#ณ โรงพยาบาล
ขนมหวานมาที่โรงพยาบาลตามนัดที่คุณหมอนัดเพื่อตรวจทารกในครรภ์ ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น เธอได้เข้าตรวจตามปกติ ทารกในครรภ์แข็งแรงดี ร่างกายของเธอเองก็แข็งแรงดีเช่นกัน อาการแพ้ท้องที่มีก็ไม่ได้หนักหนาอะไร
จนกระทั่ง...
"ขอโทษนะคะ ทำของหล่นไว้ค่ะ" ขนมหวานหยิบของที่หล่นอยู่บนพื้น จากนั้นก็รีบวิ่งตามชายหญิงคู่หนึ่งที่กำลังออกไป ผู้หญิงนั่งรถวิลแชร์ ส่วนผู้ชายนั้นออกจะหนุ่มๆ หน่อย กำลังเข็นรถไปโดยที่ไม่รู้เลยว่าของหล่นลงมา
ทางนั้นหยุดชะงักก่อนที่ผู้ชายคนนั้นจะหันกลับมา ซึ่งทำให้ขนมหวานที่กำลังเดินเข้าไปหานั้นถึงกับสตั้นไปเลย เพราะคนที่หันกลับมาคือธีร์ผู้ชายที่เธอไปมีความสัมพันธ์ด้วยเมื่อเดือนก่อน
"อะไรตกครับ?"
เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นถามเหมือนทำให้เธอนั้นหลุดจากภวังค์ไปในทันที ก่อนจะรีบยื่นของในมือให้กับเขา
"ทำบัตรหล่นเอาไว้ค่ะ" ขนมหวานพยายามพูดด้วยน้ำเสียงที่ปกติมากๆ แต่ก็ยังกลัวอยู่ดี กลัวว่าเขาจะจำได้
"ขอบคุณครับ"
"ค่ะ.."
ขนมหวานพยักหน้าพร้อมกับฝืนยิ้มเล็กน้อย และเตรียมที่จะหันหลังเดินกลับออกไป แต่แล้วเสียงเรียกของชายหนุ่มก็ทำให้เธอต้องหยุดชะงักอีกครั้ง
"เดี๋ยวก่อนสิครับ ผมจำคุณได้"
"....." คราวนี้หัวใจของขนมหวานมันเต้นระรัวไม่หยุดเลย เขาจำเธอได้ จำเรื่องเมื่อคืนนั้นได้อย่างนั้นเหรอ
"อะไรกัน รู้จักผู้หญิงคนนี้ด้วยหรือไง?" ผู้หญิงที่นั่งอยู่บนรถวิลแชร์เอ่ยถามขึ้น ถ้าเดาไม่ผิดน่าจะเป็นญาติผู้ใหญ่หรือไม่ก็เป็นแม่ของเขา
"เดี๋ยวผมให้คนมาเข็นรถให้นะครับ"
"ไม่เอา แกนั่นแหละต้องเข็นรถพาฉันไป"
"แม่ครับ ขอล่ะครับ ให้พามาโรงพยาบาลก็พามาแล้วนี่ไง"
หลังจากนั้นชายหนุ่มก็เรียกคนขับรถของตัวเองให้มาเข็นรถวิลแชร์ของมารดาตัวเองนั้นไป พร้อมกับกำชับอย่างหนักแน่นว่าให้พากลับไปเลย ส่วนเขาจะกลับเองในภายหลัง
"ขอโทษนะคะ ฉันไม่เคยรู้จักคุณมาก่อนเลย ถ้าไม่มีอะไร ฉันขอตัวก่อนนะคะ พอดีมีธุระต้องทำต่อ"
พูดจบขนมหวานก็รีบเดินออกไป ขาเรียวรีบก้าวยาวๆ เพื่อให้ตนเองนั้นพ้นออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด ทว่าชายหนุ่มก็ตามหลังมาติดๆ เช่นกัน
หมับ!
"อ๊ะคุณ! ปล่อยฉันนะคะ"
ร่างบางถูกคว้าแขนและถูกดึงออกไปยืนคุยอยู่ที่ลานจอดรถของโรงพยาบาล ซึ่งตรงนั้นไม่ค่อยมีคนสักเท่าไหร่
"คุณไม่ควรทำแบบนี้นะคะ เราไม่ได้รู้จักกันสักหน่อย"
"คิดว่าผมจำไม่ได้เหรอครับ?"
"จำอะไรคะ ฉันยังไม่เคยเจอคุณเลย"
"อ่า..." ธีร์เอามือลูบหน้าของตัวเอง เหมือนคนที่กำลังเก็บกลั้นความรู้สึก ก่อนจะพูดออกไปอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา "แล้ววันนั้น ใครกันครับที่นอนกับผม แล้วทิ้งเงินเอาไว้ ทำเหมือนผมเป็นผู้ชายขายตัว"
"จะ จำผิดคนแล้วมั้งคะ ฉันไม่เคย..."
"อย่าโกหกสิครับ"
"......" ขนมหวานหน้าเสียเมื่อถูกจับได้ว่าเธอกำลังโกหก และตอนนี้เธอก็นึกไม่ออกจริงๆ ว่าควรทำยังไงต่อ ในเมื่อถูกเขาจับได้ไปแล้ว
"มาทำอะไรที่โรงพยาบาลครับ?"
"ฉันไม่จำเป็นต้องบอกคุณ มันเป็นเรื่องส่วนตัว"
"อืม..."
"มีอะไรจะพูดอีกไหมคะ ฉันจะได้กลับ"
"เดี๋ยวครับ..."
ชายหนุ่มรีบดึงนามบัตรของตัวเองออกมาจากกระเป๋า ก่อนจะเอาใส่เข้าไปในกระเป๋าสะพายของเธอที่ข้างในนั้นดูเหมือนจะมีเล่มสมุดอะไรอยู่ก็ไม่รู้ เป็นเล่มสีชมพู เขาไม่ได้สนใจ
"ติดต่อมาหาผมทีนะครับ"
"ทำไมฉันต้องติดต่อคะ?"
"ก็เพราะคุณทำให้ผมเสียหายไง"
"......"
"คุณมองว่าผมเป็นผู้ชายขายตัว แถมยังพาผมไปมีอะไรด้วยอีก ตื่นเช้ามาคุณทิ้งเงินไว้ให้ผม ดูถูกกันเกินไปแล้วนะครับ"
"แล้วจะให้ฉันทำยังไง?"
"คุณก็ต้องรับผิดชอบสิครับ รับผิดชอบกับการกระทำของตัวเอง"
"ทำไมฉันต้องรับผิดชอบ ในเมื่อเรื่องนั้น..."
"อ้อ...จำได้แล้วเหรอครับ หึหึ ผมนึกว่าจะแกล้งจำไม่ได้ไปตลอดซะอีก"
"ห๊ะ? นี่คุณหลอกฉันหรอ?"
"เปล่านะครับ ผมก็แค่ต้องทำให้คุณสารภาพออกมาเอง ว่าคืนนั้นเรา..มีอะไรกันจริงๆ"
ขนมหวานถึงกับพูดไม่ออกเลย ผู้ชายที่เธอเพิ่งเคยเจอครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง และได้พูดคุยกันเป็นครั้งแรก เธอเดาไม่ออกว่าเขาเป็นคนยังไงนิสัยแบบไหน และการที่เขากำลังทำอยู่ตอนนี้คือต้องการอะไรกันแน่
"ตกลงจะรับผิดชอบผมยังไงครับ เรื่องนี้ผมเสียหาย เพราะความจริงผมไม่ได้ขายตัว"
"ก็ถือว่าเจ๊ากันก็แล้วกัน คุณได้ฉันก็ได้ ไม่เห็นจะมีอะไรเสียหายตรงไหนเลย"
"อ่าว.."
"อย่ามาเจอฉันอีกนะ!"
ขนมหวานล้วงหยิบนามบัตรที่เขาใส่ไว้ในกระเป๋าของเธอยัดใส่มือของเขาคืนไป ก่อนจะรีบเดินออกมาจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด จากนั้นก็รีบขึ้นรถแท็กซี่แล้วออกไปทันที
ส่วนชายหนุ่มนั้นก็ได้แต่ยืนงง เขาทำอะไรไม่ถูกเลยเมื่อถูกเธอปฏิเสธอย่างหนักแน่นขนาดนี้ แต่แล้วรอยยิ้มชั่วร้ายก็ปรากฏออกมาพร้อมกับเสียงหัวเราะเบาๆ
"ผู้หญิงแบบนี้นี่มัน น่าค้นหาชะมัดเลยว่ะ!"
เขาไม่เคยเจอใครที่เป็นแบบนี้มาก่อนเลย ผู้หญิงแค่เห็นว่าเขารวย มีชาติตระกูลดี หน้าตาดี อยู่ในวงการไฮโซและนักธุรกิจ ต่างก็อยากจะเข้าหาพร้อมพลีกายให้กันทั้งนั้น ยกเว้นแต่เธอคนนี้
"รถมาแล้วครับนาย"
"อืม..."
ธีร์ ปริญ อัครเมธากาล ถึงเขาจะอายุแค่ 24 ปี และตอนนี้ก็ยังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ปี 4 ใครๆ อาจจะมองว่าเขายังเด็ก ดูอย่างไร้เดียงสาเกี่ยวกับแวดวงนักธุรกิจ ความจริงแล้วฝีมือเขาไม่ใช่เล่นๆ เลย เพราะได้ร่วมทำธุรกิจกับพ่อตั้งแต่เรียนม.ปลาย สั่งสมความสามารถมาเรื่อยๆ จนกระทั่งเขาสามารถประสบความสำเร็จในการเป็นนักธุรกิจได้ในวัย 22 ปีเท่านั้น!
สำหรับเขาแล้วอายุมันไม่ได้เกี่ยวเลย ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเริ่มลงมือทำมันตั้งแต่ตอนไหน ลงมือทำเร็วโอกาสที่จะประสบความสำเร็จเร็วก็มีสูง
ตอนนี้เขาเป็นทั้งนักธุรกิจสีขาวและสีเทา อิทธิพลมากมาย ใครๆ ต่างก็ก้มหัวให้โดยไม่สนว่าเขาจะเด็กหรือผู้ใหญ่
"วันนี้ดูอารมณ์ดีนะครับ"
ลูกน้องคนสนิทเอ่ยถามเมื่อเห็นเจ้านายนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ซึ่งเขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย ครั้งที่ได้กลับบ้านเจอพ่อแม่หรือแม้กระทั่งไปทำงาน สีหน้าเขาจะตึงอยู่ตลอดเวลาหรือแม้บางครั้งก็จะมีอาการหงุดหงิดเพราะถูกผู้เป็นแม่บังคับอะไรมา
"อืม...ตั้งแต่แกอยู่กับฉันมา เคยเห็นผู้หญิงคนไหนปฏิเสธฉันไหม?"
"ไม่เคยเห็นนะครับ แค่คุณธีร์ชวนผู้หญิงก็พร้อมตอบรับ แล้วก็ไปโดยไม่ลังเลเลย"
"ก็นั่นน่ะสิ"
"ทำไมเหรอครับ?"
"ฉันเพิ่งเคยเจอผู้หญิง ที่กล้าปฏิเสธฉันเป็นคนแรก"
"แล้วทำไมถึงยิ้มล่ะครับ ไม่หงุดหงิดเหรอครับ"
"ก็ผู้หญิงที่ปฏิเสธฉัน เป็นผู้หญิงที่เคยลากฉันไปมีเซ็กซ์ด้วย เพราะคิดว่าฉันเป็นผู้ชายขายตัว"
"อะไรนะครับ!"
"หึหึ ผู้หญิงคนนี้น่าค้นหาว่ะ"
"แล้วคุณธีร์จะทำยังไงต่อครับ ให้ผมไปลากตัวมาไหม?"
"ไม่ต้องหรอก จะทำแบบนั้นไปทำไมล่ะ"
"แบบนี้มันหยามศักดิ์ศรีกันเกินไปนะครับ"
"ฉันไม่ได้คิดแบบนั้นหรอก ไม่ต้องไปลากเธอมา แค่ทำงานให้ฉันก็พอ"
"งานอะไรครับ?"
"สืบประวัติผู้หญิงคนนี้" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับลูบคางมนของตัวเอง ตอนแรกคิดว่าคงไม่ได้เจอกับเธออีกแล้ว แต่เหมือนสวรรค์ลงมาโปรด ทำให้เขาได้เจอกับเธออีกครั้ง และก็ทำให้เขาสนใจในตัวของเธอมากขึ้น
********************
#เพ้นท์เฮ้าส์สุดหรูใจกลางกรุง
สถานที่แห่งนี้จะเรียกว่าบ้านก็ได้ เพราะธีร์ใช้อาศัยอยู่ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยปี1 จนกระทั่งตอนนี้ เขาไม่อยากอยู่ที่บ้านไม่ชอบการถูกบังคับไม่ชอบการออกคำสั่งในแบบนั้น ก็เลยปลีกตัวออกมาอยู่คนเดียว ถึงแม้จะทำให้ผู้เป็นแม่ไม่พอใจ และทุกครั้งก็จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้เขากลับ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุ อาการป่วย หรืออะไรก็แล้วแต่ที่จะสามารถดึงให้เขากลับไปได้
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเขาใช้ชีวิตแบบไม่มีความต้องการ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขามีและได้มามันง่าย ง่ายเสียจนเขาไม่ต้องพยายามอะไรมากมายเลย
จนกระทั่งวันหนึ่งเขาได้เจอกับผู้หญิงคนนึงอีกครั้ง หลังจากที่มีอะไรกับเธอไปคืนนั้น เขาก็ไม่ได้เจอกับเธออีกเลย ไม่มีหลักฐานหรือร่องรอยของเธอที่ทิ้งเอาไว้ การกระทำของเธอมันเหมือนยิ่งท้าทายความสามารถของเขา ยิ่งยากก็ยิ่งอยากได้ เขาได้แต่คิดว่าสักวันคงจะได้เจอเธออีกสักครั้ง ถึงเวลานั้น เขาจะไม่ยอมปล่อยให้เธอหลุดมือไปอีกเป็นครั้งที่สองแน่ๆ และเหมือนสวรรค์จะโปรด เพราะเขาได้เจอเธออีกครั้งจริงๆ
เธอเป็นผู้หญิงที่น่าค้นหา และเขาก็อยากได้มาไว้ครอบครอง ปกติเขาไม่ใช่คนที่จะสนใจอะไรใครง่ายๆ แต่เธอคือข้อยกเว้น เพราะเขาไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนมากเท่านี้มาก่อนเลย
"คุณธีร์ครับ"
"เข้ามาสิ"
ลูกน้องค่อยๆ เดินเข้ามา ก่อนจะยื่น iPad ให้กับผู้เป็นเจ้านาย
"อันนี้เป็นข้อมูลของผู้ร่วมลงทุนของเราครับ"
"อืม...ฉันยังไม่อยากรู้อะไรพวกนี้ ฉันอยากรู้แค่ข่าวเดียว เรื่องไปถึงไหนแล้ว"
แค่เกริ่นมาเท่านี้ก็ดูเหมือนว่าลูกน้องของเขานั้นจะเดาได้เลยว่าเจ้านายกำลังหมายถึงเรื่องอะไร
"ตอนนี้นักสืบกำลังรวบรวมข้อมูลทั้งหมดอยู่ครับ"
"ให้เร็วที่สุด ฉันไม่ชอบรอนาน"
"ครับ"
เมื่อวานที่ได้เจอกับเธอเขาก็สั่งให้ลูกน้องจ้างนักสืบออกตามหาเธอในทันที พร้อมกับสืบประวัติของเธอทุกอย่างมาด้วย ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน ทำงานอะไร ชีวิตประจำวันเป็นยังไง มีเพื่อนกี่คน และมีใครอยู่หรือเปล่า
"ถ้างั้นผมขอตัวนะครับ"
"อืม.."
ไม่ทันได้ข้ามวันลูกน้องก็มาพร้อมกับหลักฐานที่นักสืบได้มา พร้อมกับเรียบเรียงมาให้เรียบร้อยเลย
"เธออาศัยอยู่คนเดียวครับ มีเพื่อนอยู่ไม่กี่คน และทำงานเป็นพนักงานบัญชีอยู่ที่บริษัทนึง เพิ่งเลิกกับแฟนไปเมื่อหลายเดือนก่อนครับ"
"โปรไฟล์น่าสนใจเลยนี่" ชายหนุ่มพูดขณะที่กำลังเลื่อนดูรูปภาพของเธอ ไม่ว่าจะเป็นรูปถ่ายสมัครงาน หรือรูปถ่ายเผลอๆ ที่ถูกแอบถ่ายเอาไว้
"ครับ"
"แล้วที่ให้สืบล่ะ เธอไปทำอะไรที่โรงพยาบาล"
"นักสืบของเราบอกว่า เธอเข้าไปที่แผนกแม่และเด็กครับ"
"หืม?? เข้าไปทำอะไร?"
"มีประวัติเธอฝากครรภ์อยู่ที่โรงพยาบาลครับ"
"ว่าไงนะ!"
"ก็ตามนั้นครับ เธอมีประวัติฝากครรภ์อยู่ที่โรงพยาบาล ส่วนรายละเอียดนักสืบบอกว่าไม่สามารถลงลึกได้กว่านี้ เพราะเป็นกฎของทางโรงพยาบาลครับ"
"เธอไม่มีแฟน แล้วท้องได้ยังไง?!"
"ผมก็ไม่ทราบครับ"
"แล้วมีอะไรอีกบ้าง อายุครรภ์กี่เดือน มีประวัติของพ่อเด็กที่ไปฝากท้องด้วยหรือเปล่า หรืออะไรมากกว่านี้"
"นักสืบของเรา...มีข้อมูลให้เท่านี้ครับ"
"บ้าฉิบ!!"
ชายหนุ่มสบถออกมาอย่างหัวเสีย ตอนนี้เขาทั้งตกใจและตื่นเต้น เพราะไม่รู้ว่าเธอกำลังท้องอยู่กับใคร กับเขามันก็มีสิทธิ์เพราะเพิ่งจะมีอะไรกับเธอไปเหมือนกัน แต่ทำไมเธอถึงไม่มาบอกอะไรเลยล่ะ หรือว่าตามหาเขาไม่เจอ
"จะให้สืบต่อไหมครับ"
"อืม คอยตามดูไปก่อน อย่าเพิ่งทำให้เธอตกใจเด็ดขาด!"
"ครับคุณธีร์"
ครืด ครืด ครืด
ชายหนุ่มเหลือบตามองโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะ ก่อนจะยกมือทำท่าบอกกับลูกน้องให้ออกไป จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสาย
"ครับแม่"
( อยู่ที่ไหน มาหาแม่หน่อยสิ )
"ผมทำงานอยู่ครับไม่ว่าง"
( อะไรกัน นี่มันวันหยุดนะ )
"แม่ครับ ผมไม่ได้เรียนอย่างเดียวนะครับ ผมเองก็มีงานด้วย"
( แต่แม่รู้สึกไม่ค่อยสบาย อยากให้มาหาที่บ้าน )
"บอกมาตามตรงเถอะครับ นัดใครมาที่บ้านอีกล่ะ"
เขาพูดอยากรู้ทัน แม่ของเขาชอบใช้วิธีการนี้ตลอด เพื่อหลอกล่อให้เขาไปที่บ้าน และก็จะได้เจอใครก็แล้วแต่ที่แม่ของเขานัดมา หวังจะให้ได้เจอกันเหมือนดูตัวไปในเชิง
ตอนนี้เขากำลังถูกแม่ของเขาพยายามยัดเยียดให้แต่งงานกับผู้หญิงบ้านไหนสักคนนึง ถ้าเขาชอบ ในบรรดาผู้หญิงที่แม่ของเขาเลือกมาให้ แต่ไม่ว่าจะครั้งไหนเขาก็ไม่สนใจเลยสักคนเดียว
( พอดีแม่นัดเพื่อนสมัยเรียนมากินข้าวที่บ้าน เขาอยากเจอลูกมากเลยนะ ได้เจอกันนานเลย )
"ผมไม่ค่อยว่างครับ งานยุ่ง"
( มาสักหน่อยก็ดีนะ มันเสียมารยาทนะถ้าไม่มาน่ะ )
"แล้วแต่เถอะครับ แค่นี้นะครับแม่"
( ดะ เดี๋ยวสิ ครั้งนี้ครั้งสุดท้ายก็ได้ ถ้ายังไม่ถูกใจ แม่จะไม่บังคับแล้ว )
"แม่ก็พูดแบบนี้ทุกที ผมไม่เชื่อหรอกครับ แค่นี้นะครับ"
ธีร์รีบกดตัดสายแล้ววางโทรศัพท์ลงทันที แค่งานเขาก็รู้สึกเหนื่อยมากแล้ว ยังต้องมาเหนื่อยกับอะไรแบบนี้อีก ใครบอกว่าเกิดในบ้านรวยมีชาติตระกูลมีงานมีการทำที่ดีมันจะดีกันล่ะ สำหรับเขาถ้าไม่รวมเรื่องการบังคับต่างๆ มันก็มีความสุขดีอยู่แหละ อย่างนั้นเขาคงไม่ปลีกตัวออกมาอยู่คนเดียวแบบนี้หรอก
ครืด ครืด ครืด
ไม่นานหลังจากนั้นก็มีโทรศัพท์โทรเข้ามาอีกครั้ง ซึ่งมันก็ไม่ใช่เบอร์แปลกอะไร แต่ไม่ใช่แม่ของเขาแน่นอน
"ครับนม มีอะไรหรือเปล่าครับ"
( คุณหนู กลับบ้านเถอะค่ะ คุณหญิงอาละวาดใหญ่แล้ว คุณหนูไม่กลับมีหวังได้พังทั้งบ้านแน่ค่ะ )
"เฮ้อ...นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันครับเนี่ย"
( นมเองก็จะรับมือไม่ไหวแล้วค่ะคุณหนู เด็กๆ ในบ้าน โดนลูกหลงกันจนหลบกันไปหมดแล้วค่ะ )
"ครับนม เดี๋ยวผมไปครับ"
พูดจบก็วางสาย เขาถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยล้า ไม่อยากเจออะไรแบบนี้เลย แต่ทำไมต้องมาเจอด้วยก็ไม่รู้ แม่ของเขารู้ดีว่าทำยังไงเขาถึงจะยอมไป จึงใช้วิธีแบบนี้มาโดยตลอด และมันก็ได้ผล เขาเหนื่อยที่ใครต่อใครจะต้องมาเดือดร้อนก็เพราะเขา
"จะไปไหนครับคุณธีร์"
"ไปบ้านน่ะ"
"ให้ผมขับรถให้ไหมครับ"
"ไม่เป็นไร แกไปรีบสืบเรื่องนั้นมาให้ฉันก็พอ กลับมาฉันต้องได้ข้อมูล"
"ได้ครับ"
หลังจากนั้นธีร์ก็รีบเหยียบรถไปที่บ้านของตัวเองทันที ไม่นานนักก็มาถึง สภาพบ้านในตอนนี้ดูเหมือนว่าคนในบ้านจะพากันเก็บเรียบร้อยหมดแล้ว
"ธีร์.."
"นี่มันอะไรกันครับแม่ เมื่อไหร่จะเลิกเอาแต่ใจแบบนี้สักที!"
"ก็ขอให้มาครั้งสุดท้าย ทำไมถึงไม่มา"
"แม่ครับผมมีงาน นี่ผมต้องทิ้งงานมาเพื่อเรื่องไร้สาระแบบนี้เหรอครับ?"
"เรื่องไร้สาระที่ไหนกัน!"
"เฮ้อ..."
"เดี๋ยวเพื่อนของแม่ก็จะมาแล้ว ทำตัวให้มันดีๆ ด้วยล่ะ อย่าพูดอะไรเกินจำเป็น ให้แม่เป็นคนพูดเอง"
"ปกติก็เป็นคนพูดเองอยู่แล้วไม่ใช่เหรอครับ"
"อย่าทำให้แม่เสียหน้า"
"ครับ"
"อย่าพูดหักหน้าแม่ด้วย"
"ครับ"
"ทำกับลูกสาวของเพื่อนแม่ให้ดีๆ ล่ะ"
"ครับ"
หลังจากนั้นไม่นานก็ได้เจอกับเพื่อนของแม่ที่มาพร้อมกับลูกสาวหน้าตาดีคนนึง แต่ก็ยังไม่ใช่สเปกของเขาอยู่ดี ผู้หญิงคนนั้นที่กำลังส่งสายตายั่วยวน พยายามใช้เรือนร่างของตนเองนั้นหลอกล่อเขา แต่บอกได้เลยว่ามันไม่ได้ผล เพราะเขาไม่ได้หลงกลเลยแม้แต่นิดเดียว
ผู้หญิงสวย เก่งดูดี มีชาติตระกูล เพียบพร้อมแค่ไหน มันก็ไม่ใช่สเปกของเขา!