สองเดือนต่อมา
"ขนม…แกท้องจริงเหรอ?" เสียงถามของฝนเพื่อนสนิทดังขึ้นมาด้วยความตกใจ หลังจากที่ได้ฟังขนมหวานเล่าทุกสิ่งทุกอย่างให้ฟังหมดแล้ว ใช่! มันน่าตกใจมากเลยนะ ถึงจะไม่ใช่เด็กแล้ว แต่สถานการณ์ตอนนี้มันก็ไม่ควรที่จะท้องหรือมีลูกจริงๆ
"อืม…" ขนมหวานตอบสั้นๆ ก้มหน้าลง เหมือนจะหนีสายตาของเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ด้วย
"แล้ว…พ่อของเด็กล่ะขนม…ใช่คนที่แกเคยเล่าให้ฟังรึเปล่า คนที่แกบอกว่า 'เผลอไปมีอะไรด้วยแค่ครั้งเดียว' น่ะ?"
"ก็คนนั้นแหละ ที่คิดว่าเป็นเด็ก..." ขนมหวานว่าแล้วก็ถอนหายใจแรง เพราะความเมาแท้ๆ เธอถึงเผลอใจไปได้ขนาดนั้น บวกกับตัวเองกำลังอกหักด้วย ก็เลยอยากหาอะไรมากระแทกใจให้มันช้ำไปมากกว่านี้
คนเรามันจะเจ็บช้ำ เกือบตายได้สักแค่ไหนกันเชียว!
"ไม่อยากรู้เหรอว่าเขาเป็นใคร?" เพื่อนอีกคนแทรกขึ้น
"ไม่รู้สิ" เธอบอกไม่ถูก ตอนนี้ต่อให้จะตัดสินใจได้แล้วว่าจะเก็บเด็กเอาไว้ แต่ก็ยังหาทางออกไม่ได้เลย เพราะไม่ได้วางแผนชีวิตการมีลูกเอาไว้ตั้งแต่แรก ทุกอย่างมันก็เลยเหมือนมืดแปดด้านขนาดนี้
"แล้วแกจะเอายังไงต่อ เด็กทั้งคนนะเว้ย" ฝนถาม
"ฉัน..."
"ขนม...แกไม่ได้คิดจะทำแท้งใช่ไหม"
คำถามของเพื่อนอีกคนทำให้ทั้งกลุ่มนั้นนิ่งสนิท เหมือนทุกคนกำลังรอคำตอบจากขนมหวาน และคำตอบที่อยากได้ยิน ก็คงจะเป็นคำตอบที่ ไม่ได้จะทำจริงๆ
"เปล่า ฉันไปตรวจมาแล้ว ไม่ได้คิดว่าจะทำหรอก ถึงคิดก็ทำไม่ได้ หมอบอกว่า...เคสของฉันมันไม่เข้าเกณฑ์ ที่จะสามารถยุติการตั้งครรภ์ได้"
"แล้ววันนั้น...แกไม่ได้ป้องกันหรอวะ?"
"ป้องกันสิ แต่ใครจะไปคิดล่ะว่ามันจะพลาด..." ขนมหวานเงียบไป แต่ถึงเธอจะไม่บอกเพื่อนๆ ก็คงจะรู้คำตอบดีอยู่แล้ว
ถ้าใส่ถุงยางแล้วมีอะไรกัน ถ้าเธอท้องขึ้นมาได้ก็มีแค่อย่างเดียว ถุงยางแตก!
"ตามหาผู้ชายคนนั้นไหม"
"เราจะตามยังไงล่ะ"
"กล้องวงจรปิดก็มีไง"
"เดี๋ยวพวกฉันช่วย เผื่อว่าเขาจะช่วยแกได้บ้าง"
เพื่อนๆ กำลังนั่งปรึกษาหารือกัน โดยที่ขนมหวานนั้นยังคงนั่งเงียบ ไม่ได้พูดอะไรกับใคร เครื่องดื่มของหวานที่สั่งมาก็ถูกตั้งวางไว้ที่เดิมจนมันละลายไปจนหมดแล้ว เธอยังไม่แตะสักนิดเลย
"ถ้าเขาไม่รับผิดชอบล่ะ? หรือถ้าเขามีใครอยู่แล้วจะทำยังไง?"
