ลูกแมวหลงทางกับหมาป่าโรคจิต

699 คำ
“โอเค ..ตรวจทุกซอกทุกมุมแล้ว ผ่าน!” เมื่อเข้าห้องพักส่วนตัว นิดนารีก็รีบเช็คทันทีว่าภายในห้องมีการแอบติดตั้งกล้องวงจรปิดหรือเครื่องดักฟังหรือไม่ ตามประสาคนขี้ระแวง เพราะดูหนัง/ซีรีส์ในNetflixมาเยอะ “เข้าดงคนสีเทา ก็ต้องระวังตัวไว้หน่อยสิ เจ้าของเกาะเป็นไอ้บ้าโรคจิตซะขนาดนั้น!” เธอหยิบกล้องส่องทางไกลจากในกระเป๋าสะพาย เดินไปที่หน้าต่างห้อง ซึ่งมองเห็นคฤหาสน์สามชั้นตั้งตระหง่านเบื้องหน้า ผ่านปลายทิวไม้สูงๆ ต่ำๆ ซึ่งเป็นกำแพงกั้นระหว่างบ้านสองหลังเอาไว้ “ตอนนี้แกคงเสวยสุขอยู่บนนั้นสินะ ..ฮึ่ม! สักวัน ฉันจะพังเกาะแกให้พินาศย่อยยับ!!” ส่องคฤหาสน์สักพัก หูกลับได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากหญิงสาวแว่วมา เธอตกใจชะงัก ลดกล้องส่องทางไกลลง แล้วหันมองหาไปทั่วสวนป่า “เสียงร้อง! เสียงอะไร??” เธอกวาดตามองไปทั่วสวนป่า อาศัยแสงสลัวของเวลาเย็นย่ำ สอดส่องมองหาด้วยใจระทึก คิดไม่ตกเหมือนกันว่าถ้าเจอที่มาของเสียงจริงๆ เธอจะทำยังไงกับสถานการณ์นี้ “เอ๊ะ!” เมื่อสายตาหันไปเห็นบางสิ่งจากจุดไกลๆ เธอถึงกับตาเหลือก พยายามกระพริบตาหาจุดโฟกัสในแสงสลัว เพื่อจับภาพการเคลื่อนไหวของชายรูปร่างสูงใหญ่กับสาวชุดขาวที่ฉุดกระชากลากถูกันเข้าไปในแนวป่าทึนทึบด้านล่าง... “เฮ๊ย! คนรึเปล่าวะ!!” เธอยกกล้องส่งทางไกลขึ้นจับภาพจุดเดิม แต่ไม่เห็นสองคนนั้นแล้ว จึงเลื่อนกล้องส่องหาไปทั่ว แต่ก็ไม่เห็นแม้เงา “เฮ๊ย! หายไปไหนแล้ว ทำไงดี ทำไงดี ทำไงดี ถ้าไม่ใช่ผี แต่เป็นคนจริงๆ ล่ะ ผู้หญิงคนนั้นตกอยู่ในอันตราย!!” เมื่อคิดได้ดังนั้น เธอก็โยนกล้องส่องทางไกลลงบนเตียง หยิบโทรศัพท์มือถือติดมือออกจากห้อง เดินผ่านห้องเก็บของด้านหลังของบ้าน ตรงไปยังสวนป่าอันเงียบสงัด ราวกับป่าอาถรรพ์ ใบไม้แห้งปลิดปลิวว่อน อากาศเย็นยะเยือก เสียงแมลงร้องระงมไปทั่ว “อึ๋ย! อย่างกับป่าช้า!” แต่ความกลัวทำอะไรเธอไม่ได้ เพราะความอยากรู้อยากเห็นควบคุมเธอได้อยู่หมัดแล้ว เธอเร่งฝีเท้าไปยังจุดที่เห็นสองคนนั้นหายไป อย่างไม่ลังเลสักวินาที “นั่นไง!” สายตาของเธอวาดไปเห็นหลังผู้ชายไวๆ ขณะฉุดกระชากลากหญิงสาวชุดขาวผ่านซุ้มประตูโรมันโบราณที่เต็มไปด้วยกุหลาบเลื้อยรกเรื้อ “ไอ้โรคจิตเอ๊ย!” เธอไม่รอช้า วิ่งผ่านป้ายเขตต้องห้าม ตรงไปยังซุ้มประตูโรมัน เดินย่องผ่านซุ้มประตูออกไปก็พบกับสุสานเก่าแก่ขนาดเล็ก ท่ามกลางต้นไม้สูงใหญ่โอบล้อม และสวนอังกฤษที่ถูกทิ้งร้าง “โหววว...” เธอชะงัก ตกตะลึงกับภาพตรงหน้า กวาดสายตามองความงามที่ถูกทิ้ง จนไปจบที่ชายร่างสูงคนนั้น “โอ๊ะ!” เขายืนหันหลังให้เธอ มือรวบจับคอผู้หญิงคนนั้นแล้วผลักเจ้าหล่อนลงไปนั่งแหมะกลางดงหญ้า หน้าป้ายหลุมศพโบราณ “อึ๊บ!” นิดนารีพยายามระงับความตื่นเต้น ขยับตัวเข้าหลบหลังต้นไม้ใหญ่ แอบมองเหตุการณ์อย่างเงียบเชียบ พร้อมกดอัดคลิปวิดีโอผ่านมือถือไปด้วย “ฉันขอโทษ ฉันผิดไปแล้ว อย่าฆ่าฉันเลย!!” สาวชุดขาวมอซอ ผมยาวรกรุงรัง ยกมือไหว้งกๆ ร้องไห้วิงวอนร้องขอชีวิตจากชายร่างสูง เชิ้ตขาวที่เขาสวมเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด ปล่อยชายเสื้อหลุดลุ่ย กางเกงสเลคดำมีรอยเปื้อนดิน “เธอไม่ได้ผิดเลย ฉันต่างหาก” น้ำเสียงทุ้มนุ่ม สุดเย็นชา ไร้ปรานี และเลือดเย็นชวนลุก “ฮืออออ อย่านะ อย่า ฮือออ” เสียงร้องขอชีวิตของสาวชุดขาว ทำนิดนารีสั่นสะท้านไปด้วย เธอพยายามคุมสติให้อยู่กับเนื้อกับตัว ตั้งใจจะกดโทรหาศตายุ แต่กลับไม่พบสัญญาณ ‘ฉิบหาย!’ เธอจำต้องเก็บโทรศัพท์ไว้ในเสื้อชั้นใน ก้มลงหยิบท่อนไม้ขนาดเหมาะมือกำไว้แน่น
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม