หนังสือซุนกง

919 คำ
เจิ้นซูมองเจิ้นหยวนแบกเสวี่ยอีพาดบ่า ร่างเล็กบอบบางสะบักสะบอมไม่น้อย ใบหน้าบูดบวมแทบมองไม่เห็นเค้าความงาม บุรุษทั้งสองเป็นบุตรแม่ทัพเจิ้นซีเยี่ย บิดาของเจิ้นซูและเจิ้นหยวนทั้งห้าวหาญกล้าแกร่ง มีเส้นสายในราชสำนัก เจิ้นซูทำการค้ามีกิจการหลายประเภท ส่วนเจิ้นหยวนเปิดกิจการโรงหมอ เป็นแพทย์หนุ่มฝีมือฉกาจที่เพิ่งสอบได้ตำแหน่งจอหงวน เจิ้นหยวนมีบุคลิกอย่างนักปราชญ์ ดูสุขุมลึกลับเหมือนบัณฑิตเคร่งศีลธรรมแต่ใช้ชีวิตเสพสุขอย่างนักรัก เขามีสตรีอุ่นเตียงมากมาย เขาเคยบอกน้องชายว่าการเสพสัมพันธ์กับสตรีนับเป็นการฝึกฝนร่างกายชนิดหนึ่ง ร่างบอบบางถูกแบกขึ้นบ่าจอหงวนหนุ่มรูปงาม ดวงตาคมกล้าดุดันกวาดสายตามองใบหน้าด้านข้างของเสวี่ยอีแล้วยิ้มน้อย ๆ ภายใต้ผ้าพรางหน้า กลิ่นโลหิตบนแผ่นหลังนางโชยกระทบปลายจมูก นางถูกเรียวไม้ฟาดจนเนื้อแตก คิดแล้วก็เสียดายไม่น้อยที่แผ่นหลังขาวเนียนต้องมีรอยแผล แต่มิใช่เรื่องใหญ่สำหรับเจิ้นหยวน แพทย์หนุ่มผู้มีสติปัญญาเฉลียวฉลาดอันดับหนึ่งในแผ่นดินสามารถรักษานางได้อย่างแน่นอน แต่เรื่องที่เขาต้องไปจัดการหลังจากนี้คือเรื่องแม่เลี้ยงของเสวี่ยอี กับบ่าวรับใช้สองคนที่ทำร้ายนาง สตรีเหล่านั้นรุมทำร้ายคนในครอบครัวเดียวกันได้อย่างเลือดเย็นเขาคงไม่ปล่อยไว้ อย่างน้อยว่าที่ขุนนางอย่างเขาคงต้องขอความเป็นธรรมให้เสวี่ยอีเสียหน่อย แม้ยังไม่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ ตระกูลเจิ้นได้รับม้วนแพรราชโองการให้เจิ้นหยวนเข้าวังเพื่อรับป้ายคำสั่งแต่งตั้งตำแหน่งจอหงวนในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า แม่ทัพเจิ้นซีเยี่ยผลักดันให้บุตรชายรับตำแหน่งขุนนางเพื่อดันอำนาจสายตระกูลเจิ้นให้แข็งแกร่ง เพื่อคานอำนาจองค์ชายอี้หลง องค์ชายสี่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับตระกูลเจิ้นมานาน ข่าวร่ำลือว่าองค์ชายหมายราชบัลลังก์คิดก่อการกบฎจึงต้องกำจัดตระกูลเจิ้นให้พ้นทาง ตระกูลแม่ทัพเจิ้นซีเยี่ยจงรักภักดีต่อราชสำนักเหมือนเป็นปราการด่านหน้าให้กับองค์จักรพรรดิ หากต้องการโค่นล้มราชบัลลังก์ก็ต้องทำให้ตระกูลเจิ้นสั่นคลอนเสียก่อน การที่เจิ้นหยวนสอบได้ตำแหน่งบัณฑิตจอหงวน ทำให้ตระกูลเจิ้นมีอำนาจขึ้นไปอีก องค์ชายอี้หลงคงไม่ชอบใจนักเรื่องตระกูลเซี่ยเรืองอำนาจ เจิ้นซูมองเจิ้นหยวน เมื่อเห็นพี่ชายทำหน้าไม่ทุกข์ร้อน กายสูงใหญ่พาร่างบอบช้ำของเสวี่ยอีเข้าไปในโรงหมอ เจิ้นหยวนเพิ่งอายุยี่สิบห้าปี แต่ฝีมือแพทย์มิเป็นรองผู้ใดในแผ่นดิน หากมิใช่เพราะบิดาคะยั้นคะยอให้ไปสอบโดยมีมารดากดดันเป็นระยะ เจิ้นหยวนมิเคยคิดรองร่างรับใช้ผู้ใดในราชสำนัก แต่เมื่อขัดบิดามารดาไม่ได้ ลองเข้าสอบเพียงปีแรกก็ได้ครอบครองตำแหน่งจอหงวนเสียแล้ว เจิ้นหยวนจึงต้องรับหน้าที่รับใช้ราชสำนักไปตามระเบียบ "จะนำนางไปที่ใด" เจิ้นซูมองเจิ้นหยวนแบกเสวี่ยอีเข้าห้องนอนส่วนตัว "นำไปรักษา" "ในห้องนอนรึ" เจิ้นซูอมยิ้ม ถามด้วยเสียงสูง "หลังจากเลิกจ้างอาลักษณ์คนเก่าเมื่อสองเดือนก่อน ข้ายังไม่ได้แตะต้องสตรีใด" เจิ้นหยวนนำร่างน้อยของนางมาอุ้มไว้แนบอก มองดวงหน้าเสวี่ยอีใกล้ๆ แล้วยิ้มออกมา "กับนางผู้อาภัพเจ้าจะจ้างกี่เดือนกัน" เจิ้นซูหัวเราะ น้องชายเดินไปนั่งที่โต๊ะกลางรินสุราขึ้นจิบ "ยังไม่รู้" "ชีวิตนางคงยิ่งอาภัพยิ่งกว่าเดิม เมื่อเจอบุรุษร้อยรักอย่างเจ้า" "เรียกว่าร้อยลีลาจะดีกว่า" "สตรีเป็นเพียงดอกหญ้าริมทางสำหรับเจ้า" "ความสัมพันธ์ทางกายเหมือนอาหาร กินแล้วก็จบ พอหิวก็กินอีก" เจิ้นหยวนตอบอย่างไม่ยี่หระ เจิ้นหยวนวางเสวี่ยอีลงบนเตียง เริ่มลงมือเปลื้องอาภรณ์นางออก โดยไม่หันไปมองเจิ้นซู "เดี๋ยวก่อน ข้ายังนั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้ จะเปลื้องผ้านางก็เชิญข้าออกไปเสียก่อน" เจิ้นซูร้องขึ้น "ทำเป็นไม่ชิน...เจ้ากับข้าใช้สตรีร่วมกันอยู่เป็นประจำ" "แต่นางยังไม่ใช่สตรีของเจ้า" "เมื่อนางหายดี นางคงไม่รอดมือข้า" เจิ้นซูกระดกสุราอีกหลายจอก ร่างสูงลุกขึ้นยืน ทำหน้ากระอักกระอ่วนเล็กน้อยก่อนก้มหน้างุดเดินออกไป "เชิญเจ้ารักษาว่าที่อาลักษณ์สาวคนใหม่เถิด ข้ามิได้อยากใช้สตรีร่วมกับเจ้า เป็นเจ้าเองเชื้อเชิญข้ามาเพิ่มอรรถรสกิจกรรมรัก" "ข้าชอบอรรถรสทางเพศแบบเร้าอารมณ์" "เจ้ามันหื่นกาม" เจิ้นซูรีบเดินออกไปภายนอกเมื่อเห็นอาภรณ์ของเสวี่ยอีกองอยู่ที่พื้น "งานแรกสำหรับนางคือวาดหนังสือซุนกง โดยมีข้ากับนางเป็นตัวแบบ" เจิ้นหยวนตอบกลั้วเสียงหัวเราะ ในห้องเหลือเพียงแพทย์หนุ่มเจิ้นหยวนกับร่างเปลือยเปล่าของเสวี่ยอี ก่อนทำการรักษา เจิ้นหยวนอยากตรวจตราเรือนกายนางทุกซอกอณูเสียก่อน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม