ความรู้สึกด้านชาไปตั้งแต่ศีรษะจนถึงปลายเท้า ฝ่ามือเรียวเล็กยังคงกอบกุมแท่งตรวจครรภ์เอาไว้ในมืออย่างแน่น หัวใจดวงน้อยที่เคยเต้นแรงอยู่แล้ว ในตอนนี้ยิ่งเต้นระรัวยิ่งกว่ากลองเพลเสียงั้น ‘เปรมวดี’ แทบจะเป็นลมล้มพับ เมื่อค่อย ๆ ชำเรืองสายตามองเห็นขีดสีแดงอ่อนชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนจะเป็นสองเส้นคู่ขนานกันเด่นชัด ทำให้ช็อคหนักแทบทำอะไรไม่ถูก เครื่องตรวจการตั้งครรภ์ที่ถือเอาไว้ในมือตอนนี้พิสูจน์แล้วว่าสิ่งที่ร่างกายเธอผิดปกติมาเป็นเดือนคืออะไร
เธอกำลังตั้งครรภ์!! มันจะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไงนะ นี่ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะเกิดขึ้นเลยสักนิดเดียว
ใบหน้าสวยหวานแลดูซีดเผือด เสียงเหนื่อยหอบแรงคล้ายคนกำลังจะขาดอากาศ รู้สึกสับสนปนเปกับชีวิตนับจากนี้มากเหลือเกิน เธอควรจะทำอย่างไรต่อไปกับสิ่งที่มันเกิดขึ้นในเวลานี้ บอกกับเขาคนนั้น? เก็บเอาไว้หรือต้องทำลายทิ้งก่อนที่จะสายเกินแก้?
“ทำยังไงดี ถ้าขืนเป็นแบบนี้เราเองก็คงจะเรียนไม่จบ แล้วอนาคตต้องไปต่อแบบไหนนะ”
น้ำเสียงสั่นเครือถามตัวเองออกมาทั้งน้ำตาที่ล้นเอ่อ เธอไม่พร้อมจะเป็นแม่เลยในตอนนี้ ทั้งที่อีกไม่กี่ก้าวจะสำเร็จการศึกษาในปีสุดท้ายก่อนรับปริญญาตรีแล้ว แต่เธอกลับพลาด อนาคตที่เคยสดใสมีหวังต้องดับลงเพราะมือของผู้ชายคนนั้น ทำไมเขาต้องทำลายชีวิตเธอ ทำไมเขาถึงต้องทำให้เธอต้องทุกข์ใจอย่างตอนนี้
ก๊อก ๆ ๆ ๆ
เสียงประตูห้องน้ำถูกเคาะขึ้น ทำให้คนที่อยู่ภายในสะดุ้งตกใจจนแท่งตรวจครรภ์ในมือร่วงหล่นลงกับพื้น
“มัวทำอะไรอยู่นะเปรมวดี”
เสียงทุ้มที่ฟังดูหงุดหงิดเล็ดลอดเข้ามาภายใน คนที่นั่งอยู่ภายในห้องน้ำสะดุ้งตกใจรีบดีดตัวลุกขึ้นยืนแทบไม่ทัน หยิบเครื่องมือตรวจการตั้งครรภ์ทิ้งลงไปในถังขยะอย่างเร็ว ตั้งใจว่าหลังจากที่คนข้างนอกกลับออกไปจากห้องแล้วจะรีบนำมันไปทิ้งให้ไกลในทันที
ก่อนจะรีบเดินไปเปิดประตูออกช้า ๆ หลังบานประตูมีชายรูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้าหล่อเหลากำลังยืนทำหน้าบึ้งตึงจ้องมองเธออยู่อย่างไม่สบอารมณ์ สายตาคู่คมดุยังคงจ้องมองหน้าเธอตาไม่กระพริบ คิ้วเข้มที่พาดผ่านเหนือดวงตาคมมีแววตาหงุดหงิดให้ได้เห็น 'เพชรรัตน์' มองคนตรงหน้าด้วยความไม่เข้าใจ เพราะคนที่เคยนอนอยู่บนเตียงกลับหนีไปอยู่ในห้องน้ำเสียนานเลย ทิ้งให้เขาต้องนอนรออยู่คนเดียวนานเกือบชั่วโมงแล้ว
“เธอมันก็ยังงี่เง่าเอาแต่ใจเหมือนเดิม รู้ทั้งรู้ว่าเวลาฉันมาหาจะต้องทำตัวยังไงบ้าง! แต่ก็ยังชอบทำตัวกวนอารมณ์ กวนประสาทฉันไม่เลิก เธอจะเรียกร้องความสนใจอะไรกันนักกันหนานะ กว่าจะปลีกตัวมาได้ก็แสนจะยากลำบากและวุ่นวาย พอฉันมาหาก็พาตัวเองหนีเข้าไปอยู่ในห้องน้ำ เข้าไปทำอะไรตั้งนานฮะ!”
