เพื่อนขำจนกลั้นไม่ไหว ทั้งสองคนสนุกสนานกันต่ออย่างสุขใจ กระทั่งเวลาผ่านไป
"เรากลับกันเถอะ" ฝนที่ดื่มจนเริ่มไม่ไหวเอ่ยพลางดึงแขนเพื่อนเขย่า
"มึงว่าถ้าสมมติกูมีแฟนรวยชีวิตกูจะพ้นทุกข์ไหม..แบบว่าให้ผัวช่วยปลดหนี้แต่งงานกันสุขสันต์แฮปปี้"
"มันก็ดีนะแต่คนรวยกับคนดีไม่ได้แปลว่าจะเป็นคนเดียวกัน"
น้ำเสียงยานของฝนที่สติไม่สมบูรณ์แต่ยังให้คำปรึกษา เส้นด้ายส่ายหน้าพยุงเพื่อนออกมาส่งขึ้นเเท๊กซี่อย่างรอดปลอดภัย
ฟิ้ว
ลมยามดึกพัดผ่าน ที่จริงเธอเป็นเพียงสาวน้อยธรรมดาทั่วไป แต่ชีวิตที่สวยงามราวกับโรยกลีบกุหลาบไว้ บัดนี้เป็นเพียงพื้นปูนเปื้อนฝุ่นที่ต้องจำใจยอมรับ
"ถ้ามีผัวรวยก็จบสินะ" วูบหนึ่งที่คิดแบบนี้แต่ถ้าเป็นจริงก็คงดี ชุดเดรสสั้นทำให้ฉันเริ่มรู้สึกเย็นวาบ "สู้ต่อไปอีด้าย"
กรี๊ดดด
เสียงสะดุ้งจนตัวเล็กห่อไหล่ สาวมากมายรอบข้างกรีดร้องดังลั่น เมื่อรถ lamborghiniสีเหลืองสะดุดตาแล่นเข้ามาจอดหน้าผับ
"รถรุ่นใหม่มีเพียงห้าคันในประเทศไทย" รวบรวมสติจ้องมองรถที่ราคาหลายสิบล้าน "ถ้าได้คนรวยเป็นผัวทุกอย่างก็คงจบ..สินะ"
ดั่งสวรรค์บันดาล เครื่องทุ้มแน่นของเครื่องยนต์ระดับท็อปอยู่ตรงหน้า บรรดาผู้หญิงเดินล้อมเข้ามาราวกับว่ารู้จักเจ้าของผู้ขับดี เสียงพูดคุยเล็ดลอดจนเส้นด้ายได้ยิน
"มาอีกแล้วมึงงง"
"ใช่ๆ ทั้งหล่อทั้งรวยมาแต่ละทีเหมาเลี้ยงทั้งผับ คนอะไรไม่รู้อย่างกับเทพบุตรมาเกิด"
"ทำไมเขายังไม่ลงจากรถอีกนะ อยากเจอใจจะขาดอยากเป็นเมีย กรี๊ด"
สิ้นสุดเสียงหวีด เส้นด้ายหันมองจดจ้องทันที สภาวะเลือดสูบฉีดลุ้นถึงการเปิดตัวผู้ชายที่โดนกล่าวถึงสรรพคุณมากมาย
รองเท้าหนังสีดำย่ำเหยียบถึงพื้น เสื้อสูทสีขาวทับเชิ้ตดำดูสง่า บ่งบอกถึงรสนิยมหรูหรา ก่อนจะหยิบบุหรี่มวนขึ้นมาจุดสูบ
ฟู่
ทันทีที่ควันสีขาวโขมงเริ่มเลือนล่าง ชายร่างสูงคล้ายนายแบบผู้มาพร้อมใบหน้าหล่อเหลาเอาการขมวดคิ้วเข้ม เขาดึงบุหรี่ที่คาบพูดเสียงดังชัดเจน
"เอ้า ผับปิดแล้วเหรอวะทำไมไม่มีคน"
โว้ยยยย! ทางนี้
สรุป..หันหน้ามองไปฝั่งตรงข้าม
เสียงเรียกของสาวสวยที่ยืนรอพูดพร้อมเพรียงกัน เขาจึงปิดประตูเดินอ้อมเข้ามายืนเท่ข้างรถอยู่หน้าผับ
เส้นด้ายมองจ้องตั้งแต่หัวจรดเท้าพึมพำ
"สันนิบาตไม่แดกหน้าเหรอ..คนอะไรเก๊กหล่อจนคอตั้งขนาดนั้น ขอกูเจอคนปกติบ้างไม่ได้หรือไงวะ!"
บ้านกลางเมือง
ฟุบ
สุดท้ายเส้นด้ายเลือกจะเดินขึ้นแท๊กซี่เมื่อมาถึงบ้านก็ซัดตัวลงบนเตียงสปริงที่เด้งรับ ภายในใจยังครุ่นคิดถึงใบหน้าของผู้ชายที่ปรากฏตัวพร้อมรถหรูหน้าผับ
"คนอะไรขี้เก๊ก" ฉันบ่น "แต่ถ้าเจออีกครั้งก็ไม่แน่นะ หึ"
เพราะเกิดมาบนกองเงินกองทองแต่ตอนนี้เหมือนร่วงไปกองบนพื้นที่ไม่อาจยอมรับ บ้านติดหนี้หลายสิบล้านแต่คนภายนอกก็ยังไม่ทราบ
#หลายวันก่อนหน้านั้น
ในเมืองหลวงที่ทันสมัยแต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่ายังมีความเหลื่อมล้ำทางสังคม ผู้คนที่ยากจนซุกซ่อนอยู่ตามหมู่บ้านเล็กหรือบางคนก็เรียก สลัม หรือบางคนก็เรียก ชุมชนแออัด
"พี่เกียร์พาหวานมาเลี้ยงไอติมมีอะไรแอบแฝงหรือเปล่านะ"
"ทำไม..ไม่ชอบเหรอ"
"ก็ชอบค่ะแต่คนเขาร่ำลือกันว่าพี่เกียร์อะร้าย"
"อย่าเชื่อจนกว่าจะได้สัมผัสสิ"
สาววัยใสอายุสิบแปดบิดม้วนตัวเขินเมื่อต้องเผชิญกับสายตาเจ้าเล่ห์แต่หล่อเหลาเกินคำบรรยาย
ร้านไอติมไม้ริมน้ำเปรียบเสมือนไอเทมของชุมชนแห่งนี้เลยก็ว่าได้
"อุ๊ยย" เสียงร้องสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อชายหนุ่มใช้นิ้วโป้งปาดเช็ดไอศกรีมเปื้อนมุมปากให้
"กินเลอะนะเรา ว่าแต่ชอบกินไอติมมากไหม"
"ก็ชอบนะคะพี่เกียร์ถามทำไม"
"แค่พี่จะบอกว่าไอติมกะทิข้นรสหวาน แต่อยากให้ลองชิมไอติมแท่งรสคาวของพี่ก่อน มันส์..อร่อยนะ"