กลิ่นสมุนไพรหอมกำจายไปทั่วห้องอาบน้ำ เป็นกลิ่นหอมเย็นเคล้ากรุ่นกลิ่นไออวลแห่งการรักษา น้ำยาสีฟ้าเข้มในอ่างอุ่นกำลังดี ร่างเปลือยสองร่างอยู่ในอ่างไม้ใบใหญ่ด้วยกันอย่างไร้อาภรณ์ปกปิด
หากผู้ใดมาเห็นสภาพของบุรุษและสตรีในสภาพล่อแหลม เสวี่ยอีนับว่าเสียหายไปแล้ว ฝ่ายชายมิได้ให้เกียรตินางแม้แต่น้อย แต่สิ่งที่เจิ้นหยวนทำล้วนเป็นสิ่งที่เขาจงใจ
"เจิ้นซู นำยาสมานแผลเข้ามาเพิ่มให้ข้าที" พี่ชายเรียกน้องชายนำยาสมานแผลเข้ามาเพิ่มให้
ห้องของเจิ้นซูอยู่ข้างกัน เจิ้นหยวนจัดห้องพักไว้ให้น้องชายในโรงหมอด้วย ทั้งสองเกิดห่างกันเพียงหนึ่งปีครึ่ง เป็นพี่น้องที่นับว่าสนิทกันยิ่งนัก บางครั้งพวกเขายังร่วมกิจกรรมรักกับสตรีเดียวกันอีกด้วย จึงไม่แปลกที่สองพี่น้องจะสนิทชิดเชื้อกันมากกว่าผู้อื่น
เจิ้นซูเดินอาภรณ์หลุดลุ่ยเข้ามาในห้องอาบน้ำ เป็นเจิ้นหยวนตระคองกอดร่างเปลือยของเสวี่ยอีไว้กับแผงอก นางนั่งพิงแผ่นอกเจิ้นหยวนอยู่ แขนแกร่งของพี่ชายสอดไว้เอวบางคอดของนาง เสวี่ยอียังสลบไสลไม่ได้สติ เจิ้นซูได้โอกาสจึงปรายตามองสำรวจอย่างรวดเร็ว
เจิ้นซูเห็นเรือนร่างนางลาง ๆ ในอ่างอาบน้ำ นับว่าสตรีอาภัพผู้นี้ซ่อนรูปยิ่งนัก อกอวบใหญ่พ้นปริ่มน้ำทำให้เจิ้นซูถึงกับกลืนน้ำลาย
"ห้ามมองนาง" เจิ้นหยวนกระดกขวดสุราทำจากระเบื้องเคลือบ สายตาจ้องมองน้องชายของตนผู้กำลังเทยาสมานแผลใส่ในอ่างไม้ใบใหญ่
"หวงรึ กับสตรีอื่นมิเห็นว่าเคยใส่ใจ" เจิ้นซูประหลาดใจ สตรีอื่นสำหรับเจิ้นหยวนนับเป็นสิ่งไร้ความสำคัญราวกับมดปลวก
"เปล่า"
เจิ้นหยวนดื่มสุราเข้าไปอีกหลายอึกแล้วหยิบยาเม็ดหนึ่งหย่อนเข้าปากละลายไปกับสุราที่อมไว้ ปากกระจับสีระเรื่อบดเบียดลงบนกลีบปากนุ่มของเสวี่ยอี มือหนาบีบกราบนางค้างไว้บังคับให้อ้าปากกลืนสุราผสมยาเข้าไป เจิ้นซูมองภาพการป้อนยาอย่างถึงเนื้อถึงระหว่างเจิ้นหยวนกับว่าที่อาลักษณ์สาวคนใหม่ ทำให้เจิ้นซูรู้สึกกระอักกระอ่วนไม่น้อย
นางจะอยู่ที่นี่ได้นานอีกเท่าใดกัน
"เจ้าให้คนไปแจ้งที่จวนสกุลเปาหรือยัง ว่าเสวี่ยอีอยู่ที่นี่" เจิ้นหยวนเอ่ยถาม
"เรียบร้อยแล้ว"
"หากเจ้าทำเช่นนี้ เท่ากับหาเหตุอยากรับผิดชอบนาง"
"เดี๋ยวพวกนั้นคงแห่กันมา" เจิ้นหยวนหมายถึงฮูหยินรองสกุลเปากับพวกบ่าวไพร่
"คิดว่าอีกไม่นาน พวกนางคงฟื้นแล้ว คงได้รับข่าวที่ให้ไปแจ้งเรียบร้อย" เจิ้นซูมองเสวี่ยอีหลับคอพับซบอยู่กับซอกคอเจิ้นหยวน ผมเปียกลู่แนบสองเต้าเนื้อตัดกับผิวสีขาวดั่งหิมะแรกเหมันต์ยิ่งชวนให้หันกลับไปมองซ้ำแล้วซ้ำอีก ริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงสดเผยอเล็กน้อย ให้ความรู้สึกเย้ายวนอย่างบอกไม่ถูก
"ห้ามมองนาง" เจิ้นหยวนกล่าวออกมาเป็นครั้งที่สอง
"ทำเป็นหวงไปได้"
เจิ้นซูเดินออกไปภายนอก พยายามหักห้ามสายตาของตนมิให้หันกลับไปมองเสวี่ยอี ว่าที่อาลักษณ์สาวคนล่าสุดคงถูกใจเจิ้นหยวนไม่น้อย เจิ้นหยวนแสดงทีท่าหวงนางจนออกนอกหน้า
เจิ้นหยวนมองเรือนร่างของเสวี่ยอีด้วยความพึงพอใจ อกอวบล้นมือ เอวคอด สะโพกผายงอนงามช่างถูกใจเขายิ่งนัก บัณฑิตหนุ่มตำแหน่งจอหงวนได้แต่เพ่งมองทุกสัดส่วน สำรวจเรือนกายนางด้วยสายตาทุกซอกอณู เหลือเพียงสำรวจด้วยการสัมผัสเท่านั้น
เรือนร่างกลมกลึงหลับใหลอยู่ในอ้อมกอด ทำให้บางสิ่งกลางกายเจิ้นหยวนตื่นขึ้นอย่างมิอาจควบคุมได้ มือหยาบบนเอวคอดเลื่อนไล้ไปบีบคลึงบนสองเต้าแทนที่จะจับกระชับเอวนางเช่นเดิม โนมเนื้อเด้งหยุ่นในอุ้งมือยิ่งเร้าให้เกิดความกระสันกาม
เจิ้นหยวนมองสำรวจเรือนกายนางใต้น้ำ มือบีบคลึงเต้าเนื้อก่อนลากไปยังส่วนสงวนอ่อนไหว สตรีน่าตายยังไม่ตื่นขึ้นมาแม้เขาใช้มือสำรวจสัมผัสนางจนแทบทุกส่วน ผิวเนื้อใต้มือสากให้สัมผัสนุ่มลื่นราวกับกำมะหยี่
เจิ้นหยวนสูดหายใจเข้าลึกเพื่อสะกดข่มราคะในใจตน
นางยังบาดเจ็บอยู่ หาไม่แล้วเขาต้องขยี้นางให้จมเตียงเสียโดยพลัน
เสวี่ยอีได้รับยาผสมสุราเข้าปาก ชั่วเวลาหนึ่งเค่อเปลือกตางามจึงเริ่มขยุกขยิก
"อื้มมม" เสวี่ยอีครางในลำคอ รู้สึกถึงความอุ่นสบายไหลเวียนทั่วร่าง
นางลืมตาตื่นขึ้นในอ้อมกอดของเจิ้นหยวน แขนแกร่งยังโอบเอวนางไว้แน่น เสวี่ยอีมองท่อนแขนล่ำสันโอบรอบเอวนาง ในหัวกำลังทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นางถูกฮูหยินรองกับสาวใช้รุมทำร้าย เหตุใดตนเองจึงฟื้นตื่นมาในอ่างอาบน้ำกับชายแปลกหน้า
ร่างบอบบางดิ้นรน ใบหน้าของนางแสดงอารมณ์ตกใจผสานเกรี้ยวกราด ทำหน้าราวกับแมวน้อยกำลังขู่เจ้าของฟ่อ ๆ
ส่วนเจิ้นหยวนมองนางด้วยสายตาอย่างราชสีห์ล่าเหยื่อ