บท.4-ดอกตีนเป็ด[โรงหนังเก่า]

673 คำ
อิ๊ด อิ๊ด อิ๊ด โรงภาพยนตร์นอกเมืองที่นายทุนไม่สามารถทำกำไรได้จึงถูกปล่อยให้รกร้าง แต่อุปกรณ์เช่นเก้าอี้และโต๊ะไม้ยังคงอยู่ เสียงลั่นของเหล็กเก่าดังก้องห้องโถงปูนผุพัง สาววัยใสกำลังเริงสวาทกับชายหนุ่มที่เขาชอบใจ กระโปรงสีชมพูกระพือตามแรงโหมกระหน่ำ สองมือหนาคว้าสะโพกกดให้บดลงท่อนลำที่สวมใสถุงยางปลอดภัย เวลาล่วงเลยหลายชั่วโมงจนเป็นช่วงพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน รถมอเตอร์ไซค์แล่นมาจอดเพื่อรับเพื่อนที่นัดเอาไว้ "ไอ้เกียร์สภาพมึงเพลียมากนะ" "เพิ่งเสร็จไปสามครั้งบอกไม่ไหว กะว่าจะต่อสักหน่อยช่วงนี้หิว" "หิว! มึงก็แดกข้าวครับไม่ใช่แดกหญิง ฮ่าๆ" "ช่วยไม่ได้เด็กมันยั่วเลยหลวมตัวไปหน่อย" ผมเลิกคิ้วให้เพื่อนก่อนจะจุดบุหรี่สูบและซ้อนมอเตอร์ไซค์กลับบ้าน ทางเข้าเล็กกว่ารูมดแดงไฟแต่เกิดแถวนี้จึงชิน "ไว้เจอกัน" เกียร์ยกมือโบกรับเมื่อเพื่อนตะโกนพร้อมทั้งยกมือลาแล้วขับมอเตอร์ไซค์กลับอีกสองชุมชนถัดไป ณ. บ้านหลังหนึ่งสุดซอยที่รั้วเป็นสนิมเก่า สังกะสีมีรอยรั่วแต่ภายในสะอาดเรียบร้อย มีต้นไม้บดบังรอบทิศทาง ครอบครัวนี้อาศัยกันอยู่สามคนประกอบด้วยแม่ และลูกชายกับลูกสาว "หายไปไหนมาพี่เกียร์" น้องสาวนั่งเก้าอี้เล็กเบื้องล่างทำเสียงหงุดหงิด "ไม่มาช่วยกันแยกขวด" "บ่นเป็นแม่กูเลยนะอีกุ๊กไก่" "ก็พี่เกียร์ชอบทิ้งให้เก็บขวดแยกขวดคนเดียวมันเหนื่อยนะ" กุ๊กไก่ น้องสาวคนเล็กสุด ใบหน้ากลมผมบ๊อบรูปร่างอวบอั๋นวัยสิบแปดปี มีพี่ชายคนเดียวซึ่งก็คือ เกียร์ อายุยี่สิบสองเรียนปีสอง คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า รูปร่างหน้าตาหล่อเหลาพร้อมส่วนสูงร้อยแปดสิบเจ็ด อาชีพของบ้านคือเก็บขยะแยกขาย ดึ๋งงงง "ฮึม รักแท้ก็เหมือนดอกตีนเป็ดบางคนบอกว่าดีบางคนบอกว่าเหม็น ฮือออ" แกร๊ก "ไอ้เกียร์! มึงดีดกีตาร์อีกแล้วเหรอ" ประตูเปิดออกเป็นแม่ที่เท้าเอวพูดเสียงแข็ง "กูบอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้เล่นดนตรี" "คนกำลังอารมณ์สุนทรีย์" "สุนทรีย์หรือส้นตีน!! เพลงห่าอะไรดอกตีนเป็ด มึงเอาไปทิ้งเลยนะไอ้กีต้าร์เนี่ย" โต้มมม นึกว่าลมพัดแต่เปล่า..เสียงกระแทกประตูของแม่พร้อมอารมณ์ฉุนเฉียว เหลือเพียงน้องสาวที่ยืนอยู่ก่อนจะเอ่ย "พี่ก็รู้ว่าแม่ไม่ชอบดนตรี" "เหอะ ไร้สาระก็แค่พ่อเป็นนักดนตรีแล้วทิ้งแม่ไปแล้วยังไง? เราก็อยู่กันได้ไม่ใช่เหรอ ควรจะลืมผู้ชายแบบนั้นไปซะ" "แม่อาจจะลืมได้ง่ายถ้าพี่ไม่ดันเกิดมาหน้าตารูปร่างเหมือนกับพ่อ ถึงหนูไม่เคยเจอพ่อแต่ก็แอบเห็นรูปด้วยนะ" กีตาร์สีน้ำตาลตัวโปรดอยู่ในวงแขนของเกียร์ ความบาดหมางที่เขาได้รับจากพ่อไม่อาจปิดกั้นพรสวรรค์ทางดนตรีที่มีเต็มเปี่ยม "กูแค่เหงาเลยหยิบกีตาร์มาเล่น" ผมบอกปัดก่อนจะลุกยืนไปแขวนเก็บไว้ที่เดิม "เพลงเพราะไหมนี่กูเเต่งเองเลยนะดอกตีนเป็ด" "อย่าไปร้องที่ไหนนะดอกตีนเป็ดระวังโดนส้นตีนคนฟัง ไม่รู้ต้องโกรธตรงไหนก่อน เนื้อเพลงหรือทำนองชวนปวดหัว" "ขอบคุณ ถุ้ยยย!! ไปเลยอีกุ๊กไก่" มันกวนตีนตลอดผมยกเท้าทำท่าถีบมันรีบวิ่งแจ้นออกไปยังทำแลบลิ้นปริ้นตาใส่ แต่ถ้าถามว่าผมโกรธพ่อไหม บอกเลยว่ามากแต่ให้ทำยังไงเมื่อพ่อเลือกจะทิ้งพวกเราไปก็ต้องยอมรับความเป็นจริง "ดอกตีนเป็ด ห๊อมมม ชื่นใจจนพี่ระทม" เคว้ยง ก้อนหินกระทบหลังคาตามมาด้วยเสียงชื่นชมจากรอบข้าง เพลงส้นตีนอะไรวะ! เบาๆ ลูกกูจะนอน! ไอ้ห่าเอ๊ยยยย!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม