ภาพของผู้หญิงที่ใส่ชุดนอนสายเดี่ยวบางเบาใส่สบาย สั้นจนมันร่นขึ้นมาอยู่ตรงขาอ่อนสีขาวนวลเนียนทำให้เขาต้องละสายตาจากเครื่องมือสื่อสารแล้ววางมันลงกับเตียง
“เพราะเธอเริ่มทำตัวมีปัญหา”
เขาเอ่ยด้วยสีหน้านิ่งเรียบ ทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างในมือ ก่อนจะหยิบเอาแว่นตากรองแสงนั้นออกไปจากใบหน้าคมคาย กลับมาเป็นผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาแต่ดูดุเหมือนเสือดังเดิม
“ก็ไม่นะ”
“การที่เธอทำเป็นไม่สนใจฉัน เมินสายและข้อความ นั่นแหละคือทำตัวมีปัญหา เธอกำลังเรียกร้องความสนใจจากฉัน เธอรู้ตัวดีหมวย”
“เปล่า ไม่ใช่” ใครกันจะยอมรับ ก็แค่เธอรู้สึกเบื่อไม่อยากยุ่งกับเขาแล้วต่างหาก เหม็นหน้าไอ้บ้านี่เต็มทน
แต่มานั่งอยู่บนตักเขาคืออะไรนะ
“แล้วเพราะอะไรเธอถึงกล้าทำ” เสียงเข้มพร้อมกับสายตาดุดันที่ส่งมาทำเอาหมวยเล็กนิ่งไป
“หมวยก็แค่อยากถอย หมวยไม่อยากอยู่แบบนี้แล้ว พี่เพลิงก็น่าจะเข้าใจนะ หมวยไม่อยากเห็น”
“ก็อยู่ในที่ของเธอ มันไม่ต้องเห็นอะไรทั้งนั้น ต่างคนต่างอยู่”
“ใจคอจะให้หมวยอยู่แบบนี้ไปจนตายหรือไง หมวยก็อยากเจอคนดี ๆ เจอรักดี ๆ เหมือนกัน”
เพลิงหัวเราะดังหึในลำคอ เขาไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดแบบนี้จากปากของผู้หญิงที่รีดเงินเขาไปจนแทบจะหมดตัวแบบนี้ ขึ้นเตียงทีต้องเสียเงินให้หมวยเล็กตลอด ไม่รู้ว่าเอาไปทำอะไรนักหนา เขาก็ไม่เคยคิดที่จะก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของใคร ไม่อยากสนใจ แค่เรื่องเรียนเรื่องในโรงพยาบาลก็ปวดหัวจะแย่แล้ว
“อยากเจอรักดี ๆ ก็เลิกเห็นแก่เงินก่อน”
“เงินมันจำเป็นเหมือนกัน คนดี ๆ ที่มีเงินก็เยอะแยะไป หาไม่ได้ยากหรอก” หมวยเล็กบอกแล้วมองค้อนอีกฝ่าย “คนรวยแบบพี่ไม่เข้าใจหรอก”
“จำเป็นมากก็อย่าสร้างปัญหา อย่าทำให้ฉันต้องปวดหัว”
“ไม่อะ เรียนจบหมวยก็จะไปอยู่ในที่ของหมวยแล้ว พี่ก็ใช้ชีวิตของพี่ไปเถอะ”
พูดจบมือเรียวเล็กก็ขยับขึ้นมาลูบใบหน้าเนียนสวยของตัวเองเพราะความรู้สึกบางอย่าง มันร้อนเสียจนเหงื่อตก ทั้งที่ในห้องนอนห้องนี้ก็เปิดแอร์เย็นฉ่ำ
คนฟังนิ่งงัน เขาไม่รู้ว่ากำลังรู้สึกแบบไหนกับคำพูดของคนที่นั่งอยู่บนตักเขาแบบนี้ เจ้าตัวสวมชุดนอนบางเบา มองเห็นสัดส่วนโค้งเว้าด้านในเกือบชัด แล้วบางอย่างมันก็น่าจับน่ามอง น่าบีบให้ร้องฉิบหาย
ข้างในก็ไม่มีอะไรด้วย ดีหน่อยยังใส่ข้างล่าง
กำลังอ่อยกูอยู่ชัด ๆ แต่พูดเป็นวรรคเป็นเวรว่าจะไป
“เรียกร้องความสนใจไม่เข้าเรื่อง” ชายหนุ่มเอ่ยน้ำเสียงราบเรียบ
ขณะที่มือหนากำลังลูบไล้ตามเรียวขาขาวเนียนของคนที่นั่งอยู่บนตัก
“ทำไมหมวยต้องเรียกร้อง”
“หึ”
“อ๊ะ !”
คนถูกถามไม่ตอบ เห็นหน้ายียวนของอีกฝ่ายเขาอยากจะขยำด้วยมือ ฟาดปากด้วยท่อนเอ็นแข็ง ๆ ของเขา กดมันทีเดียวจนมิดด้ามให้เข็ดหลาบ คิดแล้วก็ตวัดร่างอรชรลงบนเตียงแล้วขยับไปนั่งคร่อม ล็อกข้อมือเล็กทั้งสองข้างด้วยมือเดียวของเขา
“ไม่อยากได้แล้วเหรอ เงินอีกเป็นแสนที่เธอขอ”
เขาไม่ใช่คนใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ถึงแม้ว่าครอบครัวจะมีฐานะร่ำรวยมหาศาล พ่อเป็นหุ้นส่วนโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง แม่เป็นเจ้าของบริษัทนำเข้าอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีชื่อเสียงในวงการนี้ แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่จะจ่ายเงินกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง
ทว่า ยัยเด็กรุ่นน้องคนนี้กลับไถเงินเขาได้เรื่อย ๆ จนตอนนี้อาจจะเหยียบล้านแล้ว ไม่รู้ยอดมันเท่าไรไม่ได้กลับมาคิดคำนวณด้วยสิวะกู หรือจะเกินล้านไปแล้ว
แม่กูจะรู้หรือยัง