ส่วนเพื่อนฉันนะเหรอ ทะเลาะกันเรื่องแย่งกันโพสต์ในโซเชียลว่าใครจะได้ตั้งชื่อ
“ไอ้ยักษ์ ไอ้เลวแกโพสต์น้องรินได้ยังไง ฉันบอกแล้วว่าชื่อน้องดาไง” สายธารโวย
“ใครไวใครได้โว้ยไอ้ธาร” ยักษ์หัวเราะสะใจ
เนื่องจากผมกับสายธารแล้วก็มิ้นต์อยู่สู้มาด้วยกัน เผชิญทุกปัญหามาด้วยกัน จึงเลื่อนขั้นเป็นเพื่อนสนิทและคำพูดก็สนิทสนมกันมากขึ้น
ฉันยิ้มกับแม่มลที่มองดูสองคนนั้นทะเลาะกัน สักพักดูเหมือนจะเงียบไปจนฉันสงสัย
ยักษ์กับสายธารเครียดเมื่อเห็นว่าคนที่มาเมนต์คือใคร...
‘จากกันไม่ทันครบปีชิงมีลูกก่อนกูเลยเหรอ’ คอมเมนต์จากราม
ผมมองหน้าสายธารแล้วลบคอมเมนต์ของรามออกไป หลังจากมันไม่ติดต่อผมกลับมาทุกช่องทาง ราวกับหนีมิ้นต์ และคิดจะทิ้งเธอแบบให้มิ้นต์ทนไม่ไหวเอง ผมก็ไม่คิดจะนับมันเป็นเพื่อนอีกเลย
มันคือผู้ชายที่เลวคนหนึ่ง
“เป็นอะไรกันทั้งสองคน” ฉันให้นมลูกเสร็จแม่มลที่รักเด็กก็ขอไปอุ้มทันที
“เอ่อ...เปล่ากำลังคิดว่าจะให้ยายหนูชื่ออะไร” สายธารตอบด้วยท่าทางมีพิรุธ
“ชื่อดารินไปเลย ไม่ต้องทะเลาะกัน” ฉันเอาชื่อที่เพื่อนรักทั้งสองตั้งให้มารวมกันเป็นชื่อจริง แต่ว่านามสกุลฉันจะให้ใช้ของใครดี
“งั้นก็ดีเลย...เอาตามนี้แหละ” ยักษ์พูดแล้วรีบเก็บโทรศัพท์ทันที รวมทั้งโทรศัพท์มิ้นต์ด้วย
คาดว่าไอ้รามก็น่าจะอ่านข้อความที่มิ้นต์ส่งไปแล้ว หวังว่ามันคงไม่สงสัยเรื่องเด็กหน้าไอจีของผมนะ
ฉันไม่ได้จับโทรศัพท์นักจึงแทบไม่รู้ความเคลื่อนไหวเลยตั้งแต่คลอด มีสายธารกับยักษ์ที่ช่วยฉันไลฟ์สดขายน้ำพริกเช่นเดิม โดยที่ฉันบอกสูตรการทำและมีแม่มลมาช่วยคุมการผลิตกับช่วยเลี้ยงยายหนูด้วย
ฉันรู้สึกว่าฉันโชคดี ที่ฉันมีเพื่อนที่ดี มีแม่ของเพื่อนที่ดี จนเมื่อเสียงข้อความดังขึ้น
ตริ้ง!!!
@ช่องแชตรามสุดที่รัก
ราม : มิ้นต์เป็นยังไงบ้าง
ราม : สบายดีไหม ขอโทษนะที่มาแล้วไม่บอก
ราม : ที่บอกว่าไม่สบายเป็นอะไรเหรอ
ฉันอ่านข้อความจากเขาด้วยน้ำตา ผ่านมาหกเดือนเขาเพิ่งตอบฉัน หากฉันเป็นอะไรไปจริง ๆ คงเป็นศพอยู่ในคอนโดของเขาไปแล้ว
มิ้นต์ : เราสบายดี ขอบคุณนะที่ทำให้ฉันตาสว่าง
ฉันตอบแค่นั้นแล้วก็บล็อกเขาไป ฉันไม่อยากติดต่อเขาอีกต่อไป ปล่อยให้เขาไปตามทางของเขาแล้วฉันก็ไปตามทางของฉันเถอะ
ราม talk…
ผมตัดสินใจทิ้งทุกอย่างเพื่อเหตุผลบางอย่างที่ไม่สามารถบอกใครได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปหนึ่งปีผมทรมานมาก ผมคิดถึงมิ้นต์ คิดถึงยักษ์ คิดถึงเพื่อนที่มหาวิทยาลัย แต่ผมกลับไปไม่ได้ เพื่ออนาคตของตัวเอง ผมเลือกทำร้ายผู้หญิงคนหนึ่ง
มิ้นต์ Talk…
ฉันไม่รู้เหตุผลที่เขาตัดสินใจตอบกลับฉัน ฉันรู้แต่มันสายไปแล้ว สายเกินไปที่คนอย่างฉันจะให้อภัยผู้ชายเลว ๆ คนนั้น ตอนนี้สิ่งที่ฉันทำคือเพื่อลูกสาวและเพื่อครอบครัวของฉัน ดารินจะมีลุงยักษ์กับป้าสายธาร ไม่จำเป็นต้องมีพ่อแบบใครเขาก็ได้
น้ำพริกกากหมูแม่มิ้นต์นั้นขายดีมาก มากจนฉันมีเงินสร้างโรงงานเล็ก ๆ ในพื้นที่ใกล้บ้านของยักษ์ได้และเพื่อสะดวกในการเลี้ยงลูก ฉันจึงแยกที่ทำงานและที่เลี้ยงลูก เมื่อดร็อปเรียนครบหนึ่งปีฉันก็ไปเรียนกับรุ่นน้อง แต่ไม่ได้ทำให้ฉันเก้อเขิน เพราะรุ่นน้องพวกนี้ก็คือคนที่ไปช่วยงานที่โรงงานน้ำพริกกากหมูแม่มิ้นต์
ฉันจะไลฟ์ตอนเย็นพร้อมกับถ่ายให้ดูวิธีการทำที่สะอาดถูกหลักอนามัย ทำให้ยอดซื้อถล่มทลายมากขึ้น ฉันเปลือยประวัติของฉันที่ท้องในวัยเรียน แล้วสู้ชีวิตทำน้ำพริกขาย กลายเป็นสตอรี่ที่เป็นไวรัลในโลกโซเชียล ว่าต่อให้ฉันมีลูกก็ไม่ทิ้งการเรียน ทั้งยังใจสู้หาเงินด้วยตัวเอง
แม่ฉันคงไม่รู้ข่าวของฉันนัก เพราะแม่เป็นคนไม่รู้เทคโนโลยีรู้เพียงแค่รับสาย ฉันส่งเงินให้แม่ใช้เดือนละสองหมื่นทุกเดือน พร้อมกับบอกแม่ว่าทำน้ำพริกขายกับเรียนไปด้วย ซึ่งแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรฉันทั้งยังอวยพรให้ฉันประสบความสำเร็จ
เวลาผ่านไปสามปี ฉันเรียนปีสี่เทอมสอง และต้องรับมือดารินน้อยวัยสามขวบที่ยังพูดไม่ชัดแต่กว่าจะนอน
กว่าจะไปเนอสเซอรี่ได้แต่ละวันเล่นเอาคนเป็นแม่ปวดหัว
ลูกบิดประตูห้องนอนถูกหมุนเปิดออกอย่างเงียบเชียบด้วยมือป้อม ๆ ดวงตากลมสวยหวานถอดแบบจากคุณแม่คนสวย ที่นับวันจะมีความเปรี้ยวซ่าเข็ดฟัน เพราะต้องเปลี่ยนลุคในการแต่งตัว กลายเป็นคุณแม่สุดเปรี้ยวเป็นที่โด่งดังในวงการน้ำพริกกากหมู
ท่ามกลางแสงสลัวในยามเช้าตรู่เป้าหมายคือร่างที่กำลังนอนหลับใหลอยู่ในห้องรับแขกที่เป็นโซฟาเบด หลังจากพยายามดึงผ้าเพื่อปลุกคนบนเตียงเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผล เพราะเจ้าของร่างทำงานมาจนดึกและไม่อยากเข้าห้อง นอนจึงนอนที่ห้องรับแขก
ร่างน้อยของดารินไม่ยอมแพ้ เดินไปหยิบไม้กวาดแล้วตบเข้าที่สวิตช์ไฟ แสงไฟที่สว่างจ้าบนเพดานปลุกคนที่ต้องการพักผ่อนจากความเหน็ดเหนื่อยมาค่อนคืนให้ตื่นขึ้น
“ดารินเหรอคะ”
“ค้า!!!” สายตาของยักษ์พร่าเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นนั่งด้วยหัวยุ่งเหยิง แล้วเข้าไปกอดยายหนูหลานรักที่ทำให้ไม่ยอมไปทำงานในกรุงเทพฯ เปิดบริษัทรับงานก่อสร้างบ้านจัดสรรอยู่แถบเขาใหญ่
ใช้เวลาสักครู่ลุงยักษ์คนดีคนเดิมของดารินก็มองสาวน้อยวัยสามขวบได้อย่างชัดเจน พร้อมกับรอยยิ้ม
มือใหญ่เอื้อมไปอุ้มแม่หนูน้อยขึ้นมา ลูบแก้มใส ๆ อย่างทะนุถนอม
“คูมลุงดารินหิวนม”
ยักษ์ผู้เหี้ยมโหดเวลาคุมงาน กลายเป็นแมวน้อยเวลาอยู่กับหลานรักทันที
“คร้าบ...คุณหนูดารินคนฉวย” ผมแกล้งพูดไม่ชัดตามหลานบ้าง สร้างความน่ารัก แต่มักจะโดนเบ้หน้าจากยายเลขาสายธารตัวแสบ ที่ยัดเยียดตำแหน่งงานนี้ให้ผม เพราะอยากอยู่กับหลานไม่ต่างกัน
ผมต้องจ้างไอ้ธารเป็นเลขาทั้งที่อยากได้เลขาอวบอิ่ม ไฟหน้าใหญ่ก้นสะบึมก็ตาม
แต่ยังไม่ทันที่ผมจะเดินไปชงนม เสียงรถสปอร์ตคันเท่แปลกตาก็แล่นมาจอดที่หน้าบ้านของผมเสียก่อน ผมอุ้มยายหนูเดินไปเปิดประตู แล้วจึงเห็นไอ้ตัวเหี้ยเปิดประตูเข้ามา...