“เมื่อหัวใจพังทลาย”
“อ่าห์…อ๊าาาาา…” เสียงครางของเธอดังลอยออกมาอย่างร้อนแรง เหมือนทุกลมหายใจเต็มไปด้วยความปรารถนา
“อืม…ซี๊ดดด…พี่เจ…เชอร์รี่ชอบมากเลยค่ะ…แรงกว่านี้อีกค่ะ…” เธอเอ่ยออกมาพร้อมรอยแดงที่ปรากฏบนแก้ม
เจเจโน้มตัวลงมามองใบหน้าที่เปียกชื้นไปด้วยเหงื่อ ดวงตาคมกริบของเขาส่องประกายความดุดัน
“หุบปากสักที…” เสียงทุ้มต่ำของเขาก้องอยู่รอบตัว พร้อมแรงกดเบา ๆ ที่ทำให้หัวใจเธอเต้นแรงขึ้น
ก่อนที่เขาจะกระแทกเข้ามาอีกครั้ง ร่างของเขากลับหยุดนิ่งชั่วครู่ ทิ้งให้อารมณ์ที่เดือดพล่านของเธอต้องรอคอย ความหงุดหงิดปนความปรารถนาที่เธอไม่อาจควบคุมได้นั้น ทำให้หน้าแดงระเรื่อ
“พี่เจเจ…ทำไมหยุดคะ? เชอร์รี่ยังไม่เสร็จเลยนะ~” เธอเอ่ยพลางหันมาส่งสายตายั่วยวนเต็มเปี่ยมด้วยความท้าทาย
เจเจถอนหายใจเบา ๆ ก่อนลุกขึ้นดึงกางเกงขึ้นอย่างใจเย็น แต่สายตายังคงเย็นชาดุจน้ำแข็ง
“ออกไป” เสียงทุ้มต่ำของเขากลั่นกรองคำพูดชัดเจน
“อะ…ออกไปไหนคะ? เรายังสนุกกันอยู่เลย~” เธอถามพลางทำหน้าเซ่อ ๆ และส่งสายตายั่วยวนอีกครั้ง บรรยากาศรอบตัวร้อนระอุขึ้นทันที
เจเจมองเธอด้วยดวงตาคมเย็น ก่อนจะพูดเสียงเข้ม
“สนุกอะไรของมึง…มึงร้องอยู่คนเดียว รูมึงก็หลวม ไหนเขาว่ามึงเด็ดไง…ลองแล้วก็งั้น ๆ”
คำพูดของเขาเหมือนมีดกรีดลงบนความมั่นใจของเธอ ทำให้หน้าเธอร้อนผ่าวไปหมด ความรู้สึกทั้งโกรธและอยากเอาชนะผสมปนเปกันอยู่ในแววตา
“แหมมม…พี่เจเจก็พูดซะแรงเลยนะคะ~ ให้เชอร์รี่ช่วยพี่ให้เสร็จดีไหมคะ?” เธอเอ่ยพร้อมรอยยิ้มยั่วยวน พลางค่อย ๆ ย่อตัวลงไปตรงกลางระหว่างขาของเขา
แต่ก่อนที่เธอจะได้ทำอะไร มือใหญ่ของเขาก็ดันมารวบผมเธอเอาไว้แน่น แล้วออกแรงดึงอย่างแรง
“โอ๊ยยย…ปล่อยนะ พี่เจ!” เธอร้องด้วยความเจ็บปนตกใจ
เจเจก้มมองเธอด้วยสายตาเย็นยะเยือก เสียงทุ้มต่ำแผ่ว ๆ แต่ชัดเจน
“กูบอกให้ออกไป…หูตึงหรือไงวะ?”
แรงตึงของสถานการณ์ทำให้หัวใจเธอเต้นแรงขึ้น ความหงุดหงิดผสมความปรารถนาเหมือนจะแผดเผาเต็มทั้งร่าง
เชอร์รี่รู้สึกถึงแรงกดรอบตัว ใจเต้นรัวจนแทบควบคุมไม่อยู่ เธอกลืนน้ำลายแล้วก้าวถอยหลัง
“คะ…ค่ะ…เชอร์รี่…เชอร์รี่ไปก่อนนะคะ” เธอรีบหันตัววิ่งออกจากห้องโดยไม่รอให้เขาพูดต่อ
ประตูปิดลงเบา ๆ หลังเธอไป ทิ้งให้เจเจยืนอยู่คนเดียวในห้อง เงียบและเย็นยะเยือก แต่ความตึงเครียดยังคงลอยอยู่ในอากาศ
เขารู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย เมื่อกี้เขากำลังอยู่กับผู้หญิงอีกคนอยู่แท้ ๆ แต่จู่ ๆ เสียงในหัวกลับดังขึ้น พร้อมกับภาพของใครบางคนปรากฏขึ้นชัดเจนในใจ
หัวใจของเขาสะดุดไปชั่วขณะ ความคิดที่ไม่อยากยอมรับเริ่มรุมเร้า ภาพนั้นกลับทำให้ความหงุดหงิดแปรเปลี่ยนเป็นความไม่สบายใจอย่างลึก ๆ
เจเจกระชับกำปั้น รู้สึกเหมือนพยายามไล่ความคิดนั้นออกไป แต่ยิ่งผลัก ภาพและเสียงนั้นก็ยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ
“เรื่องเมื่อคืน…พี่ห้ามบอกพี่แทนไทนะ ถ้าพี่บอก…แจมเอาพี่ตายแน่…หุบปากไปเลย” เสียงนั้นดังขึ้นในหัวเขา
“เดี๋ยวสิ…แจมได้พี่แล้วจะทิ้งงี้เลยหรอ?”
“พี่มีผู้หญิงตั้งกี่คน จะมาแคร์ทำไมกับเรื่องแค่นี้”
“แต่พี่แคร์แจมนะ…”
เจเจกัดฟันแน่น ความรู้สึกซับซ้อนทั้งความหงุดหงิดและความห่วงใยปะปนกันจนหัวใจเต้นแรง
“พี่ไปแคร์ผู้หญิงในสต๊อกพี่เถอะ” เสียงในหัวตอบกลับมาอย่างเย็นชา แต่แฝงความขัดแย้งในใจที่เขาไม่อยากยอมรับ
เจเจคิดพรางก้าวไปที่ระเบียง มือหยิบบุหรี่ออกจากซอง สูบเข้าลึก ๆ ก่อนจะพ่นควันออกไปตามสายลมเย็น กลิ่นควันลอยไปกับลม พาเอาความคิดยุ่งเหยิงและความหงุดหงิดบางส่วนออกไปด้วย
เขายืนอยู่เงียบ ๆ มองออกไปยังทิวทัศน์ด้านนอก แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยภาพและเสียงที่ไม่อาจลบออกง่าย ๆ ความเงียบของคืนช่วยชะลอความคิดได้เพียงชั่วครู่ แต่ไม่อาจทำให้ความรู้สึกขัดแย้งในใจสงบลง
——
ตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มแล้ว แต่ฉันยังนอนพลิกตัวไปมาอยู่บนที่นอน ฉันนอนไม่หลับเลยเพราะเหตุการณ์วันนั้น
ใช่…ฉันมีอะไรกับพี่เจเจ มันเกิดจากความผิดพลาดล้วน ๆ วันนั้นฉันเสียใจสุด ๆ เพราะโดนคนที่คุยด้วยหักอกมา แถมยังบอกชัดเจนว่ามีแฟนอยู่แล้ว ที่มันเข้าหาฉันก็เพราะต้องการเอาเงินของฉันไปเลี้ยงแฟนของมัน
ฉันเสียใจมาก… คืนนั้นฉันเลยนั่งดื่มอยู่คนเดียวที่ร้านเหล้าแถวพัทยา ใจกล้าใช่ไหมล่ะ ที่ต้องไปไกลขนาดนี้ แต่ถ้าไปนั่งดื่มใกล้ ๆ บ้าน…ไอพี่แทนไทต้องด่าฉันไม่หยุดแน่ ฉันเลยเลือกหนีไปไกล ๆ ปล่อยใจไปกับเสียงคลื่นกระทบฝั่ง และกลิ่นเค็ม ๆ ของทะเล
แต่ใครจะไปรู้…การเมาครั้งนั้นกลับทำให้ฉันกับพี่เจเจเลยเถิด อีกอย่าง…ฉันตั้งใจหนีไปไกล ๆ เพื่อให้ตัวเองสงบใจ แต่ไอพี่เจเจมันก็ยังตามมาพบฉันจนได้
ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา
กริ๊งงง…
เสียงโทรศัพท์ของฉันดังขึ้นกลางดึก ฉันงงงวยคลำหาโทรศัพท์ ก่อนจะค่อย ๆ ปรับสายตาและกดรับสายโดยยังไม่ได้ดูว่าใครโทรมา
“ฮัลโหล…”
“อีหน้าด้าน! มึงใช่ไหมที่แอบคุยกับผัวกูดึก ๆ จับตัวยากจริง ๆ นะมึง! มึงไม่มีปัญหาหาผัวเองหรือไง ถึงได้มาแอบรักแอบกินกับผัวชาวบ้านเนี่ย!”
เสียงตะโกนดังทะลุออกจากลำโพงจนฉันต้องยกโทรศัพท์ออกจากหูด้วยความตกใจ
“เหี้ยอะไรวะ…” ฉันพึมพำกับตัวเอง ก่อนเงยหน้าดูชื่อคนโทรเข้า
“พี่ซัน”
“เออ…อีเหี้ยซัน ผัวของกูเอง! ทำไมจำชื่อผัวของเราสองคนไม่ได้หรือไง!” เสียงฝ่ายหญิงดังตะคอกเข้ามาเต็ม ๆ ทำให้ฉันสะดุ้ง
ฉันกะพริบตา รู้สึกมึนงงไปหมด
“เดี๋ยวก่อน…ใครเนี่ย มาใช้โทรศัพท์พี่ซันได้ยังไง” ฉันถามเสียงสั่น มือสั่นเล็กน้อยเพราะความตึงเครียด
“ก็กู…เมียมันไง!” เธอพูดเสียงแข็ง ดุดันเต็มที่ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความโกรธและความหวง
ฉันกัดฟันแน่น รู้สึกหัวใจเต้นแรง
“ห๊ะ…พี่ซันมีเมียตอนไหน พี่เขาไม่เคยบอกเลยนะ มึงมั่วป่ะเนี่ย”
“ไม่เชื่อก็ช่าง… งั้นมึงคุยกับไอเหี้ยซันเองแล้วกัน!” เสียงเธอแหลมคม ทำให้ฉันสะดุ้งไปอีกครั้ง
ทันใดนั้น ฉันได้ยินเสียงตะโกนจากปลายสายดังลั่น
“ไอซัน! มาคุยกับชู้มึงเดี๋ยวนี้ เคลียร์ให้จบนะมึง ถ้าไม่จบ…มึงได้จบกับกูแน่!”
ฉันยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู มือเย็นชาไปหมด ใจเต้นแรง ความกลัว ความตื่นตระหนก และความสับสนปะปนกันจนแทบหายใจไม่ออก
ฉันกัดริมฝีปาก กำโทรศัพท์แน่น พยายามตั้งสติ แต่ก็รู้สึกเหมือนถูกดึงเข้าไปอยู่ในความวุ่นวายที่ฉันไม่สามารถควบคุมได้
“ฮะ…ฮัลโหล…น้องแจม” เสียงพี่ซันดังขึ้นจากปลายสาย แต่ครั้งนี้ฟังดูสั่นเครือ เหมือนเขากำลังพยายามสงบใจ
“พี่ซัน…พี่มีเมียแล้วจริง ๆ หรอ! เมื่อกี้ผู้หญิงที่คุยก่อนหน้า…คือเมียพี่ใช่ไหม!” ฉันถามเสียงสั่น มือกำโทรศัพท์แน่นจนข้อนิ้วขาว
“พี่…ขอโทษนะแจม…พี่เห็นแก่ตัวเอง พี่ผิดเอง พี่ยอมรับ…พี่เข้าหาแจมเพราะแจมรวย…พี่เอาเงินที่แจมให้ไปเลี้ยงแฟนพี่อีกที…พี่ขอโทษนะน้องแจม ที่ทำให้น้องเดือดร้อน”
คำสารภาพนั้นยิ่งจุดไฟโกรธในใจฉัน
“หึ…ไอเหี้ย! มึงหลอกกู! ไอสันขวาน! มึงทำแบบนี้ได้ไงวะ! มึงเล่นกับใจคนอื่นโคตรเหี้ยเลย! มึงมัน…เหี้ย ไอสัสซัน!”
ฉันตะโกนเสียงดังจนเหมือนจะทำให้ผนังห้องสั่น มือข้างหนึ่งกุมโทรศัพท์แน่น ใจเต้นแรงจากความโกรธและเจ็บปวด
“พี่…ขอโทษ…พี่ขอโทษจริง ๆ ที่พี่โกหก” เสียงพี่ซันสั่น ดูเหมือนเขาเริ่มสำนึก แต่ไม่อาจลดความเดือดดาลของฉันได้
ฉันสูดหายใจลึก ก่อนจะตะโกนต่อ
“มึงฟังกูนะ…ไอเหี้ยซัน! กูขอให้มึงโดนเมียทิ้ง มีลูกไม่ได้ คนอย่างมึง…สูญพันธุ์ไปเลย! แล้วเงินที่กูให้มึง…กูถือว่าทำบุญให้เหี้ยคนอย่างมึงที่กำลังจะสูญพันธุ์…อีควาย!”
ความโกรธทั้งหมดในตัวฉันพุ่งทะลุออกมาเต็มปากเต็มคำ ราวกับทุกคำพูดมีพลังทำลายล้าง
พี่ซันเงียบไปชั่วขณะ สายตาฟังดูอึดอัดและเจ็บปวด เขารู้ดีว่าคำพูดของฉันเหมือนมีดที่กรีดลึกตรงใจ
“ขอให้มึงกับกูไม่ต้องมาพบเจอกันอีก!”
ฉันตัดสายทิ้งทันที ก่อนจะเอามือปิดหน้าด้วยความเจ็บปวด น้ำตาไหลอาบแก้ม รู้สึกเหมือนทุกอย่างพังทลายรอบตัว
หัวใจฉันเต้นแรง มือยังสั่น ความโกรธ ความเสียใจ และความผิดหวังปนกันจนแทบหายใจไม่ออก
ฉันนั่งนิ่งอยู่บนเตียง ปล่อยให้น้ำตาไหล และคิดซ้ำ ๆ กับเรื่องที่เกิดขึ้น รู้สึกว่าตัวเองทั้งโดดเดี่ยวและถูกทรยศไปพร้อม ๆ กัน