(เขียนฝัน)
“วันนี้มีใครว่างมั้ย”
สิ้นเสียงคำชวนทั้งสามคนได้แต่จ้องหน้าฉันเขม็ง คำชวนที่รู้อยู่แล้วว่าไม่มีใครว่างไปด้วยแน่นอนพวกเราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมย่อมรู้ดีว่าวันเทศกาลสากลแบบนี้จะมีอะไรบ้าง
“ฉันกับเต๋าเต้ยต้องแว้นรถกลับนครปฐม เพราะเป็นวันครอบครัวและวันครบรอบแต่งงานของพ่อกับแม่แกก็รู้นี่เขียน” ตลอดเวลาที่รู้จักกับปลาเก๋า วันวาเลนไทน์ทุกปีเพื่อนของฉันกับฝาแฝดตัวเองต้องกลับบ้าน พ่อแม่ของปลาเก๋าจะมาจากพิษณุโลกเพื่อมาหาลูก ๆ ระดับลูกสาวลูกชายเจ้าของสวนทุเรียนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เวลาเลยไม่ค่อยตรงกันสักเท่าไร ยิ่งอยู่กันคนละพื้นที่อีกด้วย
“ต้องไปงานแต่งกับพ่อ มั่นใจได้ว่าบ่นให้ฟังแล้วเรื่องหาชุด” โป๊ยเซียนยกแขนกอดอกทำหน้าเบื่อหน่าย
งานวาเลนไทน์มักจะมีงานแต่งงานของบรรดาคนใหญ่คนโตในเขตพื้นที่ ซึ่งพ่อของโป๊ยเซียนเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ครองพื้นที่มาหลายสิบปี ลุงก็เป็นถึงรองรัฐมนตรีระดับสูง เรียกได้ว่าบ้านของโป๊ยเซียนมีอำนาจทางการเมืองอย่างแท้จริง ไม่งั้นไม่สามารถปล่อยเงินกู้ในมหาวิทยาลัยได้หรอก
ใครจะไปกล้าทำอะไรเพื่อนฉัน ครึ่งมหาวิทยาลัยเป็นลูกหนี้ยัยนี่...
“ทิศเหนือ” ตัวช่วยสุดท้ายของฉันในตอนนี้ก็เหลือแค่...
“ต้องไปเก็บเงินร้านทุกที่วันนี้จะขายดีเป็นพิเศษ ถ้าเสร็จแล้วจะรีบตามไปรอหน่อยแล้วกัน” บ้านของทิศเหนือทำห้างทอง ภายในกรุงเทพมีไม่ต่ำกว่า 15 แห่งและส่วนใหญ่จะอยู่ในห้างสรรพสินค้า เทศกาลแห่งความรักที่ผู้คนมักซื้อของสำคัญมอบให้กันซึ่งมันก็เป็นช่วงที่ร้านจะขายดี ในฐานะ ‘ลูกชาย’ เพียงคนเดียวย่อมต้องทำหน้าที่ดูแลเรื่องเงินของบ้าน
“ไม่เป็นอะไร เดี๋ยวจัดการเอง แค่แกขับรถไปทุกร้านก็เหนื่อยแล้ว” แค่ขับรถไปครบทุกที่ด้วยตัวเองก็กินเวลาไปเท่าไรแล้ว ใช่เรื่องจะรบกวนให้เพื่อนต้องรีบมาหาตัวเองอีก
“มึงไปกับกูมั้ยล่ะเขียน ว่าแต่มาร์ตินจะมาด้วยหรือเปล่า...” แววตาเป็นประกายของทิศเหนือทำให้เราทุกคนหันไปมอง
“เป็นเมียเขาทำไมไม่รู้ล่ะว่ามาร์ตินจะไปหรือเปล่า เป็นเมียก็โทรไปถามสิเบอร์ก็แอบเอามาให้แล้วไง” ปลาเก๋าเอียงคอถามทิศเหนือที่นั่งอยู่ข้างกัน ในมือยกแก้วชาเย็นขึ้นดูดด้วยสีหน้ามีความสุข
“จริตหญิงเราก็ต้องมีบ้างนะคะจะให้พุ่งตรงเข้าหาโต้ง ๆ ก็ไม่เหมาะสม จะให้ทำตัวเหมือนอีเขียนอีโป๊ยไม่ต้องมีผัวกันพอดีชาตินี้ รุนแรงดุยิ่งกว่าหมา”
“โทษทุกอย่างยกเว้นโทษหน้าตัวเอง ไม่สวยเขาก็ไม่เอาไง” โป๊ยเซียนมองหน้าทิศเหนือด้วยหางตา
“สวยแต่มึง...อุ๊ย นั่นของขวัญนี่ นางมองมึงค่ะเขียน” สายตาของทิศเหนือมองเลยไปยังด้านหลังของฉัน ชื่อนี้อีกแล้ว...
“ไหน” โป๊ยเซียนเอี้ยวตัวหันไปมองอย่างตรงไปตรงมา
‘ของขวัญ’ รุ่นน้องปี 3 ที่ใคร ๆ ก็รู้กันดีว่าเธอเคยคบกับแอสตัน แต่ปลาเก๋าไปสืบจากเต๋าเต้ยว่านางคิดไปเองคนเดียว ทั้งคู่เป็นเพียงแค่คนคุยกันเท่านั้นและของขวัญพยายามประกาศตัวว่าเป็นแฟน จนวันหนึ่งฝ่ายชายก็ห่างออกไปเอง
และที่สำคัญเลยยังเป็นรุ่นน้องในคณะที่มีเรื่องกับโป๊ยเซียนตั้งแต่ปีแรกที่เข้ามาจนถึงปัจจุบัน ความไม่ชอบขี้หน้ากันเกิดขึ้นในอารมณ์ของผู้หญิงอย่างงง ๆ
แล้วยิ่งมีเรื่องฉันไม่ลงรอยกับแอสตัน ยิ่งทำให้เธอไม่ชอบพวกเราหนักเข้าไปอีก แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจหรอกนะต่างคนต่างอยู่ อย่ายุ่งกับคนรอบตัวฉันที่ไม่เกี่ยวข้องด้วยก็พอ...
“หันไปมองกันขนาดนี้ตั้งใจมีเรื่องชัด ๆ เลย หันหน้ากลับมาเดี๋ยวนี้นะ หันมา ๆ” ปลาเก๋าใช้มือตบโต๊ะเป็นการเรียกให้เพื่อนหันมาสนใจที่ตัวเอง แต่ไม่มีใครทำตามเลยสักคนรวมไปถึงฉันที่หันไปมองด้วยอีกคน เราจ้องหน้ากันซึ่งกลุ่มของของขวัญทำเพียงมองแล้วเดินผ่านไป
“น่าจะไม่พอใจเรื่องแกกับแอสตัน” โป๊ยเซียนพูดขึ้น สายตายังคงมองตามพวกนั้นจนลับสายตา
“ไม่พอใจแล้วไง มันไม่ใช่เรื่องจริงสักหน่อย”
“ทำให้เป็นเรื่องจริงไปเลย หมั่นไส้ยัยนั่น” โป๊ยเซียนละสายตามาจ้องหน้าฉัน สิ่งที่พูดนั้นทำเอาขนลุกซู่ไปทั่วตัว พูดเรื่องน่ากลัวอะไรออกมาเนี่ย!
“โป๊ย...มีคนตายได้เลยนะกับสิ่งที่พูดมาน่ะ ไปเรียนกันได้แล้วเร็ว” พูดจบก็ลุกขึ้นยืนโดยที่เหลือก็ลุกตามมา ความรู้สึกสังหรณ์ใจแปลก ๆ เริ่มก่อเกิดกับตัวเองแต่เลือกที่จะเงียบและเก็บมันเอาไว้
หรือว่าฉัน...ไม่ควรไปคืนนี้
ณ อาคารจอดรถของมหาวิทยาลัย เวลา 14.15 น.
“เขาพูดกันให้ทั่วเลยว่าพี่เขียนกับพี่แอสเป็นแฟนกัน มีคนมาถามเยอะแยะไปหมดจนเรียนไม่รู้เรื่องเลย”
เสียงหวานสดใสของ ‘พันดาว’ กำลังบอกเล่าสิ่งที่ตัวเองได้ยินมา และทุกคนในมหาวิทยาลัยย่อมรู้ว่าพันดาวเป็นน้องสาวของใครมั่นใจได้เลยว่าจะต้องเจอคนเข้าไปถาม เพราะตัวเองยังเจอเลยแล้วพันดาวที่เป็นเด็กปีหนึ่งย่อมเจอพวกรุ่นพี่ที่ไม่กล้ามาถามตัวต้นเรื่อง แต่แอบไปเกาะแกะน้องสาวฉันแน่นอน!
“แก้ข่าวให้มั้ย” ปากก็ถามสายตาก็กวาดมองไปรอบตัวเพื่อหารถ น้องฉันต้องรู้ดีกว่าใครสิว่าพี่สาวตัวเองไม่มีแฟนสักหน่อย