“รีบไปไหนเพิ่งกินยำไปนิดเดียว ยังมีอย่างอื่นอีก นั่งลงเดี๋ยวนี้”
โถ...พี่ริน...ดูด้วยหน้าเพื่อนพี่กำลังจะเสิร์ฟยำตีนให้หนูแล้ว หากอยู่ต่ออีกหน่อย เละแน่ ๆ
“ดูเหมือนเฮียจะไม่ค่อยอยากให้หนูอยู่เท่าไรนะคะ” ฉันว่าเสียงสั่น ๆ แอบกลัวนิด ๆ ด้วยล่ะ ปกติก็ไม่ค่อยเห็นเฮียปัณณ์โมโหใครนะ ยกเว้นรำคาญฉันเนี่ยแหละ
“หยุดเลยไอ้ปัณณ์ น้องอยู่ห้องคนเดียวน่าสงสาร” ฉันรีบไปนั่งเบียดพี่ริน เพราะไม่ไว้ใจ หากขาที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อฟาดมา หน้าฟ้าประทานจะกลายเป็นใบหน้าที่โดนฟ้าลงโทษเอาได้
“มานั่งนี่” นั่นสั่งให้ฉันนั่งใกล้ ๆ แถมขู่อีก
เฮียขู่เก่งมาก
“เฮีย~” ฉันว่าเสียงอ่อย แต่แล้วก็โดนดึงแขนให้ลุกมานั่งใกล้ ๆ แล้วไอ้ใจกาก ๆ ปากเก่ง ๆ อย่างฉันก็นั่งเสียวสันหลังต่อไป
แต่นั่งไปสักพักกุ้งแช่น้ำปลาที่ราดด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดแซ่บ ๆ ก็ยื่นมาตรงหน้า ฉันไม่มองแต่กลับหันไปดูคนที่จิ้มมาให้อย่างระแวงนิด ๆ ว่าแอบใส่อะไรไว้หรือเปล่า เดี๋ยวเกิดกินแล้วชักตาตั้งยุ่งตายเลย
ผัวรวยก็ไม่ได้...แถมยังตายก่อนแก่อีก
“กิน”
แววตาเขาคมดุเหมือนสั่ง แต่ลึก ๆ เหมือนกำลังทดสอบฉันว่าจะถอยหรือกล้าสู้กับเขา
“เอ่อ...ไม่ดีกว่าค่ะเห็นพี่ชอบไม่อยากจะแย่ง” ฉันยิ้มแหย ๆ กลับ พลางคิดว่าใครจะกล้ากิน ปกติก็แทบจะกินหัวฉันอยู่แล้ว นี่ต้องสอดไส้อะไรสักอย่างแน่ ๆ
“กลัวเหรอ”
“...เฮียใจร้ายนี่ไม่กลัวได้ยังไงล่ะ”
เขาไม่เพียงไม่โกรธแต่กลับยกยิ้มอย่างเป็นต่อราวกับหมาป่ากำลังไล่ต้อนลูกแกะตัวเล็กตัวน้อยอย่างฉัน จากนั้นยกมือขึ้นบีบคางฉันให้อ้าปาก
“โอ๊ย...เฮีย...ทำอะไรเนี่ย...บอกว่าไม่กินไง”
“กิน!”
“มะ...” ยังไม่ทันพูดได้จบ ก็มีกุ้งแช่น้ำปลาพุ่งเข้าปากแล้วน้ำจิ้มซีฟู้ดนั้นมีซ่อนเม็ดพริกเอาไว้ข้างในอีกจนฉันไม่กล้าเคี้ยวทั้งจะหลบไปคายทิ้งด้วย แต่ว่า...
“ถ้าคายทิ้งมีเรื่อง”
เฮียยยย...ทำไมต้องฆ่ากันทางอ้อม
มีดบาดไม่พอยังโดนบังคับให้เคี้ยวพริก ชีวิตอีพริกเหี้ยจริง ๆ แล้วช่วยไม่ได้ชอบแกล้งเฮียบ่อย ๆ ด้วย แต่ฉันคือเต๊าะเขาเฉย ๆ เองนะ ทำไมต้องล้างแค้นด้วยวิธีนี้
บอกเลยชั่วโมงนี้เคี้ยวทั้งน้ำตาแต่เมื่อหันมองหน้าเขา รอยยิ้มเขามีเสี้ยวบางที่เหมือนกำลังสนุกกับการเห็นฉันทรมานไปกับความเผ็ด…เหมือนหมาป่าที่เลียเขี้ยวรอดูเหยื่อดิ้น
“ถ้าอยากเป็นแฟนฉันก็ต้องหัดกินของเผ็ด ๆ เพราะฉันชอบกินเผ็ด”
หือออ...ว่าไงนะ...อันนี้น่าสนใจนะ...แค่กินพริกได้ก็จะมีลุ้นเป็นแฟนเฮียงั้นเหรอ...โอ๊ยเอามาพริกหนึ่งสวนเลย
“เฮียป้อนมาหนูพร้อม” ตอนนี้เรื่องเผ็ดเอาไว้ทีหลัง ถ้ากินพริกแล้วได้ผู้ชาย พริกแกงคนนี้ก็สู้ตายบอกเลย
“ปากเก่ง...ดีชอบ”
หูยยย...ชอบเหรอ...ชอบจริงดิ...ชอบจริงหรือเปล่า
ฉันที่ฝันไปไกลนั้นหารู้ไม่ว่าเฮียปัณณ์เตรียมวิธีทรมานฉันด้วยการยกพริกมาทั้งจานวางตรงหน้า ความฉิบหายจะไปไหนเสียล่ะ
ฉันมองหน้าเฮียอย่างขอความเห็นใจ แต่ดูเหมือนเฮียจะไม่เห็นใจไม่พอ ยังส่งสายตาเชิงบอกว่า
ถ้าใจกากรบกวนอย่าปากเก่งให้มากนะ!
แต่เหมือนสวรรค์ยังเห็นใจอีพริกแกงอยู่นิด ๆ เมื่อพี่ปุณณ์เข้ามาได้ทันเวลาพอดี ฉันจึงส่งสายตาอ้อนวอนไปให้
“มึงทำอะไรน้อง”
“เปล๊า”
“ไอ้ปัณณ์!”
“ไม่ต้องยุ่ง...แล้วนั่นคุยกับใคร” เฮียปัณณ์เปลี่ยนเรื่องไม่ยอมให้ช่วยฉัน โอ้โหร้ายมาก
“เฮ้อ...เด็กเก่าไม่ยอมเลิก”
เรื่องนี้น่าสนใจนะ อยากรู้จังเด็กเก่าพี่ปุณณ์ใครหว่า ฉันนั่งเสนอหน้าไม่พอยังมองไปทางนั้นอย่างสนใจอีก พลางคิดวิธีวุ่นวายในหัวช่วยพี่ปุณณ์
“บอกแล้วทำอะไรก็ให้เรียบร้อย จ่ายแล้วให้จบ”
“ก็เด็กไม่ยอมจบ”
“ไม่จบก็เหี้ยแล้ว”
สองพี่น้องคุยกันไปมาฉันก็หันซ้ายทีขวาที จนเห็นว่ามีช่องว่างจึงเอ่ยขึ้น
“ให้พริกช่วยไหม...พริกเป็นแฟนปลอม ๆ พี่ปุณณ์ไปจัดการผู้หญิงคนนั้นให้เอง”
“จัดการยังไง” พี่ปุณณ์ไม่ได้ถามแต่คนอยากรู้ดันเป็นเฮียปัณณ์เสียอย่างนั้น ฮั่นแน่หึงอะดิ
“ก็ไปด่าให้ยับ ไม่คิดเงินเลยด่าให้ฟรีแล้วเล่นเป็นแฟนได้แนบเนียนด้วย” ฉันภูมิใจในฝีปากตลาดของตัวเองมาก ๆ เป็นแม่ค้าต้องปากตลาดเอาไว้ก่อน
“ไม่ต้องยุ่ง!”
“....” ดับฝันเฉย...ไม่ใช่พี่ปุณณ์นะ แต่เป็นเฮียปัณณ์
ก็แค่อยากช่วยเฉย ๆ ทำไมต้องว่าเรายุ่งด้วยเนี่ย หวงใช่หรือเปล่า แต่ท่าทางเหมือนไม่หวงเลยแหะ ยังไงดีนะไม่ชัดเจนเว่อร์
“ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้น ใครทำก็ให้จัดการปัญหาเอาเอง อิ่มแล้วใช่ไหมจะไปส่ง” นี่ไม่ใช่ประโยคคำถามด้วย แต่ว่าอีกคนกระชากมือฉันขึ้นแล้วพาเดินออกจากห้องท่ามกลางสายตางุนงงของทุกคน และรวมทั้งฉันด้วย
มือเขากระชากฉันแรงพอให้เสียหลัก แต่ความร้อนที่แผ่ผ่านปลายนิ้วกลับทำให้หัวใจฉันเต้นรัว… นี่เขาจะพาฉันไปไหนกันแน่?
ไปส่งนี่คืออะไร?