสร็จแล้วพี่รินรีบวางมือจากนั้นก็โวยวายยิ่งกว่าฉันอีก “มีดบาดเลยเจ็บไหม”
เจ็บไหมไม่สำคัญ...แต่ฉันจะเป็นลมให้ตายเถอะ...แต่ไม่ได้ต่อหน้าผู้ชายจะเสียศูนย์ไม่ได้เด็ดขาด ฉันจึงหลบสายตาไปอีกทางหนึ่ง พยายามไม่มองเลือด
เมื่อก่อนก็ไม่ได้กลัวเลือดหรอก จนไปดูคลิปหนึ่งที่โคตรจะน่ากลัว เป็นคดีฆาตกรรม แล้ววันนั้นก็อ้วกแตกจนเป็นลมแม่ต้องหามส่งโรงพยาบาลเลยทีเดียว
“เป็นอะไรไอ้ริน” พี่ปุณณ์เดินเข้ามาพร้อมพี่ปั้นอย่างเป็นห่วง แต่ที่จริงเขาคงเป็นห่วงพี่รินมากกว่า
คนไม่ถูกรักเศร้าแปล๊บ
“น้องโดนมีดบาด หน้าซีดเลยกลัวเลือดเหรอ”
“ไม่...ค่ะ” ต่อหน้าคนอื่นก็อยากเจ๋งอะเนอะ แต่ว่าขาเริ่มอ่อนจนต้องพิงเคาน์เตอร์ครัว
“แล้วนั่น...เซจะล้มแล้ว...เป็นอะไร”
ฉันบิดปากคว่ำบีบน้ำตาแสร้งดรามาให้พี่ ๆ เขาจะได้ไม่เครียดแทน จะได้ดึงความสนใจตัวเองออกไปจากเลือดตรงปลายนิ้วด้วย
“เป็นคนไม่ถูกรัก”
“ใช่เวลาเล่นไหมเนี่ย” โดนพี่ปุณณ์ดุเข้าให้อีก สุดท้ายมือฉันก็ถูกดึงไปล้างมือ ก่อนจะถูกลากไปนั่งที่โซฟาแล้วพี่ปั้นเอากล่องปฐมพยาบาลมาให้ ท่ามกลางอีกคนที่ไม่สนใจอะไรเลยสักนิด
เจ็บวะ...มีดบาดก็ไม่เป็นห่วงสักนิดเลยหรือไงวะ
ใจร้ายชะมัด!
“ต่อไปใช้มีดก็ระวังหน่อย แล้วมือก็อย่าโดนน้ำด้วย”
ยากแล้วมืออย่าโดนน้ำจะอาบน้ำยังไงก่อน ล้างหน้าอีก นี่เรื่องใหญ่เลยนะ
“ยากเลยนะคะพี่ปุณณ์ พริกจะอาบน้ำยังไงล่ะ” ฉันทำเสียงอ้อนเล็ก ๆ แต่ว่าอีกคนคงหมั่นไส้แหละที่ไปอ้อนพี่ชายของเขา
“โลกนี้มีถุงมือใช้แล้วเนอะ เผื่อลืม มีดบาดแค่นั้นร้องเสียลั่น”
ด่าโง่ยังเจ็บน้อยกว่าเลย เฮ้อ...นี่เฮียปัณณ์เป็นอะไรมากไหม แค่บอกว่าใส่ถุงมือก็พูดได้ปะ แล้วที่บอกมีดบาดแค่นั้น ให้ลองมาโดนบาดดูบ้างเหอะ ฉันจะสมน้ำหน้าให้
“บ้านอยู่ท่าแซะเหรอเฮีย ทำไมแซะเก่ง”
“ก็ทำหน้าแบบนั้นดูก็รู้แล้วคิดอะไรอยู่”
“รู้จายยย” ฉันยิ้มสู้ไปเลยสิ เอาซี้ใครมันจะแพ้ก่อนกัน
“ฮึ...ส่วนเธอก็รู้ทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องตัวเอง”
เฮียปัณณ์+100 ส่วนอีพริก -100,000
คนปากร้ายชนะเฉย
ให้ตายสิ...เฮียนะเฮีย...เออแพ้แล้วแพ้หมดรูปเลย แต่เพราะมัวแต่ทะเลาะกับเฮียปัณณ์ มือของฉันเลยกลายเป็นมัมมี่ไปแล้ว
“พี่ปุณณ์...มีดบาดนิดเดียวเองทำไมพันซะนึกว่ามือหัก แล้วแบบนี้พริกจะกินข้าวยังไงล่ะ”
เธอยกมือขึ้นมองอย่างสิ้นหวัง แถมคนทำแผลให้ดูเหมือนจะไม่ชอบหากฉันเอาออกด้วยสิ
“เดี๋ยวป้อน” เสียงกระแทกกระทั้นของพี่ปุณณ์ทำฉันหน้าเหวอ นี่พี่แกจะป้อนฉันจริงดิ คิมิโต๊ะโน๊ะเลยนะแบบนี้อะ งุ้ยสุดหล่อคนที่สองจะป้อนให้ ฉันจะได้ไปคุยกับนังลูกฟูกกับนังจูเน่ ต่อให้ไม่ได้น้องแต่พี่ก็น่ารักไม่หยอกเหมือนกัน
OMG!