“เปรมแค่มาเข้าห้องน้ำค่ะ ไม่ได้คิดจะหลบหนีหน้าอะไรเลยค่ะคุณเพชร”
“ฉันไม่เข้าใจว่าเข้าห้องน้ำแต่ละครั้ง มันต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมงขนาดนี้เชียวเหรอ ฉันจะกลับแล้ว ไปเตรียมรองเท้าแล้วก็ชุดให้ฉันด้วย” เสียงทุ้มออกคำสั่งอย่างไม่สบอารมณ์ แทนที่จะมาหาแล้วรู้สึกผ่อนคลายอารมณ์ขึ้น แต่กลับทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดหัวเสียแทนซะงั้น
เปรมวดีพยักหน้าไม่กล้าสู้สายตาเหมือนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นเรื่องใหญ่สำหรับชีวิต ในใจของหญิงสาวกำลังสั่นกลัว ไม่รู้ว่าตัวเองสมควรจะพูดออกไปตอนไหนดี
เพราะสถานะของผู้หญิงร่วมห้องมันเกิดตั้งแต่ครั้งที่ชายหนุ่มลงมือรังแกอย่างไม่ตั้งใจ เปรมวดีเข้าใจดีว่าในสายตาของเพชรรัตน์ไม่เคยมองเธอเป็นคนรัก หรือแม้แต่คนที่เขาควรจะหยิบยื่นความเมตตาให้ แต่ก็ไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะเหตุใดเขาจึงยอมอาศัยร่างกายของเธอเป็นเครื่องระบายอารมณ์เสมอมา ทั้งที่ชีวิตมีตัวเลือกมากมายกว่านี้มาก มีผู้หญิงที่เขารัก มีคนที่เขาคู่ควร แต่เขาก็ยังมายุ่งเกี่ยวกับเธอตลอด เป็นความสัมพันธ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก สำหรับเธอแล้วไม่ได้อยากอยู่ในสถานะเช่นนี้เลย
รองเท้าหนังขัดเงาวับ พร้อมกับเสื้อผ้าที่นำส่งไปซักรีดอย่างดี ถูกแขวนไว้ในตู้เสื้อผ้าภายในอพาร์ตเม้นต์เล็ก ๆ ถูกหยิบมาให้กับเจ้าของได้สวมใส่ อพาร์ตเม้นต์ที่ไม่มีใครรู้จักว่าอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับบ้านวิบูลเทวัญ เป็นสถานที่ที่เปรมวดีออกมาอาศัยอยู่คนเดียวที่นี่เกือบปีแล้ว
ใบหน้าสวยหวานที่กำลังจับจ้องมองดูเพชรรัตน์แต่งตัวอยู่ ชั่งใจอยู่เพียงครู่กับสิ่งที่กำลังสับสน ก่อนจะค่อย ๆ เอ่ยขึ้นเบา ๆ ด้วยความกล้า ๆ กลัว ๆ
“คุณเพชรคะ เปรมมีเรื่องอยากจะคุยด้วย“
เพชรรัตน์สวมเสื้อเชิ้ตเสร็จหลังจากที่สวมกางเกงอย่างรีบร้อน ตรวจเช็คความเรียบร้อยของตัวเองในกระจกผ่าน ๆ แล้วรีบเดินมายังด้านหน้าห้องพัก เพื่อที่จะสวมรองเท้าที่เปรมวดีวางไว้รอให้
ทันทีที่เห็นว่าเขากำลังจะไป จึงรีบร้อนพูดขึ้นอีกครั้ง เพราะถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องใหญ่ที่สุดในชีวิตของเธอแล้ว ปัญหานี้มันใหญ่มาก ใหญ่เกินกว่าที่เธอจะเก็บเอาไว้เพียงลำพัง เขาควรรู้ในเมื่อเขาเป็นคนทำให้ปัญหานี้มันเกิดขึ้น
“ขอเวลาสัก 5 นาทีได้ไหมคะ เปรมมีเรื่องจะคุยด้วยค่ะ”
“ตอนฉันอยู่ที่นี่กับเธอทั้งคืนทำไมเธอไม่พูด ตอนนี้ฉันไม่ว่างจะฟัง ฉันต้องรีบไปแล้ว วาเขากำลังรออยู่ วันนี้มีนัดกินข้าวกันด้วย ถ้าไปช้าเดี๋ยวมันจะวุ่นวายอีก เอาไว้คุยวันหลังเถอะนะเปรมวดี”
“คุยวันหลังไม่ได้ค่ะ ต้องคุยวันนี้และเดี๋ยวนี้”
ดวงตาคมดุหันมามองด้วยความหงุดหงิดอีกครั้ง
“ก็บอกว่าไม่ว่าง ฉันต้องรีบไปหาวาตอนนี้ พูดภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไงนะ น่ารำคาญว่ะ!”
หัวใจของคนที่ได้ยินถึงกับเจ็บแปลบ ไม่ใช่ว่าไม่รู้แต่ที่แท้แล้วรู้ดีว่าสถานภาพของตัวเองคืออะไร และผู้หญิงที่เขารีบไปหาคือคนสำคัญสำหรับชีวิต ส่วนเธอไม่มีความสำคัญอะไรกับชีวิตเขาทั้งนั้น!
เพชรรัตน์ก้าวเท้าออกไปจากห้องพัก ในขณะที่เปรมวดียังคงยืนตัวสั่นทำอะไรไม่ได้ น้ำตาไหลลงอาบแก้ม สองมือกำหมัดแน่นเอาไว้ข้างกาย มองจ้องดูแผ่นหลังกว้างของคนที่แสนเย็นชาเดินลับหายสายตาออกไปด้วยความจุกอก
ค่ำคืนที่ผ่านมาเขาร้อนแรงเหมือนเปลวไฟที่แผดเผา ไม่เคยปล่อยให้เธอได้มีเวลาพักหายใจเลยตั้งครึ่งค่อนคืน แต่เมื่อทุกอย่างจบลงสิ่งที่เขาทิ้งเอาไว้ให้ คงมีเพียงแค่ความเฉยชาเหมือนคนที่ไม่เคยรู้จักมักคุ้นกัน
หัวใจของเปรมวดีเจ็บปวดเมื่อคิดถึงสถานภาพของตัวเองและลูกน้อยในครรภ์ อนาคตข้างหน้าที่ใกล้จะมาถึง ต้องทำยังไงต่อ ทางออกของชีวิตในตอนนี้มันต้องเป็นแบบไหนกัน?