ทางด้านเปรมวดี เธอตัดสินใจออกมาจากห้องพักนั้นหลังจากหนึ่งชั่วโมงที่เพชรรัตน์เดินจากไปแล้ว ชีวิตที่มีเพียงกระเป๋าเสื้อผ้าใบเดียวที่ติดตัวมาด้วย จึงตัดสินใจไปอาศัยอยู่กับเพื่อนสนิทที่เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน หอพักหญิงที่อย่างน้อยผู้ชายก็เข้ามากวนใจไม่ได้ แม้จะเป็นการหนีมาตั้งหลักชั่วคราว แต่สักวันเธอคงไปได้ไกลมากกว่านี้
“ขอบใจนะมุกที่ให้ที่พักเราในวันนี้ เราสัญญาว่าเราจะหาที่พักของตัวเองให้ได้เร็วที่สุด”
“อืม อยู่ ๆ ไปก่อนเถอะ แกไม่ต้องคิดมากหรอก”
°°°°
ไม่ถึงสามวัน หลังจากที่รู้ว่าเปรมวดีไม่ได้อยู่ที่อพาร์ตเม้นต์แห่งนั้นแล้ว เพชรรัตน์ก็ออกตามหา ตามรังควานชีวิตของเธอจนถึงมหาวิทยาลัย
ทันทีที่เปรมวดีเดินออกมาหน้ามหาวิทยาลัยหลังจากเรียนเสร็จ กำลังจะเดินกลับที่พัก หญิงสาวถึงกับสะดุ้งเฮือกเมื่อต้องพบเจอหน้าเขาอีกครั้ง ผู้ชายร่างสูงที่คุ้นหน้ายืนกอดอกจ้องมองมาด้วยสายตาที่ดุกร้าว
“คิดว่าจะหนีหน้าฉันพ้นงั้นสิฮะ?”
“คุณเพชร มาทำอะไรที่นี่คะ?”
“ฉันไปหาเธอที่ห้อง ไปหลายวันแล้วแต่ไม่เจอ”
“พอดีที่มหาวิทยาลัยงานยุ่ง ก็เลยไม่ได้กลับห้องค่ะ”
“โกหก! เธอตั้งย้ายออก เธอตั้งใจหนีหน้าฉัน เพราะเจ้าของตึกเขาบอกว่าเธอคืนห้องพักนั้นไปแล้วนี่ ฉันจะตามรังควานไปทุกที่ที่เธออยู่ ใครที่ให้ที่พักพิงเธอมันจะเดือดร้อนไปด้วยหมดทุกคน!”
เปรมวดีมองจ้องหน้าของคนที่เอาแต่ใจด้วยความเหนื่อยหน่าย นี่แหละคือเพชรรัตน์ เธอถึงไม่เคยหลุดพ้นจากชีวิตเขาได้เลย
“เปรมขอร้องล่ะ อย่ามายุ่งเกี่ยวผูกพันกันอีกเลย เปรมขอไปมีชีวิตของเปรม ถ้าคุณเพชรยังไม่เลิกยุ่งกับเปรมแบบนี้ เปรมจะหนีไปให้ไกลเลย!”
“คิดว่ามีปัญญาหนีฉันงั้นสิ? มีเงินเก็บกี่บาทถึงคิดจะออกไปใช้ชีวิตเองไหว เธออยู่บนโลกของความเป็นจริงเปรมวดี ถ้าไม่มีฉันคอยเลี้ยงดู ถ้าไม่มีคุณลุงฉันเลี้ยงดู เธอจะเอาตัวเองรอดไหม?”
“มันต้องรอดสิคะ ไม่มีใครเอาชีวิตตัวเองไม่รอดหรอก ใครจะปล่อยให้ตัวเองตาย อีกไม่กี่เดือนเปรมก็จะเรียนจบ มีชีวิตที่ดีกว่านี้ ไม่ต้องเป็นหนี้บุญคุณของใครอีก”
“ปากดีนักนะ ปากเก่งตลอดเวลา คิดจะต่อต้านฉัน คิดจะทำให้ฉันโมโหงั้นสิ ชอบใช่ไหมเวลาที่เห็นฉันใจร้าย”
สายตาคนทั้งคู่ที่มองดุดัน ต่างคนต่างไม่ยอมแพ้ ข้อมือของหญิงสาวถูกจับหมับเข้าอย่างแรง “โอ้ย!” ก่อนจะโดนลากจูงให้ไปขึ้นรถที่จอดอยู่ไม่ไกลจากที่คนทั้งคู่กำลังยืนอยู่ตอนนี้
“ปล่อยนะ เปรมไม่ไป คุณเพชรจะพาเปรมไปไหน ปล่อยเดี๋ยวนี้!”
เสียงเอะอะโวยวายก็ดังขึ้น แต่มีหรือว่าเขาจะฟังเสียงนั้นที่เธอร้องขอ จับยัดคนตัวเล็กให้เข้าไปนั่งภายในรถที่เบาะด้านหลังคนขับและตัวเองก็เข้าไปนั่งลงเคียงข้างกัน
“ออกรถเลยภูมิ ให้ไว!” พร้อมกับสั่งคนขับรถที่พ่วงตำแหน่งเลขาคนสนิทให้รีบขับออกไปจากตรงนั้นโดยเร็ว
ใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงก็มาถึงบ้านพักแห่งหนึ่งที่ดูไม่คุ้นตา หลังใหญ่โตโอ่อ่าแต่เงียบเหมือนไม่มีใครพักอาศัย
“เราไม่ควรยุ่งเกี่ยวกันอีกนะคะคุณเพชร คุณเลือกผู้หญิงได้มากมายบนโลกใบนี้ ทำไมต้องเป็นเปรมที่ต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้ด้วย?”
“เพราะฉันเลือกเธอไง มันก็เลยต้องเป็นเธอ”
“แต่เปรมไม่อยากเป็นเด็กเลี้ยง ไม่อยากเป็นผู้หญิงของคุณ ไม่อยากเป็นเมียเก็บหรือเมียบำเรอใครนะคะ”
“นั่นมันเป็นปัญหาของเธอ มันไม่ใช่ปัญหาของฉัน ถ้าวันนี้ฉันอยากได้เธออยู่ เธอก็ต้องอยู่เป็นผู้หญิงของฉัน! ฉันยังไม่เบื่อ ฉันยังไม่ได้สั่งให้เธอไปไหน เธอก็ห้ามไปไหนเด็ดขาดเปรมวดี!”
“คุณมันใจร้ายที่สุดเลย คุณไม่เคยเห็นใจใคร คุณเห็นแต่ความสุขของตัวเอง อยากได้อะไรคุณก็ต้องได้ คุณไม่เคยนึกถึงจิตใจของเปรมหรอกว่าเปรมอยากจะเป็นผู้หญิงแบบนั้นให้คุณหรือเปล่า ทำไมคะเพราะชีวิตของเปรมมันเลือกไม่ได้ มันก็เลยต้องตกอยู่ภายใต้อำนาจของคุณตลอดเวลาแบบนี้หรือยังไง?”
เพชรรัตน์เดินตรงไปที่เคาน์เตอร์บาร์ ก่อนจะรินน้ำสีอำพันลงในแก้วเกือบครึ่งแก้ว พร้อมกับกระดกสาดลงลำคอไปจนไม่เหลือสักหยดเลย
ขาสูงยาวเดินกลับไปยังโซฟาที่เปรมวดีนั่งอยู่ เขานั่งลงเคียงข้างพร้อมกับยกฝ่ามือจับเชยคางมนให้หันหน้ากลับมาเผชิญกันอีกครั้งแต่เปรมวดีพยายามสะบัดใบหน้าหนี ก็ถูกฝ่ามือหนาบีบล็อคคางมนเอาไว้แน่น
“โอ้ย! เจ็บนะคะคุณเพชร!”
ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นริมฝีปากหนาก็ทาบทับลงไปบนเรียวปากอวบอิ่ม ลมหายใจที่เป่ารดกัน กลิ่นแอลกอฮอล์ที่เขาเพิ่งดื่มเข้าไปเมื่อครู่ ทำเอาเปรมวดีถึงกับต้องรีบผลักอกเขาออกอย่างแรง วิ่งพะอืดพะอมตรงไปยังห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกลจากตรงนั้น
เพชรรัตน์เดินตามหลังไปติด ๆ เสียงอาเจียนดังโอ้กอ้ากออกมาให้ได้ยิน เขาเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปพร้อมกับช่วยลูบหลังให้เบา ๆ
“เป็นอะไรน่ะ ไม่สบายหรือยังไง”
เปรมวดีล้างหน้าล้างปากจนเสร็จเรียบร้อย ก่อนจะหันกลับมามองจ้องหน้าเขา ที่กำลังทำหน้านิ่วคิ้วขมวดจ้องมองเธออยู่
“เหม็นกลิ่นเหล้าที่คุณดื่มไปเมื่อกี้”
“ทำยังกับคนแพ้ท้อง แค่กลิ่นเหล้ามันจะเหม็นอะไรกันนักกันหนานะ เวลาออกไปพบลูกค้าฉันก็เมากลับไปหาเธอออกจะบ่อย ก็ไม่เห็นจะอาเจียนแบบนี้สักที มีอะไรปิดบังฉันหรือเปล่า”
เปรมวดีถึงกับกลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงคออึกใหญ่ เมื่อถูกเขาถามขึ้นมาแบบนั้น
“มะ ไม่มีค่ะ”
“แต่วันนั้นเธอบอกมีเรื่องจะคุยกับฉันนี่นา เรื่องอะไรเธอยังไม่ได้พูดเลยนะ?” เขาไม่ลืมที่จะถามเมื่อนึกขึ้นได้ เพราะหลังจากนั้นที่กลับมาก็ดันมีปากเสียงให้ต้องทะเลาะกัน ยังไม่ได้คุยกันเป็นเรื่องราวอีกครั้งเลย
“เปรมลืมไปแล้วค่ะ ไม่มีอะไรที่จะพูดแล้ว พาเปรมกลับไปส่งที่ห้องเพื่อนเถอะนะคะ เปรมยังต้องรีบกลับไปทำงานส่งอาจารย์พรุ่งนี้อีก”
สายตาที่อ้อนวอนขอร้อง จ้องมองหน้าคนตรงหน้าตาไม่กระพริบ แววตาที่ดูเศร้า สีหน้ามีแต่ความกังวลใจ เพชรรัตน์เข้าใจว่าเธอคงคิดมากกับสิ่งที่เขาเพิ่งประกาศออกทีวีไปเมื่อหลายวันก่อน เลยไม่ได้คาดคั้นหรือซักถามให้เธอรู้สึกไม่ดีไปมากกว่านี้อีก
“ฉันมีคอนโดให้เธออยู่ เธอไปอยู่คอนโดฉันก็แล้วกัน”
“ไม่ค่ะ เปรมจะไม่ไปอยู่ในที่ของคุณเด็ดขาด คุณไม่ต้องเข้าใจเปรมก็ได้ แต่ขอให้เห็นใจเปรมเถอะนะคะคุณเพชร”
“ฉันไม่เห็นใจ และฉันก็ไม่เข้าใจเธอด้วย ทำตามที่ฉันสั่งซะ อย่าให้ฉันต้องโมโหไปมากกว่านี้นะเปรมวดี!”