บทที่ 2 เขาใจร้าย2/2

1136 คำ
“เรา...เราเวียนหัว แล้วก็คลื่นไส้” ฉันบอกยักษ์ไป แต่เมื่อหันหลังร่างกายของฉันก็ค่อย ๆ ร่วงลงกับพื้นพร้อมกับสติที่เลือนราง กับเสียงแว่วในหูของยักษ์ที่เรียกชื่อฉัน @ โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ดวงตากลมคู่สวยค่อย ๆ กะพริบขึ้นก่อนจะหลับลงอีกครั้งเพราะสู้แสงสีขาวจากดวงไฟด้านบนไม่ได้ ฝ้าเพดานสีขาวกับสายระโยงระยางด้านข้างที่มีขวดน้ำเกลือแขวนอยู่กับเสาสแตนเลส เมื่อขยับมองด้านซ้ายพบชุดโต๊ะเก้าอี้บุนวมหรูหราสำหรับนั่งพักให้ญาติที่มาเยี่ยม มองไปอีกฝั่งเห็นคนที่คุ้นเคยกันดี คือเพื่อนยักษ์ตัวใหญ่ที่นั่งทำหน้าเครียดอยู่ที่โซฟา ทำให้ฉันเอ่ยเรียก “ยักษ์เหรอ” เสียงฉันแหบพร่าเพราะขาดน้ำ แล้วคนที่ฉันเรียกก็รีบลุกขึ้นมาด้านข้างเตียงคนไข้ พร้อมลากเก้าอี้มานั่งใกล้ ๆ ด้วยกัน “มิ้นต์ฟื้นแล้วเหรอ หิวน้ำไหม” ฉันพยักหน้าให้กับเพื่อนแล้วเขาก็รินน้ำจากขวดใส่แก้วแล้วยื่นหลอดถึงปากฉัน จนน้ำพร่องไปครึ่งแก้วฉันจึงผละออก “เวียนหัวอยู่ไหม ดีขึ้นหรือยัง” “อื้ม...ดีแล้ว พาฉันมาโรงพยาบาลแพงขนาดนี้ ฉันไม่มีเงินหรอกนะ” บ้านฉันจนคนทั้ง sec. รู้ดีและฉันก็ได้รับสมญานามว่าเป็นพวกเด็ดดอกฟ้า หมาเห่าเครื่องบินตอนคบกับราม “อย่าห่วงเรื่องนั้นหน่อยเลยน่า เธอต้องดูแลตัวเองดี ๆ นะไม่ใช่ตัวคนเดียวแล้ว” คำพูดของยักษ์ทำให้ฉันขมวดคิ้ว อยากรู้ว่าไม่ได้ตัวคนเดียวคืออะไร “เธอกำลังมีน้องนะ” “มีน้อง!!!” เสียงฉันหายเข้าไปในลำคอ พร้อมกับอาการตกใจจนช็อกไป ฉันท้อง! “ฉันพยายามติดต่อรามอยู่ แต่ยังติดต่อไม่ได้ เอาไว้ติดต่อได้แล้วจะบอกนะ” ยักษ์ไม่อยากให้ฉันคิดมากจึงปลอบใจฉัน แต่ฉันรู้ดีว่ารามไม่ได้อยากรับผิดชอบฉันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นรามจะหนีไปโดยที่ไม่ลาสักคำได้ยังไง “ยักษ์ ไม่ต้องบอกรามถือว่าเราขอ” ฉันขอร้องยักษ์ ในเมื่อรามเลือกจะทิ้งทุกอย่างที่เมืองไทย แล้วไปเริ่มต้นใหม่ที่อังกฤษ ฉันก็ไม่ควรฉุดรั้งเขาไว้ ฉันต่างหากที่ไม่รู้จักป้องกันให้ดี บางวันก็ลืมกินยาคุม จนทำให้มีเจ้าตัวเล็กมาอยู่ในท้องของฉัน ‘แม่จะเลี้ยงหนูเองนะ’ ฉันเอามือลูบท้องเบา ๆ แล้วคิดถึงลูกที่อยู่ข้างใน ต่อให้ไม่มีพ่อแล้วเราก็อยู่สองคนแม่ลูกได้ ฉันจะเป็นทั้งพ่อและแม่ให้กับลูกเอง ฉันให้ยักษ์ขอหมอให้ออกจากโรงพยาบาลเร็วที่สุด อีกอย่างยักษ์เป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่าย แต่ว่าฉันเกรงใจเขาเพราะเขาไม่ได้เป็นอะไรกับฉันเลยด้วยซ้ำไป ยังต้องมารับผิดชอบอีก ฉันพยายามเก็บน้ำตาเอาไว้ ไม่ปล่อยให้มันไหลออกมา เมื่อยักษ์ส่งฉันถึงห้องแล้วฉันก็เก็บมันไม่ไหวอีกต่อไป ฉันไม่ได้เสียใจที่พลาดจนท้อง แต่เสียใจที่คนทำไม่อยู่เป็นกำลังใจให้ต่างหาก “รามนายใจร้ายมาก” ฉันพูดใส่หมอนฟูมฟายถึงเขาจนหลับไป โดยไม่ได้กินโจ๊กที่ยักษ์ซื้อมาให้ด้วยซ้ำ ฉันหลับข้ามวันจนเมื่อเช้าวันใหม่ เพื่อนยักษ์ก็ยังคงมาเคาะประตูเช่นเดิม แต่คราวนี้ยักษ์ไม่ได้มาคนเดียวแต่พาสายธารเพื่อนสนิทของฉันอีกคนหนึ่งมาด้วย “มิ้นต์...ทำไมแกไม่บอกฉันวะ” สายธารมาถึงก็โวยวายพร้อมน้ำตาพรากเพราะสงสารฉัน แล้วฉันจะกลั้นน้ำตาได้ยังไง เมื่อคืนคิดว่ามันไหลจนแห้งแล้ว แต่เมื่อพบกับเพื่อนสนิทที่ฉันไว้คอยปรับทุกข์อีกคน น้ำตาก็ไหลออกมาอีกแล้ว “ไอ้รามไอ้คนเลว” สายธารด่าแฟนฉันไม่เหลือชิ้นดี แทบจะด่าแทนฉันไปหมดแล้ว เมื่อสายธารกับฉันสงบสติอารมณ์ได้แล้ว ยักษ์ที่ปล่อยให้ฉันกับสายธารปรับทุกข์โดยการอาสาไปซื้อข้าวให้พวกเรากิน พวกเรากินข้าวนั่งล้อมวงในห้องราม ต่างคนต่างเขี่ยข้าวไม่ได้ตักเข้าปากสักคำ จนยักษ์เริ่มต้นพูดขึ้นก่อน “จะเอายังไงต่อ” ยักษ์ถามพร้อมหันหน้ามองฉัน “ฉันก็จะทำงานเลี้ยงลูกแล้วก็ดร็อปเรียน 1 ปี” มหาวิทยาลัยมีโควตาให้เรียนได้ถึงแปดปี จบช้าหน่อยดีกว่าไม่จบ แม่หวังกับฉันไว้มากเรื่องใบปริญญา ฉันจะโกหกแม่ว่าเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย เลยจบช้า “ไม่บอกที่บ้าน?” สายธารถามด้วยความเป็นห่วง เลี้ยงลูกคนเดียวจะไหวได้ยังไงกัน “ไม่ ฉันจะไม่เอาภาระไปฝากแม่ เมื่อฉันทำแล้วฉันก็ต้องยอมรับผลของการกระทำ” ฉันบอกเพื่อนเรื่องที่ฉันคิดดีแล้ว “แกจะทำอะไรท้องอยู่ แล้วบริษัทที่ไหนก็ไม่รับคนท้องหรอกนะ” สายธารเป็นห่วงกลัวเพื่อนจะหักโหม “ก่อนรามจะกลับโอนเงินให้ฉันห้าหมื่น ฉันจะเอาเงินก้อนนี้ไปเช่าบ้าน แล้วก็เปิดขายน้ำพริกกากหมูออนไลน์ ช่องที่ฉันอัปวิดีโอทำอาหารอยู่บ่อย ๆ มีคนติดตามเป็นหมื่นคนแล้ว ฉันคิดว่า...” “มิ้นต์...ไม่บอกรามจริงเหรอ” ยักษ์ถามขึ้นกลางปล้อง เขาไม่จนขนาดจะดูแลแทนไอ้รามไม่ได้ เขาก็รวยไม่ต่างจากไอ้ราม เพียงแต่เขาอยากให้มันรู้ว่ามันกำลังมีลูกนะ เผื่อมันจะรีบกลับมา “ยักษ์ถือว่าเราขอ...” ฉันไม่อยากคิดถึงผู้ชายห่วย ๆ คนนั้นอีก ความรักครั้งแรกของฉันมันแหลกสลายไปแล้วตั้งแต่วันที่เขาทิ้งฉันไป “โอเค...เรามีบ้านมาเสนอ สามห้องนอน เราและสายธารจะแชร์ห้องกับเธอ จะได้ดูแลเธอได้ด้วย คนท้องอยู่คนเดียวลำบาก อีกอย่างคอนโดไอ้รามมันก็ไม่เหมาะกับคนท้องอยู่” ใช่มันแคบไปสำหรับผม ผมไม่ชอบคอนโด ส่วนบ้านนั้นน่ะเหรอ พ่อผมซื้อที่แล้วก็ปลูกให้ผมอยู่เพื่อเรียนที่นี่นั่นแหละ เนื่องจากมันใกล้มหาวิทยาลัย ทั้งทำเลดี วิวเขาใหญ่ อนาคตราคาแพงคุ้มค่าลงทุนแน่นอน ฉันคิดแต่เมื่อเห็นสีหน้าเพื่อนแล้ว ฉันก็ได้แต่พยักหน้าตกลง อย่างน้อยเวลามีอะไรก็ยังมีเพื่อนช่วยเหลือ ฉันจะจำเพื่อนสองคนนี้ไปจนวันตายเลยล่ะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม