ร่างสะโอดสะองที่นอนแผ่หลาอยู่บนเตียงที่มีขนาดเล็กพอดีตัวนอนหลับตาเมื่อทั้งหมดหยุดการเคลื่อนไหว เป็นอันรู้กันว่าเธอได้มาอยู่ตรงหน้าลูกค้าแล้ว หน้าที่ของเธอเพียงแค่นอนเฉย ๆ และให้ลูกค้าเชยชมเรือนร่างและรสชาติของซูชิ แต่เธอก็รู้ไม่มีใครดื่มด่ำหรอกทุกคนต่างมาเพราะต้องการซื้อบริการนอกเหนือจากการกินซูชิกันทั้งนั้น
และทุกคนต่างต้องการร่างแบบบางทรวดทรงที่เต็มไม้เต็มมือคนนี้ เพราะเคสของเธออยากเหลือเกิน เสร็จงานเธอจะไม่มีการต่อนอกรอบใด ๆ ทั้งสิ้น คือเธอไม่ขายตัวนั้นเอง
“สวยน่ากินฉิบหาย” หญิงสาวหมวดคิ้วเล็กน้อยเพราะเธอรู้ดีว่าที่เขาบอกว่าสวยนั้นคงไม่ใช่ซูชิ แต่เป็นเรือนร่างของเธอ
“มึงหยิบชิ้นอื่นก่อนสิ” เจแดนดุเล็กน้อยเมื่อน้องชายตัวแสบกำลังไปคีบซูชิตรงเนินเนื้อสามเหลี่ยมของหญิงที่มีผ้าบาง ๆ สีขาวและใบไม้ปิดไว้
“บอกแต่กูไอ้ใหญ่ มึงก็จ้องจะคีบตรงนมอย่างเดียวเลย” ดีแลนหันมาแยกเคี้ยวพี่ชายที่ว่าแต่ตนเอง แต่ตนเองกับกำลังคีบซูชิตรงหน้าอกของผู้หญิงอยู่
โมริค่อย ๆ ลืมตาขึ้นเพราะอยากเห็นผู้ชายสองคนนี้ที่ทำตัวทะเล้นลามกตั้งแต่เมื่อเธอมาถึง
“โอ้ ไอ้ใหญ่สาวน้อยลืมตาแล้ว” ดีแลนฉีกยิ้มกว้างมาให้เมื่อเห็นดวงตาคู่สวยมองมาที่พวกเขาทั้งสองคน
“อืม” เจแดนส่งเสียงในลำคอตามเดิม แต่สายตาของเขาก็จ้องมาที่ดวงตากลมโตคู่สวยไม่วางตา และใช้ตะเกียบคีบซูชิที่เนินหน้าอกของหญิงสาวเข้าปากและเคี้ยวอย่างช้า ๆ พร้อมไม่ละสายตาจากคนตัวเล็กแม้แต่น้อย
โมริเบนสายตาออกมาเล็กน้อยเมื่อเริ่มระแวงกับสายตาคู่นั้น ที่มองมาที่เธอไม่วางตาจนขนลุกแปลก ๆ เธอละสายตามามองอีกคนก็เห็นเขาฉีกยิ้มกว้างมาให้ แต่ในแววตาของเขาก็แฝงไปด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ที่พร้อมขย้ำลูกแกะอย่างเธอ อีกคนก็เหมือนสิงโตที่พร้อมขย้ำเหยื่อตรงหน้า
“สาวน้อยเธออายุเท่าไร”
โมริได้แต่เงียบเมื่อหนุ่มหน้าหล่อที่ฉีกยิ้มกว้างมองมาที่เธอตาเป็นมัน เธอได้แต่เงียบและต้องผงะตกใจกับสายตาที่เย็นยะเยือกเชิงดุมองมาที่เธอ เธอลองสำรวจทั่วใบหน้าและตามร่างกายก็เห็นรอยสักที่คอและที่แขนที่เขาถกเสื้อขึ้นมาที่ข้อพับซึ่งมันมีรอยสักทั้งสองข้าง
“ถามก็ตอบสิ” นี่ก็เป็นเสียงที่เย็นชาเอ่ยถามเธอออกมา ที่แตกต่างกับอีกคนที่นั่งยิ้มมาที่เธออย่างกับคนบ้า ผิดกับคนนี้ลิบลับสายตาของเขามันน่ากลัว แต่ก็ดูน่าค้นหามีเสน่ห์ชวนมองแปลกๆ
“อยู่ในระหว่างทำงานไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวได้ค่ะ รบกวนคุณสองคนลิ้มรสชาติของซูชิต่อเถอะค่ะ” เธอพูดจากึ่งประชดประชันและนอนหลับตาอีกครั้ง
“หึ..” เธอได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอ แต่ไม่รู้ว่ามาจากใคร และภายในห้องก็เงียบเชียบได้ยินแต่เสียงเครื่องปรับอากาศทำงาน พอเธอลืมตาขึ้นมาก็ไม่เห็นลูกค้าสองคนที่นั่งอยู่ตรงนี้แล้ว
“ไปไหนกัน” เธอพึมพำเพราะบนตัวของเธอยังมีซูชิอีกตั้งหลายคำพวกเขากินไปแค่สองคำเอง
“เป็นไงไอ้ใหญ่ถูกใจไหม” ดีแลนถามน้ำเสียงตื่นเต้นอีกครั้งและมองลอดผ่านกระจกฟิล์มดำและกันกระสุนเข้าไปในร้านอาหารญี่ปุ่นที่เขาพึ่งเดินกันออกมา
“อืม พรุ่งนี้เอาเข้ามาในห้องเลย” เสียงเย็นชาบอก หนุ่มหน้าทะเล้นที่เป็นน้องชายก็ยิ้มร่าไปด้วยความตื่นเต้นเมื่อนึกถึงกวางสาวน้อยดวงตาไร้เดียงสาคนนั้น
“ตื่นเต้นว่ะ” ดีแลนตบขาตัวเองไปด้วยความดีใจที่พรุ่งนี้จะมีของเล่นมาให้เล่น และเขาควักเงินออกมาสองปึกส่งให้ลูกน้องให้ไปจัดการตามที่ตนต้องการ
“อีโมริ! เอาเงินมาให้กู” ทันทีที่หญิงสาวก้าวขาเข้ามาภายในบ้านก็มีเสียงตะโกนเรียกจิกหัวเธอดังลั่น เธอได้แต่ผ่อนลมหายใจออกมายาว ๆ ด้วยความเบื่อหน่าย เธอจะออกไปอยู่ที่อื่นก็ไม่ได้เพราะไม่มีที่ซุกหัวนอนเงินทุกบาทที่ได้มาจากการทำงานก็โดนเจ้าของร้านยึดไปหมด เพราะเธอต้องทำงานใช้หนี้ที่เธอไม่ได้ก่อนั้นเอง
“ฉันไม่มีเงินหรอกพ่อ พ่อก็รู้เงินทุกบาทที่ได้มาเฮียที่ร้านก็เอาไปหมดเพราะใครกันล่ะ”
“อีโมริมึงกล้ายอกย้อนกูเหรอ”
“ใช่จะทำไม มีพ่อแบบนี้อย่ามีเลยดีกว่า ไม่รู้จะให้ฉันเกิดมาทำไม ถ้าเกิดมาแล้วต้องมาลำบากแถมต้องหาเงินให้คนอื่นใช้อีก” เธอย้อนกลับด้วยความโมโหและความน้อยใจเธอกลับมาจากทำงานเหนื่อย ๆ ยังไม่ทันได้กินน้ำหรือนั่งพักเลย คนอยู่บ้านเห็นหน้าเธอก็ขอเงินแล้ว ไม่รู้เห็นหน้าเธอแล้วคิดว่าเป็นธนาคารรึไงกัน
“มึงบ่นมาก มึงก็ไปหาที่ซุกหัวนอนที่อื่นสิอีโมริ เสือกกลับมานอนที่บ้านของกูทำไม” บรูโน ฮาสน่า หรือบิดาแท้ ๆ ของหญิงสาวยิ้มเหี้ยมเกรียมให้ลูกสาวที่เขาเกลียดยันเข้ากระดูก เพราะเขาคิดว่าตั้งแต่หญิงสาวเกิดมาก็นำเรื่องโชคร้ายมาให้ตลอด เมียก็หอบผ้าหอบผ่อนทิ้งหนี้ไป การพนันที่เล่นจากที่ทุกวันได้ดิบได้ดีแต่ตั้งแต่หญิงสาวเกิดมาเขาก็ดวงซวยอยู่ตลอด
“ฉันมีแค่ 5 ยูโร พ่อจะเอาไหม” เธอแกล้งถามเพราะรู้อยู่แล้วกี่บาทพ่อของเธอก็จะเอาไม่สนว่ามันจะมากหรือจะน้อย
“เออ เอามาให้กู แล้วมึงจะไปทำอะไรก็ไป” บรูโนพูดตอบกลับอย่างรำคาญ และคว้าเงิน 5 ยูโรที่ลูกสาวยืนให้ก่อนจะเดินออกไปจากบ้านด้วยท่าทีที่รีบร้อน
“ชีวิตอีโมรินี่ มันช่างดีเหลือเกิน” เธอตัดพ้อให้กับชีวิตของตัวเอง และเดินเข้าห้องและล้มตัวลงนอนอย่างหมดแรง
พลันสมองก็นึกถึงหน้าหล่อ ๆ ผู้ชายสองคนนั้นขึ้นมา ดูจากเสื้อผ้าพวกเขาน่าจะรวยไม่ใช่เล่น หน้าตาก็คล้าย ๆ กันคงจะเป็นพี่น้องกัน เธอนึกถึงกลิ่นน้ำหอมที่ติดตัวพวกเขาก็เริ่มรู้สึกผ่อนคลาย และพลางคิดตัดพ้อขนาดน้ำหอมของเขาอย่างดูดีมีระดับกว่าเธอเลย พลางคิดอิจฉาน้ำหอมเสียไม่ได้ที่ราคาแพงแล้วยังไปอยู่กับคนที่ดูดีมีระดับที่คนละชั้นกับเธออย่างลี้ลับ
จะมีสักวันไหมที่ฉันจะตื่นมาบนกองเงินกองทอง ไม่ต้องไปทำงาน ไม่ต้องดิ้นรนให้ใช้ชีวิตรอดไปวัน ๆ ไม่ต้องมาเหนื่อยกับคนอื่นที่ไม่เคยเห็นค่าของเธอ อยากกินอะไรก็กิน มีเงินให้ซื้อเสื้อผ้ากระเป๋าราคาแพง ๆ จะมีสักวันไหม
ร่างแบบบางคิดในใจและพยายามหลับตาลงและนอนฝันถึงชีวิตที่สวยหรู แค่เธอมีความสุขในความฝันก็เพียงพอแล้ว ถึงแม้ชีวิตจริงมันจะเฮงซวยก็เถอะ
************
สองแฝดจะซื้อแล้ว
โมริจะรอดไหมเอย
ตอนนี้ชีวิตนางเอกก็น่าสงสารเหลือเกิดทำงานหาเงินงก ๆ ใช้หนี้ให้คนอื่น
**สปอย ตอนหน้า**
“อะไรนะเฮีย จะให้ฉันออกไปทำงานนอกสถานที่เหรอ”
“ใช่”
“อะไรกัน ฉันก็บอกเฮียไปแล้วไงว่าฉันไม่ขาย”
“ฉันก็ไม่ได้บอกว่าเธอจะไปขาย ลูกค้าแค่มากินที่นี่ไม่ได้ เธอไปบริการข้างนอกมันก็เหมือนทำที่ร้านแหละโมริ”
“แล้วกินซูชิแบบปกติกันไม่ได้รึไง”