ตอนที่7 แสงสว่างส่องชีวิต

1745 คำ
ระหว่างทางที่เดินมา จนกระทั่งมาถึงสะพานข้ามฟากแห่งหนึ่ง สายตาของเปรมวดีต้องเบิกโพรงขึ้นความตกใจ ตอนแรกนึกว่าตาฝาดถึงกับยกมือขึ้นขยี้ดวงตาตัวเองหลายครั้ง เมื่อมีผู้ชายคนหนึ่งทำทีท่าเหมือนว่ากำลังจะโดดสะพานฆ่าตัวตาย ทำให้เธอต้องรีบสาวเท้าวิ่งเข้าไปร้องตะโกนห้าม “คุณคะคุณ จะทำอะไร หยุดนะ” ผู้ชายคนนั้นหันกลับมามองหน้า บนใบหน้าเขาเต็มเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มไม่ต่างจากเธอเลย “ไม่ต้องมายุ่งกับผม ผมไม่อยากอยู่บนโลกใบนี้อีกแล้ว” “คุณก็เลยจะฆ่าตัวตายเหรอคะ นี่เหรอทางออกของชีวิตที่คุณเลือก มันไม่ใช่ทางออกที่ดีหรอกนะ คุณคิดใหม่ดีกว่าไหม?” “คุณไม่เข้าใจผมหรอก คุณไม่เป็นผมคุณก็พูดได้” “ชีวิตฉันก็ไม่ได้โหดร้ายไปน้อยกว่าคุณหรอกนะ คุณไม่ใช่คนโชคร้ายคนเดียวซะเมื่อไหร่กัน ดูอย่างฉันสิฉันเพิ่งจะโดนคนขับแท็กซี่เกือบจะข่มขืนมา ชีวิตฉันโคตรโหดร้ายเลย หนีเสือปะจระเข้ เกือบเอาชีวิตไม่รอดเลยด้วยซ้ำ” เสียงร้องไห้ปล่อยโฮของเปรมวดีก็ดังขึ้นจนกลบเสียงร้องของอีกฝ่าย พร้อมกับร่างบอบบางทรุดตัวนั่งลงอย่างคนหมดสภาพ ทำเอาคนที่คิดจะโดดสะพานเมื่อครู่ถึงกับหยุดชะงัก พร้อมกับกระโดดลงมานั่งลงเคียงข้างเปรมวดีแทน “เฮ้…คุณหยุดร้องไห้ก่อนได้ไหม คุณมาจากที่ไหน กำลังจะไปไหน?” “ฉันไม่รู้ว่าฉันจะไปไหนต่อ ฉันไม่มีที่ไป ฉันไม่มีญาติพี่น้อง ไม่มีบ้านให้ต้องกลับ คุณเห็นไหมว่าชีวิตฉันมันโหดร้ายกว่าที่คุณคิดมาก ฉันไม่รู้หรอกนะว่าคุณพบเจออะไรมาบ้าง แต่คุณเชื่อฉันเถอะว่าถ้าคุณกระโดดน้ำลงไปมันไม่ใช่ทางออกที่ดีหรอก” เปรมวดีจ้องมองคนที่นั่งอยู่ข้างกายทั้งน้ำตา ชายแปลกหน้าก็จ้องมองเธอกลับไม่วางตาเช่นกัน ก่อนที่เขาจะพิงหลังราบไปกับราวสะพาย น้ำตาก็ยังคงไหลอาบแก้มเป็นทางยาวอยู่แบบนั้น “ผมอกหักจากผู้หญิงคนนึง ผมให้เขาทุกอย่างที่ผมมี เงินทองและความรัก แต่สิ่งที่ผมได้กลับคืนมามันมีแต่ความเจ็บปวดและคำว่าหลอกลวง ผมเหมือนผู้ชายโง่คนหนึ่งที่หูหนวกตาบอด มองไม่เห็นอะไรเลย คุณรู้ไหมชีวิตผมแทบล้มละลาย เงินเก็บทุกบาทที่ผมมีเขาก็เอาไปหมดแล้ว เขาทิ้งหนี้ก้อนโตให้ผมต้องชำระให้ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะอยู่ต่อไปทำไม” “มันเป็นของนอกกายไม่ใช่เหรอคะ ถ้าคุณมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ ของพวกนั้นคุณก็หาใหม่ได้ ทำไมคุณต้องเอาชีวิตไปตายเพื่อใครที่ไม่รักไม่จริงใจกับคุณด้วยล่ะ กว่าคุณจะเกิดมาโตได้ขนาดนี้ คุณไม่สงสารพ่อแม่คุณหรือยังไง คุณเสียใจเพราะผู้หญิงคนนั้น แต่คุณลืมไปหรือเปล่าคุณอาจจะมีพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักคุณมากกว่าอะไรบนโลกใบนี้ คุณชื่ออะไร?” “ชานนท์ แล้วคุณล่ะ?” “เปรม เปรมวดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคุณชานนท์” ชานนท์หันไปมองหน้าหญิงสาวคนแปลกหน้า พร้อมกับยิ้มส่งให้เพียงเล็กน้อย คำพูดของหญิงสาวทำให้คนที่ได้ฟังถึงกับฉุกคิดขึ้น “เรียกผมว่านนท์ก็ได้ คุณจะไปที่ไหนครับ มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่า?” “ฉันยังไม่รู้เหมือนกันค่ะ มันไม่มีจุดหมายปลายทางในชีวิต ฉันรู้แค่ว่าฉันต้องเดินออกมาจากที่ที่ฉันเพิ่งเดินจากมา แต่คุณรู้ไหมฉันไม่ได้ออกมาตัวคนเดียว ฉันกำลังท้องทั้งที่ยังเรียนไม่จบด้วยซ้ำ ฉันยังไม่รู้เลยว่าฉันจะเอายังไงกับวันพรุ่งนี้ ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าคืนนี้ฉันจะไปนอนที่ไหน” ชานนท์ได้แต่รับฟังความทุกข์ของอีกฝ่ายด้วยความเห็นอกเห็นใจ เขาคิดว่าตัวเองเจอแต่เรื่องแย่ ๆ แต่คนแปลกหน้าข้างกายยังดูน่าสงสารกว่าเขามากมายเหลือเกิน ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ต้องมาเดินอยู่บนถนนที่แสนเปลี่ยวและเดียวดาย “คุณหนีพ่อของลูกมาเหรอครับ เขาทำไมปล่อยให้ลูกกับเมียต้องมาเผชิญอันตรายแบบนี้นะ” “มันเป็นความสัมพันธ์ที่อธิบายยากค่ะ เขาไม่ได้รักฉัน เขากำลังจะแต่งงานมีครอบครัว วันนี้ฉันก็เลยอยู่ตรงนั้นไม่ได้ ฉันเลยคิดว่าต้องไปตายเอาดาบหน้าเท่านั้น ไปมีชีวิตของตัวเองสักที แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปอยู่ที่ไหน ถึงจะไม่ได้ต้องพบเจอกับเขาคนนั้นอีก เขาต้องตามหาฉันแน่ ๆ” “ไปอยู่กับผมก่อนไหม เดี๋ยวคุณมีที่อยู่ใหม่ก็ค่อยขยับขยายออกไป บ้านอาจจะไม่หรูหราใหญ่โตเท่าไหร่นัก แต่คุณจะปลอดภัยผมเชื่อแบบนั้น” เปรมวดีจ้องมองหน้าของคนแปลกหน้าที่เพิ่งเจอกัน เขาดูเป็นคนดี ดูเป็นคนที่จริงใจ ไม่ได้ดูน่ากลัวจนไม่น่าเชื่อใจเลยสักนิด อีกอย่างเธอไม่มีตัวเลือกให้ชีวิตมากนัก ข้อเสนอที่เขายื่นมาให้ก็ฟังดูไม่เลวเท่าไหร่เลย อย่างน้อยคืนนี้ก็คงมีที่พักพิงให้ได้อาศัยอยู่ไปก่อน จากสะพานที่ยืนอยู่เมื่อครู่นี้ไม่ไกลกันนัก เปรมวดีทำได้เพียงเดินตามหลังของชานนท์มาจนถึงบ้านพักหลังเล็กที่อยู่ในซอยลึก มีบ้านเรือนปลูกสร้างอยู่ไม่กี่หลัง แต่ก็ดูสงบและน่าอยู่ไม่น้อยเลย ถ้าให้เดาคงเป็นหมู่บ้านจัดสรรที่เพิ่งเกิดใหม่ “คืนนี้คุณคงต้องพักอยู่ที่นี่ก่อนนะครับ เดี๋ยวตอนเช้าผมพาคุณไปดูบ้านของป้าผมอีกหลัง ไม่มีใครอยู่ที่นั่น เขาย้ายไปอยู่ตปท.กันหมด อาจจะพอให้คุณได้อยู่พักอาศัยไปก่อน จนกว่าอะไรในชีวิตของคุณจะเข้าที่เข้าทางมากกว่านี้” “ขอบคุณนะคะคุณนนท์ ในความโชคร้ายของชีวิต ฉันก็ยังได้เดินมาพบเจอกับคุณได้ทันเวลาพอดี” “ผมสิต้องขอบคุณคุณ ถ้าไม่มีคุณเปรมมาห้ามเอาไว้ ผมก็ไม่รู้ว่าจะได้มายืนคุยด้วยกันตอนนี้ไหม” “ไม่ต้องเรียกเปรมว่าคุณนะคะ เปรมอายุห่างจากคุณนนท์มาก” เปรมวดีสอดส่ายสายตามองไปรอบ ๆ บ้านพักของเขา ผู้ชายคนนี้เป็นคนมีความรู้และความสามารถมากพอตัว แต่ทำไมถึงได้คิดทำอะไรแบบนั้น คงเป็นอารมณ์เพียงชั่ววูบสินะ เธอดีใจที่มีโอกาสช่วยทำให้เขาได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง “คุณนนท์เป็นหมอด้วยเหรอคะ?” “ครับ ผมเป็นศัลยแพทย์ เปรมคงคิดว่าผมโง่สินะ ที่คิดจะฆ่าตัวตายแบบนั้นได้ ช่างน่าขำมากเลยนะครับ” “ไม่หรอกค่ะทุกคนก็มีอารมณ์ชั่ววูบด้วยกันทั้งนั้น เปรมยังเคยคิดที่อยากจะเอาเด็กออกอยู่เลยค่ะ แต่มันก็คงได้แค่คิดเพราะถ้าจะให้ทำจริง ๆ เปรมก็คงทำไม่ลง” “เปรมคิดถูกแล้ว เขาบริสุทธิ์เกินกว่าที่เราจะทำร้ายเขาได้ ไม่เป็นไรถ้าเปรมอยู่ใกล้ผม ผมจะช่วยดูแลเปรมช่วยดูแลเด็กที่กำลังจะเกิดมาเอง” เปรมวดียิ้มรับด้วยความรู้สึกดี เป็นความรู้สึกอบอุ่นหัวใจที่ได้รับจากคนแปลกหน้าคนหนึ่งแบบนี้ อย่างน้อยวันนี้ที่เดินออกมาใช้ชีวิตด้วยตัวเองเต็มร้อย ก็พบเจอทั้งเรื่องดีและไม่ดี เป็นประสบการณ์ชีวิตที่เธอคงต้องเรียนรู้การใช้ชีวิตยังไงให้ตัวเองอยู่รอด ทางด้านเพชรรัตน์ ตั้งแต่รู้ว่าเปรมวดีหนีหายออกจากห้องพักไป อารมณ์เขาก็ไม่คงที่จนไม่มีใครสู้หน้าได้เลยในตอนนี้ “บ้าฉิบ! ผู้หญิงคนเดียวทำไมพวกแกถึงตามหากันไม่เจอวะ!” “โธ่เจ้านายครับ! กรุงเทพฯ ก็ใหญ่โตขนาดนี้จะให้พวกผมไปตามหาที่ไหนกันครับ นี่ผมก็ไปสั่งให้ทุกสำนักสืบให้ช่วยแล้วนะ เจ้านายจะให้เจอเพียงในไม่กี่ชั่วโมง มันเป็นไปไม่ได้หรอกครับ หรือไม่ก็ต้องรอให้คุณเปรมโทรติดต่อกลับมาเอง” “รองั้นเหรอ แกก็รู้ว่าเขาไม่เคยคิดจะติดต่อกลับมาถ้าฉันไม่เป็นคนไปตามกลับมาเอง!” เสียงทุ้มตวาดลั่นใส่หน้าเลขาคนสนิท ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ที่เขาจะเป็นแบบนี้ แต่เป็นเรื่องปกติที่ภูมิภัทรเลขาคนสนิทได้ประสบพบเจอมาตลอดสองปี “แกจะไปไหนก็ไปเลยไอ้ภูมิ ยิ่งเห็นหน้ายิ่งหงุดหงิด ไม่ได้เรื่อง!” “ครับ ขอโทษครับเจ้านาย” ภูมิพงศ์ถึงกับส่ายหน้าให้ ก่อนจะรีบเดินหนีออกจากห้องไปตามคำสั่ง ห้องพักเหลือเพียงเขาให้นั่งเงียบอยู่ตามลำพังอีกหน ฝ่ามือหนาพยายามกดเบอร์โทรหาเปรมวดีอีกรอบ แต่ตอนนี้เสียงโทรศัพท์มือถือกลับดังขึ้นอยู่ภายในห้องนอน จนร่างสูงต้องเดินเข้าไปหยิบมาดู หน้าจอปรากฏชื่อ ‘ผู้ชายเลว’ “หึ ผู้ชายเลวงั้นเหรอ ถึงฉันจะเลวฉันก็เป็นผัวเธอนะยัยบ้า!! ลืมอะไรไม่ลืมดันลืมโทรศัพท์ซะงั้น ถ้ามีเหตุจำเป็นต้องใช้เธอจะทำยังไงฮะเปรมวดี!” ดวงตาคมได้แต่นึกโมโห ครุ่นคิดว่าอีกคนจะหนีหายไปไหนได้ จะมีเงินติดตัวไปสักกี่บาท เพราะเขาจำได้ว่าหญิงสาวขอแค่เงินเดือนหมื่นเดียวกับผู้เป็นลุงเป็นค่าเล่าเรียน และเขาที่ให้เธอแต่เธอก็หยิ่งไม่อยากรับ หาว่าเขาเห็นเธอเป็นผู้หญิงขายตัวบ้างล่ะ หลัง ๆ มาก็เลยไม่เคยได้ให้เพื่อตัดความรำคาญใจของตัวเองล้วน ๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม