หนึ่งมิตรชิดใกล้รัก 5 ดีล
ในขณะที่ท่านประธานโจฮันและญารินดากำลังคุยกันอยู่นั้นประตูก็ได้เปิดออก ร่างสูงสมส่วนขายาวๆของดอมินิกจึงเดินเข้ามาด้วยท่าทางสง่างามก่อนจะมาหยุดที่ข้างหน้าของทั้งสอง
"ผมมาแล้วครับพ่อ"
"อืม นั่งลงก่อนสิ" ดอมินิกนั่งลงที่โซฟาข้างๆกับญารินดา
"ที่ท่านประธานบอกจะให้หนูสอนหนังสือลูกของท่านประธาน ลูกที่ว่าคือ เอ่อ...คนนี้หรือคะ" เธอชี้ไปที่ดอมินิกอย่างเก้ๆกังๆ
"ใช่นี่คือดอมินิกลูกชายฉันเอง"
"เอ่อ...หนูว่าท่านไม่ลองจ้างอาจารย์เก่งๆหรือติวเตอร์ของวิชานั้นๆมาละคะ หนูเกรงว่าหนูจะทำไม่ได้ดีพอ" ตอนแรกญารินดาเธอนึกว่าจะให้เธอมาสอนหนังสือเด็กเล็กๆแต่ที่ไหนได้กลับเป็นเขาคนนี้คนขี้วีนที่เอาแต่ใจคนนี้นี่เอง
"ฉันเห็นผลการเรียนของหนูแล้วนะ หนูมีผลการเรียนที่ดีมากดังนั้นฉันจึงรบกวนให้หนูช่วยในการติวหนังสือให้กับดอมินิกด้วยไงล่ะ เพราะบางวิชาเขาทำได้ออกมาไม่ค่อยดีเท่าไหร่"
"ยัยแว่นนี่ครับที่พ่อบอกจะให้มาติวให้ผม "
"เรียกพี่เขาดีๆหน่อยดอม เธอชื่อญารินดาหรือจะเรียกเธอว่าญาดาก็ได้ ญารินดาจะมาติวให้แกในช่วงเสาร์อาทิตย์แค่ครึ่งวันแต่ช่วงเย็นในวันจันทร์ถึงศุกร์หลังจากที่แกเลิกเรียนแล้วพ่อจะให้แกมาฝึกงานกับญารินดาเช่นกัน"
" แล้วทำไมผมต้องฝึกกับยัยแว่นนี้ด้วยล่ะครับพ่อ พนักงานคนอื่นมีตั้งเยอะตั้งแยะ แถมยัยนี่ก็เป็นพนักงานใหม่ไม่ใช่เหรอจะเอาอะไรมาสอนผมอ่ะ"
"ญารินดาเขาเก่ง ช่วงสามเดือนที่ผ่านมานี้ญารินดาเรียนรู้งานกับเคธี่เลขาของพ่อได้ไวมากเธอทำได้ทุกอย่างเหมือนเคธี่เลย"
"แต่ผมไม่อยากให้ยัยนี่สอนนิ่ครับ พ่อเปลี่ยนคนใหม่ไม่ได้เหรอทำไมต้องเป็นยัยนี่ด้วย"
" มันมีหลายเหตุผลที่พ่อบอกแกตอนนี้ไม่ได้เอาเป็นว่าแกต้องติวหนังสือและฝึกงานกับญาดา และถ้าแกไม่ทำตามที่ฉันบอกต่อไปบัตรเครดิตของแกจะใช้ไม่ได้สักใบเลย หรือแกจะลองดูไหมล่ะ"
"เห้อ! ถ้าพ่อบังคับขนาดนี้ผมจะทำไงได้ล่ะ งั้นเริ่มสัปดาห์หน้าเลยใช่ไหมครับ"
"เริ่มวันนี้เลย"
"ห่ะ! วันนี้?"
"ใช่"
"ผมยังไม่ทันได้เตรียมตัวเลยนะครับ"
"แกจะต้องเตรียมตัวอะไรอีก ตามญารินดาไปที่โต๊ะทำงานของเธอเลย" พูดจบท่านประธานโจฮันก็ลุกขึ้นเต็มความสูงแล้วเดินออกจากห้องไปโดยไม่ได้สนใจเสียงโอดครวญของลูกชายคนเล็กเลย
"เชิญทางนี้ค่ะคุณดอมินิก" ญารินดาผายมือก่อนจะเดินนำหน้าเขาไปที่ห้องทำงานของตนเอง
ญารินดาเป็นเด็กฝึกงานก็จริงแต่เธอได้เซ็นให้เป็นพนักงานของบริษัทต่อเลย ส่วนเรื่องงานหญิงสาวได้ทำในตำแหน่งเลขาอีกคนของท่านประธานดังนั้นเธอจึงมีห้องทำงานเป็นของตัวเอง
ดอมินิกได้เดินตามญารินดาไปแบบไม่สบอารมณ์เท่าไหร่แต่เขาก็ต้องจำใจมาเพราะมันเลี่ยงไม่ได้จริงๆยิ่งตอนนี้เขาจำเป็นจะต้องใช้เงินในการจีบสาวเขาก็ต้องทำตามที่พ่อของเขาบอกทุกอย่าง
"กองนี้ค่ะเอกสารที่คุณจะต้องเรียนรู้ เย็นนี้คุณดูเฉพาะกองนี้ไปก่อนวันหลังเดี๋ยวฉันเอามาให้อีกค่ะ" ญารินดายกแฟ้มเอกสารห้าหกแฟ้มมาให้เขาดู
"ดูแล้วคุณมีอะไรสงสัยหรือไม่เข้าใจตรงไหนสอบถามฉันได้เลยนะคะ เดี๋ยวฉันขอเคลียร์เอกสารตรงนี้สักครู่ค่ะ" เธอเดินกลับมาที่โต๊ะของตนเองก่อนจะเปิดแฟ้มที่เหลือ
"เธออยู่ประเทศอะไร" ดอมินิกถามขึ้นมาดื้อๆซึ่งมันไม่เกี่ยวกับงานเลย คำถามของเขาอาจทำให้เธองงเล็กน้อยแต่หญิงสาวก็ยอมตอบคำถามเขาแต่โดยดี
"ฉันอยู่ประเทศไทยค่ะ"
"เมลานี ฉันหมายถึงมีนีนหน่ะก็อยู่ประเทศเดียวกับเธอใช่ไหม"
"ใช่ค่ะ"
"อืม...ดี"
"ดี? คืออะไรคะคำว่าดีของคุณ"
"ฉันจะยอมเรียนรู้งานกับเธอแต่โดยดีแต่จะมาเฉพาะวันอังคารกับวันพฤหัสบดี ส่วนเสาร์อาทิตย์ฉันก็จะยอมให้เธอติวให้แต่เดี๋ยวจะแจ้งอีกทีว่าจะเป็นช่วงไหน แต่ฉันมีข้อแม้"
"ข้อแม้อะไรคะ"
"ฉันกำลังจีบเมลานีและเธอต้องช่วยฉันในภารกิจนี้ แลกกับการติวหนังสือและการเรียนรู้งานของฉัน โอเค้"
"ไม่อ่ะ ทำไมฉันต้องช่วยคุณถ้าคุณไม่อยากเรียนรู้งานไม่อยากติวหนังสือมันก็เรื่องของคุณ เพราะมันคือชีวิตคุณเอง คุณไม่ทำก็ดีฉันก็จะได้ไม่เหนื่อย"
"อ้าว! ยัยแว่นนี่ฉันจะบอกพ่อว่าเธอไม่เต็มใจที่สอนงานและไม่อยากติวหนังสือให้ฉันและฉันคิดว่าพ่อก็คงเชื่อในสิ่งที่ฉันบอก"
"นี่คุณ!" เธอได้แต่ยืนกัดฟันกับความเอาแต่ใจของเขา
"ถ้าเธอไม่ตกลงคงรู้ชะตากรรมชีวิตของตัวเองนะ"
"ช่วยคุณจีบคุณมีนีนฉันต้องทำอะไรบ้างล่ะ"
"ตอนนี้ยังไม่มีอะไร แต่ต่อไปไม่แน่เธอเป็นคนประเทศเดียวกันกับเมลานีเผื่อฉันมีอะไรสงสัยจะได้ถามเธอได้"
"อืม...ก็ได้ถ้าฉันยอมช่วยคุณจีบสาวคุณก็จะต้องตั้งใจเรียนและฝึกงานนะ" ถ้าเขายอมจะทำตามที่ตกลงกันมันก็เป็นการดีต่อเธอเพราะรายได้จากการสอนงานกับติวหนังสือให้กับดอมินิกนั้นท่านประทานให้หญิงสาวเพิ่มเป็นสามเท่าของเงินของเธอเลย และเงินที่ได้นั้นมันก็ไม่ไปไหนนอกจากส่งไปให้ยายใช้ทำการเกษตรและเป็ทุนการศึกษาของวัชน้องชายของเธอ
"ได้สิ เราต่างคนต่างได้ฉันพร้อมดีล"
"โอเคดีลค่ะ"
"แต่วันนี้ฉันนัดเพื่อนจะไปแข่งรถกันขอตัวก่อนนะ"
"ไม่ได้นะคะ คุณต้องเช็ค ทำความเข้าใจและอ่านเอกสารห้าแฟ้มนี้ให้เสร็จก่อน"
"ฉันไม่ได้ขออนุญาตเธอแค่แจ้งให้ทราบ เดี๋ยววันจันทร์ฉันเข้ามาอีกและสัปดาห์หน้าฉันจะเข้าออฟฟิศสามวันเลย บายนะ....ญารินดา" ดอมินิกเดินออกจากห้องของญารินดาไปทันทีโดยไม่เปิดโอกาสให้หญิงสาวได้โต้ตอบแม้แต่น้อย
"งั้นฉันไปด้วยหลังจากแข่งรถเสร็จคุณต้องเช็คงานพวกนี้" ญารินดาพูดขึ้นก่อนจะหอบแฟ้มเอกสารทั้งห้าพร้อมกับหยิบกระเป๋าสะพายใบเล็กของตนเองแล้ววิ่งตามดอมินิกไป
ในขณะที่ดอมินิกกำลังสตาร์ทเครื่องประตูรถอีกข้างก็ถูกเปิดออกแล้วร่างบอบบางของญารินดาก็นั่งลงที่เบาะข้างๆคนขับทันที
"เฮ้! อะไรของเธอนี่ยัยแว่นขึ้นมาบนฉันทำไมลงไปเดี๋ยวนี้นะ"
"ไม่! ถ้าคุณจะไปแข่งรถฉันก็จะไปด้วยฉันก็จะรอจนกว่าคุณจะแข่งรถเสร็จ"
"ลง ไป เดี๋ยว นี้ยัยเฉิ่ม" ดอมินิกพูดเน้นออกมาทีละคำบ่งบอกว่าเจ้าตัวเริ่มไม่พอใจ
"ไม่ค่ะ อ่อทุกอย่างฉันบันทึกเสียงไว้หมดแล้วถ้าท่านประธานได้ยินคุณคิดว่าท่านจะเชื่อใครล่ะ"
"ยัย...ยัยบ้าเอ้ย" คำขู่ของเธอได้ผลเสียด้วยทำให้ดอมินิกสตาร์ทรถทันทีแล้วเหยียบคันเร่งสุดแรงออกไปเพราะความโมโห
"ว้าย! เบาๆหน่อยสิคุณ"
"อย่ามาสั่งฉันถ้ากลัวก็ลงไป รู้ไหมเธอทำฉันเสียเวลามามากพอแล้วถ้าฉันไปถึงสนามแข่งสายเธอตายแน่ยัยแว่น" ดอมินิกหันมาบอกเธอก่อนจะกดคันเร่งลงอีก
ในระหว่างทางที่ดอมินิกขับรถมายังสนามแข่งนั้นคนที่นั่งข้างๆเขานั้นเธอก็ได้กรี๊ดมาตลอดทางเพราะชายหนุ่มขับรถเร็วมาก ทั้งเสียงท่อไอเสียที่ดังกระหึ่มบวกกับพลังของเครื่องยนต์ของรถซุปเปอร์คาร์แล้วมันทำให้ญารินดารู้สึกว่าตนเองเหมือนคนที่กำลังเหาะอยู่กลางอากาศก็ไม่ปาน
สนามแข่งรถ....
ดอมินิกจอดรถไว้ตรงลานจอดรถก่อนจะรีบลงจากรถไปที่พิท ญารินดาเห็นแบบนั้นเธอก็ไม่รอช้าหอบเอกสารวิ่งตามชายหนุ่มทันที
"มึงมาช้าจังวะดอม" หนึ่งในกลุ่มเพื่อนของดอมินิกพูดขึ้นมา
"กูติดธุระนิดหน่อยเลยเลท"
"อ้าว! แล้วนั่นใครมาด้วยวะ" ฟาบิโอเพื่อนสนิทของดอมินิกถามขึ้นพร้อมกับชี้นิ้วไปทางญารินดาที่ยืนหอบหายใจอยู่นั้นเพราะเธอต้องรีบวิ่งตามให้ทันดอมินิก
"พนักงานของพ่อกูเอง ไม่ต้องไปสนใจ"
"เออๆงั้นมึงรีบๆเปลี่ยนชุดจะได้มาเช็ครถ"
"อืม"
ในขณะที่ดอมิกนิกกำลังเดินเข้าห้องไปเปลี่ยนชุดนั้นญารินดาเธอไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องนั่งตรงไหน เพราะในพิทนั้นมันมีที่นั่งจำกัดอีกทั้งตอนนี้เธอก็หอบเอกสารมาด้วยและมันก็เริ่มหนักขึ้นมาเรื่อยๆเมื่อถือไว้นานๆหญิงสาวจึงจำต้องวิ่งตามดอมินิกเข้าไปในห้องแต่งตัวอีก