หนึ่งมิตร 4 คนที่ทำให้หัวใจเต้นแรง

1683 คำ
หนึ่งมิตรชิดใกล้รัก 4 คนที่ทำให้หัวใจเต้นแรง ในขณะที่สองสาวกำลังสนทนาคุยกันกับเกี่ยวกับประวัติของตนเองอยู่นั้นดอมินิกที่ยืนดูทั้งสองคนสนทนากันอยู่อดไม่ได้ที่จะเดินเข้ามาทักทาย เพราะเขาสนใจในตัวของสาวสวยอีกคนตั้งแต่แรกที่เห็นหน้าห้องน้ำในผับแล้ว "ขอโทษที่เข้ามาขัดจังหวะนะครับ" ชายหนุ่มกล่าวออกไปโดยสายตายังคงจ้องมองอยู่ที่สาวสวยอย่างมีนีนไม่วางตา "คะ?" " ผมอยากจะมากล่าวคำขอโทษ คุณ....เอ่อ...คุณผู้หญิงอ่ะครับ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้" "อืมค่ะ เรียกฉันว่าเมลานีก็ได้ค่ะ" เมลานีกล่าวขึ้น "ครับผมดอมินิกครับ ผมต้องขอโทษมากๆนะครับที่คุณต้องมาเจออะไรแบบนี้" ดอมินิกกล่าวออกมา เขายืนคุยกับเมลานีโดยไม่สนใจผู้หญิงอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆนั้นเลย " ค่ะฉันก็ตกใจไม่น้อย ฝรั่งเศสขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่น่าอยู่ความปลอดภัยเป็นเลิศ แต่ฉันกลับมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ฉันคงต้องคิดอีกทีล่ะค่ะว่าจะให้พ่อย้ายกลับไปที่อื่นดีไหม" " ไม่ทราบว่าคุณเมานีมาทำอะไรที่ฝรั่งเศสเหรอครับ" " ฉันย้ายตามคุณพ่อมาค่ะ มาเรียนหนังสือที่นี่ที่มหาวิทยาลัยFPUส่วนพ่อของฉันทำงานที่นี่เป็นเอกอัครราชทูตประจำกรุงปารีสค่ะ" "โอ้...วิเศษมากเลยครับผมก็เรียนที่นั่นเหมือนกัน จะเป็นไปได้ไหมถ้าผมอยากจะรู้จักคุณเมลานีให้มากขึ้นกว่านี้" "อืม...ได้ค่ะแต่เอาไว้เจอกันที่มหาวิทยาลัยนะคะ" "โอเคครับ ผมจะรอ แล้วนี่กลับยังไงครับ" " ฉันมากับเพื่อนค่ะแต่ว่าตอนนี้เพื่อนคงจะกลับไปแล้วตั้งแต่เกิดเหตุแล้วมั้งคะ คิดว่าจะโทรให้คนของคุณพ่อให้คนมารับกลับค่ะ" " อ้าว! แล้วคนที่ยืนอยู่ข้างๆนี้ไม่ใช่เพื่อนของคุณเมลานีเหรอครับ" ดอมินิกปรายตาไปมองญารินดา เขาคับคล้ายคับคลาใบหน้าของเธออยู่เช่นกันแต่ก็จำไม่ได้ว่าเคยเจอเธอที่ไหน " อ๋อ พี่ญาดาเหรอคะเราเพิ่งรู้จักกันที่นี่ตอนที่ถูกจับนี่แหละค่ะพอดีเราเป็นคนประเทศเดียวกันเลยค่อนข้างคุยกันถูกคอด้วย" "อ่อ ครับ" ญารินดาได้แต่ยืนฟังแบบนิ่งๆเธอนึกว่าตอนแรกเขามองไม่เห็นเธอด้วยซ้ำเพราะว่าเขาเอาแต่คุยกับเมลานี แต่หญิงสาวก็ไม่ได้ที่จะอยากรู้จักกับเขาแต่อย่างใดเพราะผู้ชายคนนี้คงจะเป็นพวกไฮโซลูกคนรวยแถมนิสัยขี้วีนชอบหาเรื่องแบบนี้เธอไม่อยากรู้จักให้มันรกสมองอยู่แล้ว หลังจากคุยกันเสร็จเรียบร้อยแล้วญารินดาขอตัวกลับบ้านเพราะแคลร์โทรมาหาและบอกว่ารอเธออยู่หน้าสถานีตำรวจเรียบร้อยแล้ว "ฉันกลับแล้วนะคะคุณมีนีน" "ค่ะโชคดีค่ะ ไว้แชทคุยกันนะคะพี่ญาดา" "ค่ะ" หลังจากที่ญารินดากลับบ้านไปพร้อมกับแคลร์แล้ว ตอนนี้ที่สถานีตำรวจก็จะเหลือเฉพาะดอมินิกและเมลานีที่รอคนของพ่อเธอมารับ ส่วนดอมินิกนั้นเขาได้ยืนรอเป็นเพื่อนเมลานี "นี่ก็รอคนของพ่อคุณนานแล้วทำไมยังไม่เห็นมา ให้ผมไปส่งไหมครับ" ดอมินิกเสนอขึ้นมา "อืม....ก็ได้ค่ะ งั้นรบกวนด้วยนะคะ" "ยินดีครับ" เมลานีรอไม่นานรถสปอร์ตคันหรูก็มาจอดเทียบหน้าสถานีตำรวจก่อนชายหนุ่มลงมาเปิดประตูให้กับเมลานีได้ขึ้นไปนั่งข้างๆ ในขณะที่ทั้งสองนั่งรถไปด้วยกันดอมีนิกสอบถามเส้นทางบ้านของเธอก่อนจะชวนเมลานีคุยเรื่องต่างๆนานา เขาคุยเกี่ยวกับชีวิตของเธอตอนที่อยู่เมืองไทย และอนาคตที่เธอหลังจากมาเรียนที่นี่ และอีกเรื่องก็คือเขาได้ถามเกี่ยวกับสถานะหัวใจของหญิงสาว และคำตอบมันก็เป็นใจสำหรับดอมีนิก คือเมลานียังไม่มีแฟน มันให้คนที่รอฟังอย่างเขาถึงกับหัวใจเต้นแรงรู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้นมาทันที ดอมีนิกเป็นหนุ่มหล่อรวยเฟอร์เฟคและค่อนข้างเพลย์บอย ในมหาวิทยาลัยที่เขาอยู่นั้นเขาไม่เคยที่จะสนใจใครก่อนมีสาวๆมากมายมาให้เขาควงไม่ซ้ำหน้าเขานอนกับหญิงไม่ซ้ำแต่มาวันนี้เขากลับสนใจผู้หญิงเอเชียคนหนึ่ง ที่เธอดูสวยสง่า เธอทำให้เขาลืมผู้หญิงทุกคนที่ผ่านมาในชีวิตเขาไปทันที " ขอบคุณที่มาส่งนะคะ" เมลานีกล่าวขอบคุณชายหนุ่มหลังจากรถหรูจอดเทียบรั้วบ้านของเธอ " ด้วยความยินดีครับ" "งั้น ฉันขอตัวเข้าบ้านก่อนนะคะบ๊ายบายค่ะ" "ครับบ๊ายบาย วันจันทร์เจอกันที่มหาวิทยาลัยนะครับ" "ค่ะ ขับรถกลับดีๆนะคะ" "ครับ" ในระหว่างทางที่โดมินิคขับรถกลับบ้านเขาอดยิ้มให้กับใบหน้าที่เขากำลังคิดถึงอยู่ตอนนี้ไม่ได้ภาพของเธอลอยเต็มหน้าเขาไปหมดความรู้สึกนี้มันเพิ่งเคยเกิดกับเขาจริงๆ ดอมินิกไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นแบบนี้ได้ ตั้งแต่เกิดมาในชีวิตเขาไม่เคยคิดที่จะสนใจผู้หญิงเอเชียเลยสักครั้ง เพราะเขาคิดว่าผู้หญิงเอเชียค่อนข้างตัวเล็กและอะไรต่อมิอะไรก็คงเล็กเช่นกันและคงไม่เหมาะกับเขาเป็นแน่ อีกทั้งชายหนุ่มคิดเอาเองว่าสาวเอเชียค่อนข้างอ่อแอไม่ค่อยแข็งแรงแต่พอมาเจอกับเมลานีเธอเป็นผู้หญิงที่ทำให้เขาคิดว่าผู้หญิงเอเชียเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์และน่าสนใจมาก เวลาผ่านไป.... หลังจากที่ได้เจอกับเมลานีในวันนั้นชีวิตของดอมินิกก็เริ่มดีขึ้นมาเรื่อยๆ จากที่เคยโดดเรียนบ่อยๆเขาเข้าเรียนทุกคาบใจจดใจจ่อกับผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้เขาเฝ้าตามหาว่าเธอเรียนที่คณะใด เดินผ่านมาตรงนี้ตอนไหนบ้าง และในช่วงสิบวันมานี้เขาเจอกับเมลานีทุกวันและได้พูดคุยกับเธอมากขึ้นดังนั้นเพื่อเป็นการสานความสัมพันธ์กับเธอชายหนุ่มจึงหวังจะเซอร์ไพรส์โดยการสั่งดอกไม้ช่อใหญ่มาให้เธอแต่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นบัตรเคดิตที่เขาจะรูดเพื่อจ่ายค่าดอกไม้นั้นวงเงินไม่เพียงพอ และเมื่อเขาได้เช็คไปที่ธนาคารจึงได้ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นมันจึงทำให้เขาต้องยอมเข้าบริษัทไปหาพ่อเพื่อตกลงเจรจาบางอย่าง วันนี้หลังจากเลิกเรียนดอมินิกเข้ามาในบริษัทตามที่พ่อเขาขอมา ขายาวก้าวเดินเข้ามาข้างในก่อนจะกดและรอลิฟท์เพื่อขึ้นไปชั้นผู้บริหาร ในขณะที่ลิฟท์เปิดชายหนุ่มได้ก้าวเข้าไปข้างในเขาต้องชะงักเมื่อเจอกับใครบางคนที่กำลังยืนหอบแฟ้มเอกสารอยู่ "เฮ้! นี่เธอ" "เอ๊ะ! นาย" ญารินดาก็ชะงักเช่นกันที่เจอเขาที่นี่ ตั้งแต่วันมีเรื่องที่ผับเธอก็ไม่เคยเจอเขาอีกเลย "เธอคนที่ฉันเจอที่สถานีตำรวจนี่ใช่ไหม? เธอทำงานอยู่ที่นีเหรอ" "ใช่ แล้วนายล่ะมาทำอะไรที่นี่" ญารินดาถามกลับตามมารยาทเช่นกัน "มันเรื่องของฉัน" แต่คำตอบที่ได้ทำเอาญารินดาถึงกับหงายเงิบ เธอเป็นคนมีมารยาทหรอกถึงได้ถามเขาไปแบบนั้น แต่เมื่อเจ้าตัวไม่อยากจะสนทนาต่อญารินดาจำจึงต้องขยับยืนชิดข้างในแล้วหันหน้าหนี "ชิ! ไอเด็กบ้า" เธอสบถออกมาเป็นภาษาไทย เมื่อลิฟท์ถึงชั้นสูงสุดแล้วมันคือชั้นของผู้บริหารทั้งญารินดาและดอมินิกต่างพากันเดินออกมาพร้อมๆกัน ญารินดาสงสัยว่าชายหนุ่มมาทำอะไรที่ชั้นนี่ ถ้าเป็นพนักงานคงไม่ใช่เพราะยังดูเด็กอยู่ หรือว่าจะเป็นนักศึกษาฝึกงานแต่เธอก็ได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ ถ้าถามออกไปคำตอบที่ได้ก็คงเป็นคำตอบที่กวนประสาทเธออยู่ดี ญารินดาเดินเข้าไปในห้องของท่านประธานส่วนดอมินิกนั้นเดินไปอีกฝั่ง "มาเข้าห้องน้ำถึงขั้นต้องมาเข้าที่ชั้นของผู้บริหารเลยเหรอเนี่ย" หญิงสาวพูดขึ้นลอยๆมองตามหลังร่างของดอมินิกที่เดินเข้าห้องน้ำไป "สวัสดีค่ะท่านประธาน ท่านเรียกหนูมามีอะไรหรือคะ" ญารินดาวางแฟ้มเอกสารไว้บนโต๊ะตรงโซฟารับแขกก่อนจะเดินมา กล่าวคำทักทายท่านประธานอย่างโจฮัน "หนูนั่งลงก่อนนะ ที่ฉันเรียกหนูมาวันนี้ ฉันมีธุระที่จะให้หนูช่วยบางอย่าง" โจฮันลุกจากเก้าอี้ทำงานแล้วเดินมานั่งที่โซฟา " เรื่องงานหรอคะท่าน" "อืม...จะว่าใช่ก็ใช่" "ค่ะ ท่านมีอะไรให้หนูรับใช้บอกมาได้เลยค่ะหนูยินดี" " คืองี้นะ นอกเหนือจากงานในบริษัทที่หนูจะได้รับผิดชอบแล้วฉันมีงานบางอย่างให้หนูทำและฉันก็จะให้ค่าแรงหนูเพิ่มเท่าตัวเลย" "งานนอกเหนือจากงานในบริษัทหรือคะ....เอ่อ...ไม่ผิดกฎหมายใช่ไหมคะท่าน" "ฮ่า ฮ่า ใช่ๆไม่ผิดกฎหมายมันคือการติวหนังสือให้ลูกฉันเอง" "อ๋อ ค่ะน้องอายุเท่าไหร่คะ แล้วเรียนอยู่ชั้นไหน" หญิงสาวยิ้มอย่างอายๆกับประโยคที่ตนพูดออกไป
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม