มือเล็กล้วงหยิบเอารีโมตกุญแจรถออกจากกระเป๋า ยกขึ้นกดค้างเพื่อให้รถปลดล็อก เสียงและแสงจากไฟหน้ารถจะทำให้ฉันหาเจอ อาคารจอดรถของมหาวิทยาลัยมี 5 ตึกและถ้าหากวันไหนที่มาสาย ตึกจอดรถที่ประจำของตัวเองเต็มก็ต้องไปตึกอื่น แล้วเมื่อไม่ได้จอดที่ประจำก็ไม่เคยหารถตัวเองเจอได้ง่าย ๆ เลย
สมองก็มีน้อยแค่คิดเรื่องที่จอดรถก็เหนื่อยแล้ว นี่ต้องมาคิดเรื่องไอ้คนไม่ปกตินั่นอีก!
“ไม่”
พรึ่บ!
คำตอบเพียงสั้น ๆ ของพันดาวนั้นทำให้ฉันหยุดเดิน หันขวับไปจ้องหน้าน้องอย่างไม่เข้าใจ
“....” คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน ทำไมน้องฉันไม่แก้ข่าวไปล่ะเนี่ย!
“ก็เรื่องจริงไม่ใช่เหรอ” พันดาวเอียงคอมอง ยกแก้วโกโก้ขึ้นดูดด้วยสีหน้าแววตาใสซื่อ
“มันจริงซะที่ไหนล่ะ!”
“ยังเอาดอกไม้ไปให้แฟนอยู่เลย เดินเอาไปให้เองด้วยใคร ๆ เขาก็พูดกัน” พันดาวเถียงกลับอย่างไม่ยอม
“มันไม่ใช่ดอกไม้ มันคือผัก!” แล้วไม่เห็นจะมีใครพูดบ้างล่ะว่าเขาเอาสังฆทานมาให้ฉันน่ะ! คนปกติที่ไหนมันจะทำแบบนั้น เลือกมาแต่ละอย่างมองหางตาก็รู้ว่าตั้งใจกวนประสาท!
“แสดงว่าพี่เขียนเป็นห่วงแฟนมาก ๆ!” คำว่า ‘แฟน’ ที่ออกจากปากพันดาวทำเอาขนลุกเกรียวไปทั่วตัว
“แฟนที่ไหนบอกว่าไม่ได้เป็น!”
“ทำไมไม่เป็น ตระกูลพงศ์สานุกรณ์เลยนะ!”
“พงศ์สานุกรณ์แล้วจะทำไม!” ฉันรู้ว่าบ้านพวกเขาทำอะไรเป็นใครมาจากไหน เรารู้ดีแค่เอ่ยนามสกุลนี้ออกมา!
“บ้านเขารวย!” พันดาวตอบกลับอย่างไม่ยอมเช่นกัน
“แล้วบ้านเราไม่รวยหรือไง!” บ้านเราไม่แพ้พวกนั้นหรอก ไม่เห็นจะสนใจเลยว่ารวยหรือไม่รวยน่ะ!
“ก็รวย แต่อยากมีพี่เขยรวยด้วย หล่อด้วย!”
“พันดาว โอ๊ย!” ปวดหัวกับน้องตัวเอง!
ปิ๊น!
“กรี๊ด! /กรี๊ด!”
เสียงแตรรถดังลั่นทำเอาเราสองคนพี่น้องกรีดร้องด้วยความตกใจ พันดาวกระโดดเกาะแขนฉันไว้แน่นแล้วหันมองไปตามเสียงพร้อมกัน รถ Aston Martin สี Storm Black เสียงเครื่องยนต์ก็ไม่ได้ยินเงียบสงบทุกอย่างเลยไม่รู้เลยว่ารถนี้มีคนอยู่ ดวงตากลมไล่มองไปยังรถที่จอดอยู่ในล็อกในขณะเดียวกันเท้าเล็กก้าวเดินถอยออกห่าง
ทะเบียนนี้ รถรุ่นนี้มีแค่คนเดียวเท่านั้นในมหาวิทยาลัย...แอสตัน
รถหรูค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกมาและทำให้เห็นว่ารถของเขาไม่ได้ปิดกระจก มั่นใจได้เลยว่าได้ยินทุกอย่างแน่นอน แต่แอสตันไม่แม้แต่จะหันมาให้ความสนใจฉัน สายตาของเขามองตรงไปข้างหน้ามือข้างหนึ่งจับพวงมาลัยหมุนบังคับตัวรถให้เลี้ยวไปตามทาง กระจกสีดำมืดค่อย ๆ เลื่อนขึ้นปิดจนสุด
“พี่มาร์ตินหรือเปล่าดูเขาเงียบ ๆ นิ่ง ๆ” พันดาวมองตามหลังรถที่ขับออกไป แล้วหันมาถามฉันด้วยความสงสัย เมื่อไรน้องฉันจะแยกฝาแฝด 2 คนนี้ออกได้นะ
“แอสตัน” พูดจบก็เดินไปหารถของตัวเองต่อ ซึ่งพันดาวตามเกาะแขนมาไม่ยอมห่างอีกเช่นเคย
“แฟนพี่เขียนนี่”
“ไม่ใช่ พูดจนปากฉีก แล้วไม่เห็นเหรอว่าเขาเมินพี่” ยังจะปักใจว่าแฟนอยู่ได้
“พี่ก็อย่ายอมให้เขาเมินสิ เสียหน้าแย่”
กึก!
เท้าเล็กหยุดยืนยังหน้ารถของตัวที่จอดอยู่หลังช่องจอดรถที่แอสตันพึ่งขับออกไป น่าจะยังอยู่นะฉันจะได้ถอยชนสักทีสองที อยากใช้ประกันมานานแล้ว
“ทำไมต้องสนใจ” การตอบกลับอย่างไม่แยแสของฉันทำพันดาวยังไม่เลิกทำหน้านิ่วคิ้วขมวด
“แต่เขาเมินพี่นะ”
“....” ไม่รู้จะอธิบายน้องตัวเองยังไงแล้ว พันดาวพึ่งเข้าเรียนปีหนึ่งอาจจะเข้าใจไปว่าเราสองคนเป็นแฟนกันจริง ๆ ถ้าเป็นคนอื่นไม่มีใครเชื่อหรอกเรื่องวุ่นวายของเรามันมีมานานแล้ว ยังไงมันก็แค่ข่าวลือทั้งนั้นหรือว่ารอบนี้เชื่อกัน?
“เสียชื่อพ่อมากเลย”
“จะเสียได้ยังไง ไม่ได้ทำอะไรไม่ดีสักหน่อย”
“เสียสิ ลูกสาวคนโตของพ่อธาดาโดนลูกชายบ้านพงศ์สานุกรณ์เมิน ไม่แยแส ไม่สนใจความสวย ไม่แม้แต่ชายตามอง เรื่องเป็นแฟนก็แค่ข่าวลือเป็นตัวตลกให้เขาปั่นหัว” พันดาวเดินรอบฉันในระหว่างที่พูดไปด้วย แต่ละคำฟาดเข้าหน้าอย่างจัง
“ที่พูดมาเนี่ยเหมือนเราไม่ได้เป็นพี่น้องกันเลยนะ ขึ้นรถกลับบ้านคืนนี้พี่มีไปธุระ” พูดจบก็เดินไปยังฝั่งคนขับ ส่วนพันดาวรีบพาตัวเองขึ้นนั่งบนรถทันที กลัวจะโดนฉันปล่อยให้วิ่งตามล่ะสิ
“ไปหาแฟนเหรอ” ขึ้นรถมาแล้วก็ยังไม่หยุดสงสัย
คำถามของพันดาวฉันเลือกที่จะไม่ตอบ ไปหาแฟน? ไปทำให้ไอ้บ้านั่นไม่กล้าเมินฉันต่างหาก
(แอสตัน)
ณ บ้านพงศ์สานุกรณ์
“ลุงนิดยังไม่ต้องเอารถไปล้างนะ เดี๋ยวผมจะออกไปข้างนอกอีกรอบกลับมาค่อยล้างทีเดียวครับ”
“ได้ครับ”
เสียงขานรับคำสั่งของลุงนิดหัวหน้าคนขับรถประจำบ้านอย่างเข้าใจ ร่างสูงก้าวเท้าเดินเข้าไปในบ้านสายตาจับจ้องยังหญิงสาวที่ยืนมองเขาอยู่ ดูเหมือนว่าสิ่งที่พูดไปเมื่อครู่คนตรงหน้าจะได้ยินเป็นที่เรียบร้อยแล้วสินะ
“วันวาเลนไทน์แบบนี้ จะไปหาสาวที่ไหนเหรอคุณแอสตัน” น้ำเสียงหวานใสของแม่เอ่ยถามขึ้น สายตาจับจ้องยังลูกชายตัวเองที่ตรงเข้ามาหา แขนแกร่งยกขึ้นสวมกอดเอวบางไว้แล้วเอียงหัวซบกับไหล่อย่างออดอ้อน
“สาวคนเดียวในหัวใจก็มีแค่แม่โซเท่านั้น” คำพูดที่ฟังยังไงก็รับรู้ได้ถึงความน่าหมั่นไส้ แต่เป็นยันต์กันแม่ได้อย่างดีเยี่ยมแน่นอน