คำพูดนั้นเหมือนค้อนทุบใจ ขนมหวานได้แต่นั่งนิ่ง แต่ก็คิดตามที่เพื่อนอีกคนพูดขึ้นมา ทั้งกลุ่มเงียบสนิท ทุกคนต่างคิดไปในทางเดียวกัน ถ้าเขามีภรรยาหรือมีแฟนอยู่แล้วล่ะ แต่ก็ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะถ้ามีภรรยาหรือมีแฟนอยู่แล้ว คงไม่มาทำงานเป็นเด็กเอ็นแบบนี้หรอก
"แกโอเคไหมขนม?"
"ไม่รู้สิ มันบอกไม่ถูก"
"ฉันว่า เอาแบบที่ฝนมันพูดก่อนไหม ตามหาก่อน แล้วคุยกัน เขาจะรับผิดชอบไหมก็ค่อยว่ากันอีกที ถ้าไม่รับผิดชอบ เดี๋ยวพวกฉันช่วยเลี้ยงหลานเอง"
"....." คำพูดนั้นเหมือนช่วยฮีลใจของขนมหวานขึ้นมาได้ระดับนึงเลย เพราะสิ่งที่เธอกำลังกลัวอยู่ตอนนี้ก็คือ เธอไม่รู้วิธีการเลี้ยงเด็กเลย แต่เธอจะเลี้ยงได้ยังไงถ้าไม่มีคนคอยช่วยหรือคอยดูแลอย่างอื่นให้
"เดี๋ยวฉันให้คนรู้จักไปขอกล้องวงจรปิดที่คลับให้ น่าจะยังมี"
"ขอบใจพวกแกมากนะที่คอยช่วย"
"อย่าคิดมาก เราเพื่อนกัน"
ไม่กี่วันต่อมา
เพื่อนๆ ของขนมหวานไม่ยอมอยู่เฉย พวกเธอเริ่มสืบ เริ่มหาหลักฐานต่างๆ จนกระทั่งเจอตัวผู้ชายดังกล่าว เขาหล่อ โปรไฟล์ดี ขับรถยุโรปคันงาม ตัวสูงอย่างกับนายแบบ กล้ามแน่น เสื้อผ้าดูเหมือนจะเป็นแบรนด์เนมทั้งตัว มองผิวเผินเหมือนไม่ใช่เด็กเอ็นที่ทำงานอย่างว่าด้วยซ้ำไป
เพราะแต่ละอย่างไม่ใช่คนธรรมดาพี่จะสามารถเข้าถึงได้ด้วย ของแพงๆ ทั้งนั้น!
แต่สิ่งที่จะทำให้ทุกคน 'อึ้ง' ยิ่งกว่าคือ เขายังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยปี 4 เท่านั้นเอง!
มันเป็นไปไม่ได้ ผู้ชายคนนี้อาจจะไม่ใช่คนที่ขนมหวานคิด แต่อาจจะผิดตัวไปหน่อย แต่ด้วยความเมาก็เลยทำให้ทั้งสองนั้นเกินเลยกัน
"ได้เรื่องแล้วใช่ไหมฝน" เพื่อนคนนึงถามขึ้น
"อืม..." ฝนพยักหน้าเบาๆ สีหน้าดูตึงเครียดแบบผิดปกติ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วยื่นให้กับกลุ่มเพื่อนได้ดู
ทุกคนต่างอึ้งและตกใจไปพร้อมๆ กัน
ผู้ชายที่อยู่ในรูปแต่งตัวเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง โปรไฟล์ดี หล่อ และเป็นพี่ว๊ากของสาขานั้น และดูเหมือนว่าไม่หน้าตาและรูปร่างเขาก็จะฮอตมากๆ ในมหาวิทยาลัยด้วย
ขนมหวานชะงักตัวแข็งทื่อไปหมด หัวใจทั้งดวงมันเต้นโครมครามราวกับกำลังประท้วงกันอยู่ข้างใน มือทั้งสองข้างสั่นจนจับอะไรไม่อยู่ เธอได้แต่คิดและกำลังตำหนิตัวเองอยู่ในใจ ที่เผลอไปมีอะไรกับนักศึกษาที่ยังเรียนไม่จบ ซ้ำร้ายตอนนี้เธอกำลังท้องด้วย
"เฮ้ยมีประวัติให้อ่านด้วย" เพื่อนคนนึงเอ่ยขึ้น
ธีร์ ปริญ อัครเมธากาล อายุ 24 ปี ลูกชายคนเดียวของนักการเมืองชื่อดัง ......
ถึงจะไม่ได้อ่านทั้งหมดแต่แค่นี้ก็รู้แล้วว่าเขาเป็นคนรวยมากแค่ไหน ถึงว่าทั้งเนื้อทั้งตัวมีแต่ของแบรนด์เนม ขับรถหรูราคาแพงขนาดนั้น
"ขนม..."
"......" เธอไม่ได้ตอบอะไร เพราะยังตกใจอยู่ไม่หาย
"แกจะเอายังไงต่อไป ตอนนี้เจอแล้วนะ"
"เด็กต้องมีพ่อนะขนม"
หัวใจเหมือนจะหยุดเต้นไปวูบหนึ่ง เธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย ตอนนั้นที่มีอะไรกับเขามันก็แค่นั้นจริงๆ ไม่ได้ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบหรือพูดคุยเรื่องราวส่วนตัวของกันและกัน แค่รู้ว่าเขาเด็กกว่าเธอ แต่ก็ไม่คิดว่า จะเป็นเด็กมหาลัยที่ยังเรียนไม่จบ
"ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ" เพื่อนถาม
"ฉันแค่ทำตัวไม่ถูก"
"ทำไมล่ะ ไม่อยากให้เขารับผิดชอบหรอ"
"นั่นสิ เราเจอตัวเขาแล้วนะ"
"แก....แต่เขายังเป็นเด็กมหาลัยอยู่เลย ยังไม่ทำงานด้วยซ้ำ คงยังขอเงินพ่อแม่เรียนอยู่เลยนะ จะมารับผิดชอบได้ยังไงกัน ถ้าเอาไปบอกก็เหมือนฉันทำลายอนาคตเด็กทั้งคนเลยนะ"
"เขาโตแล้ว อีกไม่นานก็เรียนจบแล้ว ได้เข้าทำงานก่อนแกคลอดด้วยซ้ำ"
"ไม่เอา..."
"ขนม..."
"ฉันจะให้เขารับผิดชอบได้ยังไง ในเมื่อเขาไม่ได้ตั้งใจ วันนั้นทั้งฉันและเขาก็ป้องกันแล้ว"
"โอ๊ยขนม!"
ตอนแรกก็คิดว่ามันจะลงเอยดีกว่านี้ แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะวุ่นวายแบบนี้เลย
"แล้วแกจะเอายังไงต่อ"
"ฉันตัดสินใจแล้ว ฉันจะเลี้ยงลูกคนเดียว ไม่ให้เขามารับผิดชอบหรอก"
"แน่ใจนะขนม"
"อืม..."
เป็นการตอบรับที่ไม่ได้หนักแน่นอะไรเลย แต่เธอตัดสินใจแล้วว่าจะเอาแบบนี้ และเธอก็เป็นคนที่พูดคำไหนคำนั้นด้วย
"พวกฉันก็ไม่อะไรหรอกนะ ทุกคนเคารพการตัดสินใจของแก และที่ช่วยตามหา ก็แค่อยากช่วยลูกแกจะได้มีพ่อ"
"ไม่เป็นอะไรหรอก เดี๋ยวเขาโตขึ้นฉันจะอธิบายให้เขาฟังเอง"
"ช่วงนี้แกก็ระวังหน่อยก็แล้วกัน กำลังท้องกำลังไส้อยู่ด้วย แล้วนี่แกยังโดนตามตอแยอีกหรือเปล่า"
"ไม่แล้วนะ ไม่ได้เจอกันแล้ว"
ขนมหวานปฏิเสธ ซึ่งคนที่กำลังตอแยเธออยู่ตอนนี้ก็มีอยู่คนเดียว นั่นก็คืออดีตแฟนเก่า หลังจากที่ถูกเธอบอกเลิกไป ก็พยายามตามตื๊อตามง้อ เพราะรู้สึกผิดที่ทำลงไป แต่เธอไม่ใช่คนที่ให้อภัยคนที่ทำเลวมาก่อน
"ระวังตัวบ้างนะ แกไม่ใช่ตัวคนเดียวแล้ว"
"ขอบใจพวกแกทุกคนมากนะที่ช่วย"
"ไม่เป็นไรอย่าคิดมาก"