แล้วฉันก็ได้แต่นั่งนิ่ง ๆ จากนั้นก็รออาหารเสร็จแต่คนที่บอกจะป้อนกลับไปโทรศัพท์
TT^TT
ขอบคุณในความหวังดีของพี่ปุณณ์ ช่วยฉันได้มากส่วนฉันก็ใช้มือเดียวกินเท่าที่กินได้ แต่ฉันอยากกินหอยแครงที่ลวกได้พอดีมาก แต่ว่าแกะไม่ถนัด
เฮ้อ...เอาไว้ค่อยอ้อนแม่ให้ทำให้กินก็แล้วกัน
“ที่รัก...กินหอยครับ” นั่นพี่ปั้นป้อนพี่รินอย่างเอาใจ อดอิจฉาไม่ได้เลยจริง ๆ แต่เมื่อหันมาคนที่รังเกียจฉันนักหนามานั่งข้าง ๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ และดูจะกินแซ่บแต่กุ้งแช่น้ำปลา อย่างอื่นไม่เห็นแตะ
สงสัยจะชอบจริง ๆ แต่ฉันมองเขาดูกินน่าอร่อยดีเนอะแล้วก็เผลอมองนานจนคนถูกมองหันมาทำตาค้อนใส่
“อยากกินกุ้ง?” เขาถามด้วยใบหน้าตึง ๆ คล้ายคนหวงของกิน จนฉันอมยิ้ม
“ไม่อยากกินกุ้ง แต่อยากกินเฮียอะ...ได้ปะ”
ต่อให้มือเจ็บแต่ปากยังดีอยู่นะ อิอิ
“ถ้าใจกากอย่าปากเก่ง”
งุ้ยยย~ด่าได้สะเทือนไตมาก...เจ็บไตเลย
“....”
หมายความว่าไง...คิดว่าฉันไม่กล้างี้เหรอ เอาจริงก็ไม่รู้ว่ากล้าหรือเปล่า แต่ชอบแล้วก็ต้องสู้สิวะ
“ไม่ได้เก่งแค่ปากหรอก” ฉันว่า
“ส่วนใหญ่ก็ดีแต่พูดเท่านั้นแหละ พอเอาเข้าจริงก็…”
เกลียดการลากเสียงของเฮียมาก
เฮียปัณณ์คิดว่าฉันจะเล่น ๆ เหรอ นี่จริงจังนะ
“ส่วนพี่คงดีแต่...ปากสินะ” ฉันชอบมากเรื่องท้าทายและคิดว่าอีกคนก็น่าจะไม่ชอบเท่าไรที่โดนกระตุกหนวด แต่เดี๋ยวนะ
แต่แล้วขณะที่ฉันลอยหน้าลอยตากวนตีนพี่เขาทำไมตีนพี่แกขยับ ไม่ใช่ว่าจะกระทืบฉันหรอกนะ ซวยแน่
ฉันรีบยืนขึ้นทันทีก่อนจะบอกกับพี่ริน
“เอ่อ...พี่ริน...อิ่มแล้วพริกกลับก่อนนะ”