@ ผับKKK หัวหิน
LINE
LUN : ฉันถึงผับแล้วนะ
PLADOU : ออกมาดื่มเหรอ
LUN : ค่า มาคนเดียว จะทำอะไรได้หมด
PLADOU : เสียดาย พรุ่งนี้แม่จะพาไปทำบุญ9วัด ไม่อย่างนั้นคงไปด้วยแล้ว
LUN : สาธุด้วยนะคะ
PLADOU : งื้อ อย่าเศร้า
LUN : ทุกวันนี้แกก็เป็นแม่ชีอยู่แล้วมั้ย เรียนจบบริหารแล้วมาบวช
PLADOU : อย่าประชด นี่คำสั่งหม่อมแม่ ต้องรอรับพี่ชายฉันด้วย
LUN : ฮื่อ...
"แค่พี่ชายจะกลับมา ถึงกับไม่มีเวลาให้ฉันเลยเหรอ"
ร่างบางระหงในชุดเดรสเกาะอกสั้นสีดำ วางโทรศัพท์ที่อยู่ในมือลงบนเคาน์เตอร์บาร์อย่างเซ็งๆ ก่อนจะหันไปสั่งไวน์ชั้นดีกับทางบาร์เทนเดอร์
หลังจากเรียนจบก็ไม่ค่อยได้เจอกับปานชีวาเลย ช่วงนี้ค่อนข้างยุ่งอยู่กับที่บ้าน ส่วนลัลน์ลลิตที่มีเพื่อนสนิทเพียงคนเดียว ช่วงนี้ก็เลยเหงาๆ เพราะเธอต้องทำอะไรคนเดียวทั้งหมด
"ไวน์ครับ"
"ขอบใจนะ" ลัลน์ลลิตรส่งยิ้มหวาน พลางควงแก้วไวน์ในมือเล่น ก่อนจะยกมันขึ้นจิบด้วยท่าทีสบายๆ
"คุณครับ เสื้อคลุมหล่น"
"คะ ... คุยกับฉันเหรอคะ"
ลัลน์ลลิตหันไปทางเจ้าของเสียงทุ้มสำเนียงภาษาอังกฤษดีเยี่ยม ทำให้พบกับชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาไม่ใช่คนไทยคล้ายไปทางลูกครึ่งอะไรสักอย่าง ซึ่งลัลน์ลลิตมองหน้าเขาไม่ค่อยชัด แต่รู้ว่าเขาคุยกับเธอเป็นภาษาอังกฤษและเขาหล่อมาก ชายตัวสูงวางเสื้อคลุมแบรนด์คริสเตียนดิออร์คลุมลงไหล่เล็กให้เธออย่างถือวิสาสะ
“ขอผมนั่งด้วยคนสิครับ"
ชาร์คหรือ ชรัญธร หนุ่มลูกครึ่งไทย-อเมริกาไม่รอคำอนุญาต นั่งลงเก้าอี้ข้างๆ หญิงสาว ยกแก้วแอลกอฮอล์ขึ้นชนกับแก้วไวน์ของเธอ ก่อนจะยกมันขึ้นกรอกลงคอรวดเดียวหมด
"อยากนั่งก็นั่งสิคะ ขอทำไม ฉันไม่ใช่เจ้าของที่นี่สักหน่อย"
น้ำเสียงเย่อหยิ่งของลัลน์ลลิตเอ่ยขึ้นอย่างไม่สนใจ เธอควงแก้วไวน์ในมือเล่นแล้วยกดื่มเรื่อยๆ เพราะเป็นเรื่องปกติของผู้ชายที่เห็นผู้หญิงสวยๆ เข้าหน่อย ก็จะเข้ามาตีสนิท เธอคุ้นเคยกับเหตุการณ์นี้เป็นอย่างดี
โดยเฉพาะเวลาที่ออกท่องยุทธภพคนเดียวแบบนี้ คืนหนึ่งไม่ต่ำกว่าสาม สี่คนที่เข้ามาขอทำความรู้จัก
"คุณมาคนเดียวเหรอครับ"
'นั่นไง ประโยคคำถามที่คุ้นเคย' ลัลน์ลลิตยิ้มย่องอยู่ในใจ ราวกับรู้ทันความคิดทั้งหมดเป็นอย่างดี
"ค่ะ แล้วคุณล่ะ"
เมื่อเห็นว่าเขาอยากคุยด้วยก็เลยไม่อยากเสียมารยาท ดวงตาเฉี่ยวๆ ของเธอมองเครื่องประดับแบรนด์หรูที่อยู่บนตัวของเขา ราวกับกำลังสำรวจดูราคา แต่ก็มองไปงั้นๆ เพราะเธอไม่ได้สนใจของพวกนั้นอยู่แล้ว
"มากับเพื่อนครับ คุณสนใจไปนั่งกับพวกผมมั้ย" ชายหนุ่มพยักหน้าไปทางกลุ่มเพื่อนของเขาซึ่งมีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งนั่งอยู่ชั้นลอยโซนวีไอพี ทำให้มองจากตรงนั้นลงมาก็จะเห็นลัลน์ลลิตได้ชัด
"ไม่ล่ะค่ะ ฉันไม่นิยมสวิงกิ้ง"
"เฮ้ยคุณ! พูดเป็นเล่นไป ผมไม่ได้มาชวนคุณทำอะไรอย่างว่านั่นซักหน่อย"
ดูเหมือนชรัญธรจะเจอของแท้เข้าเสียแล้ว ก่อนหน้าเขาแค่แพ้เกมวงล้อหมุนขวดเลยถูกสั่งให้มาขอเบอร์ใครก็ได้ในผับ หากไม่สำเร็จคืนนี้เขาต้องเลี้ยงเหล้าพวกเพื่อนๆ
และสายตาของเขาก็สะดุดเข้ากับสาวสวยรูปร่างดีที่นั่งดื่มอยู่ลำพังตรงบาร์เหล้า เธอดูเหงาๆและน่าจะเข้าถึงง่าย
"แน่ใจเหรอคะ ว่าไม่คิดแบบนั้น"
ลัลน์ลลิตเอ่ยเสียงหวาน ฝ่ามือนุ่มนิ่มของเธอวางลงบนต้นขาของอีกฝ่าย ซึ่งเขาถึงกับสะดุ้งและหันไปสั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับบาร์เทนเดอร์ด้วยท่าทางประหม่า
"ผู้ชายทุกคนที่เข้ามาหาฉัน ต่างก็หวังจะ เอา ฉันทั้งนั้นแหละ หรือคุณไม่คิด"
"คุณดูตรงไปตรงมาดีนะ ผมชาร์คนะครับ ขอไลน์คุณเอาไว้ได้มั้ย เผื่อจะได้...."
ลัลน์ลลิตแสยะยิ้มอย่างพอใจเมื่อเธอเดาทางได้ ฝ่ามือเล็กของเธอลูบลงมือหนาที่กุมอยู่บนแก้วเหล้าอีกที พร้อมช้อนสายตาเย้ายวนขึ้นมองเขา
"ไปส่งฉันที่รถหน่อยสิคะคุณชาร์ค ฉันอยากกลับแล้ว"
เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส คำว่า อยาก เหมือนใบเบิกทางให้ความร้อนแรงปะทุขึ้นภายในเสี้ยวนาที
ปึก! ปึก! ปึก! ปึก!
"อ๊ะ! อ๊ะ! อ๊ะ!"
รถซูเปอร์คาร์คันหรูโยกคลอนไปมา ตามจังหวะเร่าร้อนที่คนในรถทั้งสองกำลังนัวเนียกันอย่างไม่มีใครยอมใคร
เสียงหอบหายใจกระเส่าระคนเสียงครางหวานดังประสานอยู่ภายในรถหรู ร่างเล็กอยู่ในท่าคุกเข่าหันหน้าเข้าพนักพิงตรงเบาะข้างคนขับ แอ่นสะโพกมนรองรับความใหญ่โต ของชายหนุ่มที่อยู่ในท่าคุกเข่าซ้อนกันกับเธออยู่ทางด้านหลัง ซึ่งกำลังกระแทกกระทั้นความดุดันเข้าใส่กลางกายสาวอย่างหนักหน่วง นิ้วเรียวแต่งแต้มด้วยเล็บเจลจิกลงบนเนื้อหนังของเบาะรถสีแดงเพลิงจนกลัวว่ามันจะขาดติดเล็บของลัลน์ลลิตออกมาด้วย
เพราะความเมาจุดประกายอารมณ์ของทั้งคู่ ความเร่าร้อนจึงเกิดขึ้นโดยต่างฝ่ายต่างตกลงกันว่าให้ทุกอย่างสิ้นสุดลงแค่ตรงนี้
‘คืนนี้ฉันเหงา อยากวันไนท์กับคุณ’
คนตัวโตลากลิ้นแฉะไปตามแผ่นหลังขาวเนียน ราวกับจะกลืนกินเธอลงไปทั้งตัว มือหนาบีบเคล้นอยู่บนหน้าอกอวบอิ่ม แต่ช่วงล่างไม่ได้ช้าลงแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว เขาบีบอัดความใหญ่โตเข้าใส่เธอจากทางด้านหลัง เน้นๆ หนักแน่นและสุดลำทุกครั้ง
"อ๊า...อย่าให้หลังฉันมีรอยนะ"
จากเสียงครางหวานกลายเป็นตวาดใส่เขาเสียงเขียว เมื่อรับรู้ว่าชรัญธรกำลังขบเม้มปากหนาลงบนแผ่นหลังขาวเนียนของเธอ เธอไม่ชอบให้ใครมาทำร่องรอยเหมือนกันเป็นเจ้าข้าว เจ้าของลงบนตัวเธอทั้งนั้น
พวกเขาไม่มีสิทธิ์
"อืม..."
ชรัญธรยอมรับว่าผู้หญิงตรงหน้าเป็นคนง่ายๆ ไม่ต้องพูดอะไรมากเขาก็ได้กินแล้ว
ทว่า...หากเขาทำให้เธอไม่พอใจ เธอก็พร้อมจะไล่เขาลงไปได้ตลอดเวลา
"อ๊า...ซี้ด แน่นมาก"
คงเป็นขนาดของเขาที่ใหญ่มากด้วยทำให้ร่องรักของเธอคับแน่นจนอึดอัก ทว่ากลับยั้งเอวสอบให้หยุดขยับไม่ได้เลยสักวินาที
ตับ! ตับ! ตับ! ตับ!
"อ๊า แรงๆ อีก สิคะ อ๊ะ! อ๊ะ! ฉันจะเสร็จ"
"คุณนี่ฮีทสุดๆไปเลยนะครับคนสวย อืม..."
ชรัญธรโน้มเข้าหาแผ่นหลังขาวเนียน วางมือข้างหนึ่งลงบนกลีบกุหลาบอวบนูนไร้เส้นขนของเธอ จากนั้นก็จัดการละเลงติ่งทับทิมสีแดงช้ำของเธอเบาๆ สลับกับแก่นกายที่กระแทกเข้าใส่เธอไม่ยั้งจากทางด้านหลัง
นับว่าเป็นประสบการณ์ขย่มหอยบนรถที่ไม่เลวเลยทีเดียว สถานที่แปลกใหม่ยิ่งทำอารมณ์ของเขาพลุ่งพล่านมากขึ้น ก็คนตรงหน้าทั้งสวยทั้งหุ่นดี ผิวกายของเธอนวลเนียนจนแทบจะหารูขุมขนไม่เจอ ลูบคลำไปที่ไหนก็นุ่มนิ่มไปหมด
และเธอก็แซ่บซ่านจนถึงทรวง เขาอยากจับเธอกระแทกไปยาวๆ ยันสว่างเลย
"อ๊ะ..อ๊า...สะ...เสียวมาก ...อ๊า..."
ร่างเล็กกระตุกเกร็งอย่างหนัก เมื่อถูกเล่นงานปุ่มกระสันและถูกบีบอัดอย่างถี่ยิบ ไม่นานเธอก็ปลดปล่อยสายธารน้ำรักออกมาพร้อมๆ กันกับหนุ่มลูกครึ่ง ที่พ่นน้ำสีขาวขุ่นเข้าใส่เกาะป้องกันจนหมดทุกหยาดหยด
บ๊อก!
ลัลน์ลลิตรีบเคลื่อนสะโพกออกทำให้แก่นกายขนาดใหญ่ของชรัญธรหลุดออกจากช่องทางรักของเธอ ทั้งๆ ที่อารมณ์ของชายหนุ่มยังคงคุกรุ่นอยู่
"เสร็จแล้วก็ลงไปจากรถของฉันได้แล้ว"เธอออกคำสั่ง ปนขับไล่
"อ้าว! รีบไล่จังเลยคุณ"
ชรัญธรที่กำลังรูดถุงยางออกจากแก่นกายเงยใบหน้าชื้นเหงื่อขึ้นถาม แต่เห็นสีหน้าไม่สบอารมณ์ของเธอก็ไม่อยากซักไซ้อีก
"ฉันง่วง อยากกลับแล้ว"
"อืม ขับรถดีๆ นะ"
ทั้งสองต่างฝ่ายต่างสวมเสื้อกันอย่างเร่งรีบ พอชรัญธรก้าวลงจากรถ ซูเปอร์คาร์คันหรูก็บึ่งออกจากผับไปอย่างรวดเร็ว
"นี่เราทำอะไรลงไปวะเนี่ย"
ลัลน์ลลิตพึมพำคนเดียว ไม่รู้ทำไมทุกครั้งที่เธอฮีทสุดจนทะยานสู่ปลายฝัน ทุกอย่างจบลงเธอกลับรู้สึกหงุดหงิด ฉุนเฉียวไม่อยากคุยกับคู่ต่อสู้ เหมือนสมองอีกด้านก่นด่าว่าเธอกำลังทำสิ่งที่ไม่ควรทำ ละอายใจ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นสมองอีกฝั่งสั่งให้เธอโหยหาใครสักคนเพื่อเข้ามาเติมเต็มในแต่ละค่ำคืน
"ไม่น่าเลยลัลน์ ช่างเถอะๆก็แค่คนแปลกหน้า"
คงไม่เป็นไรหรอกเพราะที่นี่คือหัวหิน เธอไม่ใช่คนในพื้นที่สักหน่อย โอกาสที่จะพบกับเขาคนนั้นอีกครั้งก็เท่ากับศูนย์